2023 Neta GT (2023 เนต้า จีที) รถยนต์ไฟฟ้า 2 ประตูตัวถังคูเป้ ที่มาพร้อมรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยวและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม มีแผนจำหน่ายในบ้านเราเร็ว ๆ นี้ โดยเราได้รับโอกาสในการพรีวิวรถคันนี้ มาดูกันว่ารถคันนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
โดยถือว่า Neta มีความกล้าหาญอย่างมากในการจำหน่ายรถรูปแบบนี้ในตลาดปัจจุบัน
คาดว่า Neta GT จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
Neta GT มีความยาว 4,715 มม. กว้าง 1,979 มม. สูง 1,415 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,770 มม.
รถคันนี้มาพร้อมตัวถังแบบคูเป้ 2 ประตู มีดีไซน์โดยรวมที่ดูโฉบเฉี่ยว แต่ไม่กะทัดรัดเกินไป ดูเหมาะกับการเดินทางไกลสมชื่อ GT ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ LED มือจับประตูไฟฟ้าที่แนบไปกับตัวรถตามสมัยนิยม กระจกไฟฟ้าแบบ Frameless เรียกได้ว่าครบสูตรของรถทรงนี้เลยทีเดียว
ดีไซน์ภายในเป็นแบบมินิมอลตามยุคสมัย หน้าจอ infotainment แนวตั้งแบบสัมผัส Ultra Thin ขนาด 17.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ระบบประมวลผล Smart Cockpit Platform ด้วยชิป Qualcomm Snapdragon รองรับการเชื่อมต่อ 4G และยังมีระบบนำทางแบบเรียลไทม์มาให้
เบาะนั่งคู่หน้าดีไซน์สปอร์ต โดยฝั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ส่วนฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง ภายในรถมีระบบปรับอากาศแยกอิสระซ้าย-ขวาพร้อมระบบกรองอากาศ N95 และมีระบบออกตัวด้วย One-click (One-click Eject Button)
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ได้แก่ ระบบสั่งการด้วยเสียง แท่นชาร์จไร้สาย ระบบเครื่องเสียงลำโพง 12 ตำแหน่ง กล้องรอบคัน หลังคากระจก Panoramic sunroof ไปจนถึงสามารถรองรับระบบ V2L ได้อีกด้วย
สำหรับโทนสีการตกแต่งภายในนั้นจะขึ้นอยู่กับสีภายนอกของตัวรถ โดยทาง Neta ยังไม่เปิดเผยว่าการจับคู่สีภายนอก-ในจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่เราเห็นในตอนนี้คือภายในจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สีคือ สีขาว-น้ำเงิน ให้ความรู้สึกหรูหรา และสีดำ-แดง ที่ให้อารมณ์ของความสปอร์ต
ขุมพลังของ Neta GT สเปคไทยในรุ่นเริ่มต้น GT 660 มาพร้อมมอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า (170 kW) แรงบิด 310 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที พร้อมแหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 74.48 kWh และวิ่งได้ไกลสุด 660 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC)
ส่วนรุ่นท็อป GT 580 AWD มาพร้อมมอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 456 แรงม้า (340 kW) แรงบิด 620 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.7 วินาที พร้อมแหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 78 kWh และวิ่งได้ไกลสุด 580 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC)
อย่างไรก็ตาม ทาง Neta ยังไม่เปิดเผยข้อมูลเรื่องความรวดเร็วในการชาร์จ สำหรับสเปคที่จำหน่ายในบ้านเราแต่อย่างใด
ทั้งสองรุ่นมีช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระดับเบิลวิชโบน และด้านหลังเป็นแบบอิสระ 5-link และมาพร้อมลวดลายของล้ออัลลอยและยางขนาดเดียวกันคือ 245/45 R19 แต่ในรุ่น GT 580 AWD จะเป็นยาง Michelin Pilot Sport 4 High Performance เพื่อรองรับสมรรนะที่มากกว่า รวมถึงให้คาลิปเปอร์เบรคสีแดงมาอีกด้วย
ระบบความปลอดภัยของ Neta GT คาดว่าจะให้มาอย่างครบครันทั้งสองรุ่น เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างเซนเซอร์และกล้อง ซึ่งประกอบด้วย กล้องด้านหน้าแบบ High Perception กล้องรอบคัน เรดาร์แบบ Millimeter wave radar 5 จุด เรดาร์แบบอัลตราโซนิค 12 จุด
รวมถึงซอฟท์แวร์ด้านความปลอดภัย ได้แก่ ระบบประมวลผล Journey 3 และระบบช่วยเหลือการขับขี่ NETA PILOT 2.5 ประกอบด้วยระบบต่าง ๆ ดังนี้
นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยพื้นฐานก็มีให้อย่างครบครัน ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย ระบบ ABS EBD EBA ESC TCS รวมถึง ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS) ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) และระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TPMS)
Neta ประเทศไทยยังไม่เปิดเผยว่า Neta GT จะเข้ามาจำหน่ายในไทยเมื่อใด มีราคาค่าตัวเท่าไหร่ แล้วคูเป้อีวีคันนี้จะมาจัดแสดงในงาน Motor Expo 2023 ที่จะถึงนี้หรือไม่ หากมีความคืบหน้าอะไรจะนำมารายงานให้ทราบกันอีกที
อ่านเพิ่มเติม: พาชม NETA S ซีดานไฟฟ้าสไตล์ล้ำ เผยสเปกเบื้องต้น ก่อนพบตัวจริง
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{expSellingPriceText}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}