ผู้บริหารแจงเหตุผลรถยนต์ไฟฟ้าต้องมีอ็อปชั่นไฮเทคกว่ารถเครื่องยนต์ดั้งเดิม

รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกขณะ หลายค่ายรถหันเหมาทำตลาดกันมากขึ้นหวังแบ่งเค๊กแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดที่ขยายตัวต่อเนื่อง

คุณสมบัติสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้ามีมากมาย นอกเหนือจากความประหยัดที่ไม่ต้องเติมน้ำมันอันแพงแสนแพงเหมือนรถเครื่องยนต์ดั้งเดิม รถอีวียังโดดเด่นตรงที่มักมาพร้อมหน้าตาที่ล้ำสมัย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ไฮเทคมากกว่า

แต่คำถามคือทำไมรถยนต์ไฟฟ้ามักมีอ็อปชั่นบางอย่างที่เหนือกว่ารถเครื่องยนต์ทั่วไป มาฟังคำตอบจากปากผู้บริหารบริษัทรถยนต์กัน

ผู้คนคาดหวังมากกว่า

Mercedes-Benz นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นในหลายประเทศทั่วโลก ยกตัวอย่าง EQS SUV มาพร้อมอ็อปชั่นหรูหราอลังการ อย่างระบบเครื่องเสียง Dolby Atmos ลำโพงกระหึ่ม 15 ตัว พร้อมระบบ Spatial Audio ของ Apple

ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Polestar, BYD, Audi และ BMW รวมถึง Porsche ก็จัดหนักจัดเต็มไม่แพ้กัน มีอ็อปชั่นครบครันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เจอร์รี่ สตามูลิส ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Mercedes-Benz Australia กล่าวว่า รถเอสยูวีรุ่นใหม่อย่าง EQE 300 จะมาพร้อมเทคโนโลยีเสียงเซอร์ราวด์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพราะลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคาดหวังสิ่งที่เหนือขึ้นไปอีกระดับ

“เราตระหนักดีว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะถูกคาดหวังมากกว่า” สตามูลิส กล่าวเพิ่มเติม “หากคุณเปรียบเทียบรถยนต์ไฟฟ้ากับรถเครื่องยนต์สันดาปก็จะพบว่าฝ่ายแรกมีมาตรฐานที่สูงกว่าอย่างชัดเจน”

หากตีความในอีกแง่มุมหนึ่งจากความคิดเห็นของผู้บริหารค่ายรถตราดาวก็จะเข้าใจได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าคือสิ่งใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ดังนั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่ดึงดูดใจมากกว่าเพื่อทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนจากสิ่งที่คุ้นชินอย่างรถเครื่องยนต์ไปสู่สิ่งใหม่อย่างรถอีวี

นั่นหมายความว่าเวลานี้คือช่วงเวลาที่ดีในการตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นคันแรกในชีวิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้บริโภคแต่ละคนด้วย หากต้องการรออีกสัก 2-3 ปีเพื่อให้ตลาดนิ่งกว่านี้ก็ทำได้เช่นกัน