Honda Type-R คือแบรนด์ย่อยตัวตัวแรงสุด ที่ครบรอบ 30 ปีแล้ว ถ้าเปรียบเป็นคนก็คือผู้ใหญ่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ 2023  Honda Civic Type R (ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์) มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากทรงวัยรุ่น มาสู่รถเก๋งทรงเรียบง่าย ภายในยังสร้างความเผ็ดร้อน ดูเครื่องยนต์เทอร์โบและไม่มีระบบไฮบริด ให้ความดิบด้วยเกียร์ธรรมดา ยังคงเสน่ห์ขับเคลื่อนล้อหน้าอยู่ หลายคนไม่รู้ว่าชื่อ Type-R ที่แท้จริงแล้วมาจากรถสปอร์ตรุ่นดังนี่เอง 

Honda NSX-R NA1 กำเนิดไทป์อาร์

มาย้อนความหลังกันกับรถที่เป็นจุดเริ่มต้นของตำนาน Type-R อย่าง Honda NSX-R ที่ตลาดในปี 1992-95 คนทั่วโลกส่วนใหญ่รู้จัก NSX รุ่นมาตรฐาน ด้วยชื่อเสียงของคุณภาพการขับขี่ ที่ทำให้เฟอร์รารีต้องพัฒนารถของตัวเองมาสู้ และเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวอังกฤษพัฒนา McLaren F1 ขึ้นมาขายแข่งกัน แต่แน่นอนว่ายังมีลูกค้าบางกลุ่มที่ชอบความดิบโหดและรุนแรง ยังต้องการให้รถสปอร์ตมีกำลังมากกว่านี้อีก ดังนั้นจึงแยกเพิ่มรุ่นย่อยที่สุดไปมากกว่านั้น 

ความดิบสุดขั้ว

รถคันนั้นคือ NSX-R ซึ่งเป็นรถที่เน้นความดิบถึงขนาดที่ว่า ตัดระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง และวัสดุเก็บเสียงออกไป และเพิ่มล้อ Enkei แบบฟอร์จเบา และโครงเบาะนั่งทำจากคาร์บอน (แต่ยังปรับด้วยไฟฟ้า) หั่นน้ำหนักลง 120 กก. เหลือเพียง 1,230 กก.จากรุ่น NSX มาตรฐาน การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ จากเดิมคือ หัวเกียร์ไทเทเนียม เข็มหน้าปัดสีเหลือง และพวงมาลัย Momo ที่สวยงาม (แบบไม่มีถุงลมนิรภัย) ความดิบยังมีต่อด้วยการตัดออพชั่นพวงมาลัยพาวเวอร์ ทำให้คุณหมนลำบากเวลาจอดรถ และรู้สึกว่าหนักไปสำหรับแขนคนที่ดูบอบบาง 

รีดน้ำหนัก ไม่เพิ่มแรงม้า

สมรรถนะของรถหลังการรีดน้ำหนักได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าการเข้าเกียร์ค่อนข้างช้า (ตามมาตรฐานสมัยใหม่) แต่ยังมีอัตราทดชิดกว่ารุ่นมาตรฐาน ทำให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม คุณจะรู้สึกคล่องตัวที่ความเร็วสูง ถึงแม้ NSX-R จะไม่ได้อัพเกรดกำลังให้เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร ที่ยังคงปั่นพลัง 280 แรงม้าแบบเดิม ส่วนแรงบิดเพิ่มขึ้น 5 นิวตันเมตร เป็นผลจากการลดน้ำหนัก กับเกียร์ที่เข้าได้ชิดติดมือมากขึ้นเท่านั้น

