Nissan (นิสสัน) เรียกได้ว่ากำลังเตรียมตัวผลักดันตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ให้กับประเทศที่ขายดี
ด้วยการนำรถครอสโอเวอร์ 3 รุ่นที่มีขายกระจายอยู่ทั่วโลกคือ Nissan Qashqai, Nissan Juke และ Nissan X-Trail (นิสสัน เอกซ์-เทรล) ให้กลายมาเป็นรถไฟฟ้าภายในปี 2025
โดยการชับเคลื่อนนี้ จะมีพื้นฐานจากขุมกำลัง e-Power อันโด่งดังของทางค่าย ซึ่ง Guillaume Cartier นายใหญ่ของ Nissan Europe กล่าวว่า มันจะเป็นการช่วยเหลือการผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าได้เป็นอย่างมาก และจะทำให้พวกเขามียอดขายกว่าครึ่งในปี 2030 เป็น EV
ซึ่งด้วยระบบ e-Power นี้เองที่ช่วยให้ Qashqai เติบโตได้ในตลาดยุโรปจนขายได้กว่า 105,956 คันในปีที่แล้ว
อ่านเพิ่มเติม 2023 Nissan Kicks e-Power หยุดรับจองในญี่ปุ่นด้วยสาเหตุนี้!
“ประเด็นคือเรากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด จาก e-Power แล้วค่อยเป็น BEV เพราะเราพึ่งเปิดตัว e-Power ไปได้ไม่นานนี้” Cartier กล่าว
"เราต้องใช้ประโยชน์จากตัว Qashqai เรากำลังวิวัฒนาการ ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมองเรื่องของอนาคต”
ทางค่ายยังมีความคาดหวังกับขุมพลังไฟฟ้าเพื่อกู้คืนยอดขาย X-Trail ที่ตกลงมาถึง 74% ในยุโรปปีที่แล้วเหลือเพียง 2,380 คัน น้อยกว่า Ariya ที่ขายได้ 3,182 คัน
รถทั้งสามรุ่นมีการคาดเดาว่าจะใช้แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมีการแชร์กันระหว่าง Renault-Nissan-Mitsubishi ชื่อ Common Module Family (CMF) ที่สามารถใช้งานได้หลายตัวถัง, ฐานล้อ และขนาดแบตเตอรี่ ซึ่งมีการใช้ไปแล้วใน Ariya, CMF-EV และ Renault Mégane E-Tech Electric
ปัจจุบันทั้ง Qashqai และ X-Trail ที่มีขนาดใกล้เคียงกันกำลังใช้แพลตฟอร์ม CMF-CD ส่วน Juke จะใช้ CMF-B ที่เล็กกว่า เหมือนกับใน Renault Clio
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ที่จะมาแทนที่รุ่นปัจจุบันจะมาถึงในช่วงปี 2025 และ 2027 ซึ่ง Juke EV จะมาก่อน แต่ Cartier กล่าวว่าทั้ง 3 รุ่นจะขายพร้อมกับรุ่นย่อย e-Power
จนถึงขณะนั้น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ก็จะก้าวหน้าไปไกลแล้ว David Moss รองประธานอาวุโสฝ่าย R&D ของ Nissan ในยุโรป คอนเฟิร์มเมื่อเดือนธันวาคมว่าแบตเตอรี่แบบ lithiumion เจนเนอเรชั่นใหม่ กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ปี ที่จะมีความหนาแน่นและประสิทธิภาพของพลังงานที่ดีขึ้นและต้นทุนที่ต่ำลง
รวมถึงคาดหวังว่ารถเหล่านี้จะมีแบตเตอรี่ที่ช่วยให้วิ่งได้ระยะไกลขึ้นเกินกว่า 500 กม.ด้วยแพคแบตขนาด 90kWh จาก Nissan Ariya และจะลดเวลาชาร์จได้ด้วย