2023 Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) คือหนึ่งในรถยนต์เอนกประสงค์รุ่นเรือธงของค่าย Suzuki (ซูซูกิ) ในประเทศไทย ที่สร้างยอดจำหน่ายไม่น้อยให้กับค่ายรถจากแดนปลาดิบ พร้อมทั้งยังถือเป็นรถรุ่นท็อปของค่ายที่ทำตลาดแมสในประเทศไทย หากไม่นับรวมถึงรถยนต์นำเข้าอย่าง Suzuki Jimny (ซูซูกิ จิมนี่)
แน่นอนว่าเมื่อทำตลาดมาได้อายุสักประมาณหนึ่ง ประกอบกับการที่ฝาแฝดรุ่นน้องอย่าง Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ทิก้า) ได้ทำการปรับโฉมไปก่อนหน้านี้ ทำให้มีการติดตามกันมาได้สักระยะแล้วว่า ซูซูกินั้นจะทำการปรับโฉมให้กับรถยนต์เอ็มพีวียกสูงรุ่นนี้ของเขาเมื่อใด และจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างจากรุ่นที่ทำตลาดอยู่
ล่าสุด อินสตาแกรมของซูซูกิ ประเทศอินโดนีเซีย ได้ลงรูปรถในเงามืด พร้อมตัวเลข 7 ด้านหลัง พร้อมคำอธิบายว่า พลังงานที่ดีกว่า สำหรับอนาคตที่ดีขึ้น นี่คือเวลาที่จะเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่แท้จริง พบกันในไม่ช้า พร้อมระบุเวลาว่า 15.06.2023 ซึ่งก็น่าจะเป็นวันที่จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการนั่นเอง
แน่นอนว่าคือ เอ็กซ์แอล7 แน่นอน แต่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างนะ...
แน่นอนว่าเมื่อรุ่นน้องหันมาคบเครื่องยนต์ไฮบริด แถมประกาศเป็นนัยแบบนั้น เดากันได้เลยว่า Suzuki XL7 รุ่นใหม่จะต้องมาพร้อมเครื่องยนต์ K15B ที่ให้กำลังสูงสุด 104.7 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร มีให้เลือกระหว่างเกียร์ธรรมดา 4 สปีดหรืออัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมด้วยระบบ Smart Hybrid Vehicle by Suzuki (SHVS) ที่ทำการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์ ที่จะช่วยในการออกตัวรถเป็นหลัก พร้อมติดตั้งระบบไอเดิลสต๊อปมาให้ไปพร้อมกัน
หากดูจากภาพหลุดที่ทาง Autofun Indonesia ได้มา จะพบว่ารถคันนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ภายนอกเล็กน้อย โดยได้มีการปรับกระจังหน้าให้มีความแข็งแกร่งบึกบึนขึ้น ด้านท้ายมาพร้อมสปอยเลอร์ขนาดเล็กที่ทำจากโครเมียม ติดตั้งที่ตำแหน่งกึ่งกลางของการ์ดกระจกหลังด้านล่าง ขณะที่ห้องโดยสารภายในนั้น หากดูจากภาพที่ได้มาก็ถือว่าเหมือนกับรุ่นเดิมมาก จนคาดได้ว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร นอกจากติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฮบริดไปเพิ่มเติม
จากการคาดการณ์ของทีมงานพบว่าราคาจำหน่ายของซูซูกิ เอ็กซ์แอล7 รุ่นใหม่นั้นไม่น่าจะปรับขึ้นมากนัก โดยในรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดาน่าจะปรับราคาขึ้นประมาณ 2 ล้านรูเปียส์อินโดนีเซีย (ประมาณ 4,600 บาท) ขณะที่รุ่นไฮบริดนั้นน่าจะมีราคาจำหน่ายที่แพงกว่ารุ่นธรรมดา 15-17 ล้านรูเปียส์อินโดนีเซีย (ประมาณ 3.48-3.94 หมื่นบาท) ซึ่งหลังเปิดตัวในอินโดนีเซียช่วงกลางเดือนหน้า ก็คาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวในประเทศไทยตามมาในอนาคตอันใกล้
ยังไงไม่เกินสิ้นปีนี้ก็ได้เจอคันจริง ๆ อย่างแน่นอน!!!
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}