NSX-R NA2 ดีกว่าเดิมทุกด้าน

หลังจากสร้าง Honda NSX-R NA1 ทางบริษัทก็สร้าง R อีกรุ่นมาเป็น NSX NA2 ที่ปรับโฉม เปลี่ยนมาใช้ไฟหน้าเปลือกโคมใส ในรุ่น R เปลี่ยนมาใช้ล้อลาย 7 ก้านขนาด 17 นิ้วที่เต็มซุ้มล้อได้ดีกว่ามาก และกระโปรงหน้ารถแบบระบายอากาศและสปอยเลอร์หลังทำให้มันโดดเด่นกว่ารถเดิมอย่างชัดเจน แม้ว่าน้ำหนักจะมากขึ้นจากโฉม NA1 กลายเป็น 1,274 กก. แต่เราให้อภัยได้ เพราะว่ามันเพิ่มถุงลมนิรภัย เครื่องเสียง Bose พวงมาลัยพาวเวอร์ เปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่ และได้เครื่องใหญ่ขึ้นด้วย

ได้เครื่อง 3.2 ลิตร

Honda NSX-R NA2 ได้รับการอัพเกรดจาก 5 เป็น 6 เกียร์เมื่อเทียบกับรุ่น R เดิม ส่วนเครื่องยนต์ได้เพิ่มจากรุ่น NSX-R NA1 ขนาด 3.0 ลิตร กลายเป็น 3.2 ลิตร ปั่นกำลังมากขึ้นจาก 280 เป็น 290 แรงม้า มาชดเชยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมีการปรับสมดุลย์และคำนวนช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนเครื่องยนต์ใหม่ ให้มีแรงเสียดนทานน้อยลงกว่าเดิมด้วย 

เสน่ห์คือ V6 VTEC

แม้จะมีรถสปอร์ตจากเยอรมันอีกหลายรุ่นที่แรงกว่า แต่เสน่ห์ของรถรุ่นนี้อยู่ที่ความตั้งใจในด้านวิศวกรรม การให้วัสดุ และเรื่องราวการพัฒนาเครื่องยนต์ ที่ให้มาแบบไม่กั๊ก ส่งผลให้หลายคนรักรถรุ่นนี้มากกว่าใคร แม้กระทั่งรุ่นใหม่ออกมาอย่าง NSX รุ่นปี 2016-2021 ก็ยังมีความซับซ้อนและหนักเกินไป ทำให้ขาดเสน่ห์อย่างที่รุ่นเดิมเคยมี นับว่ารถสปอร์ตต้นกำเนิดชื่อ Type-R รุ่นนี้ มีจุดเด่นที่ V6 VTEC อัดอากาศเอง อย่างที่ค่ายอื่นเลียนแบบไม่ได้ แม้แต่ฮอนด้าก็ไม่สามารถกลับไปทำซ้ำได้อีกครั้ง

Civic Type R กำลังจะขายไทย

30 ปีต่อมา คนไทยจะได้สัมผัสชื่อ Type-R อย่างเป็นทางการ ในรูปแบบของ Honda Civic Type R (ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์) รหัสตัวถัง FL2 นำเข้าแบบสำเร็จรูปจากประเทศญี่ปุ่น มีสเปคตัวถังแบบแฮทช์แบ็ค ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K20C ขนาด 2.0 ลิตร ประกบกับเทอร์โบวีเทค ที่ให้กำลังสูงสุด 330 แรงม้าพร้อมแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ยังคงใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่งกำลังลงสู่ล้อคู่หน้าเหมือนเดิม

ราคาเปิดตัว Honda Civic Type R ในญี่ปุ่นคือ 4.99 ล้านเยน คาดว่าจะขายในไทยด้วยค่าตัว 3.8 ล้านบาทโดยประมาณ แล้วคอยพบกับสเปคและราคาอย่างเป็นทางการได้ในงาน Motor Expo วันที่ 2-12 ธันวาคมนี้

อ่านเพิ่มเติม : Honda Civic Type R เตรียมเปิดตัวที่เวียดนามวันนี้ คาดค่าตัว 3.8 ล้านบาท ก่อนไทยปลายปีนี้