คู่มือซื้อ 2024 Toyota Corolla Cross รวมทุกรุ่นย่อยและราคา สรุปว่าได้ออพชั่นอะไรเพิ่มบ้าง แต่ละรุ่นต่างกันแค่ไหน?

Mr.Argus
Mr.Argus · 2024-02-12 14:00:22

คู่มือซื้อรถ 2024 Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) โฉมไมเนอร์เชนจ์ล่าสุด รวมมารุ่นย่อย สรุปสเปคและออพชั่นให้ดูทุกรุ่นย่อย  ได้ออพชั่นอะไรเพิ่มบ้าง และราคาพร้อมโปรโมชั่นล่าสุด

ราคา 2024 Toyota Corolla Cross

  • HEV GR-Sport ราคา                    1,254,000 บาท
  • HEV Premium Luxury ราคา         1,204,000 บาท
  • HEV Premium ราคา                     1,094,000 บาท
  • 1.8 Sport Plus ราคา                     999,000 บาท

โปรโมชั่นช่วงแนะนำ ดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้นเพียง 1.79% (ดาวน์ 25%, 48 เดือน) พร้อมประกันภัยชั้น 1 PHYD รวมทั้งข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าปัจจุบันของโตโยต้า ด้วยส่วนลดดอกเบี้ย 0.3% 

สีตัวถัง 2024 Toyota Corolla Cross

รุ่น HEV Premium Luxury, HEV Premium และ 1.8 Sport Plus

  • สีเทา Cement Gray Metallic                      

  • สีเทา Celestite Gray Metallic

  • สีขาว Platinum White Pearl

  • สีเงิน Metal Stream Metallic

  • สีดำ Attitude Black Mica

รุ่น HEV GR Sport

  • สีขาว Platinum White Pearl พร้อมหลังคาดำ

  • สีแดง Red Mica Metallic พร้อมหลังคาดำ

  • สีดำ Attitude Black Mica

สีภายใน

  • สี Dark Rose เฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury / HEV Premium ที่สีภายนอกสี Platinum White Pearl, สี Celestite Gray Metallic, สี Attitude Black Mica

  • สี Black เฉพาะรุ่น HEV Premium Luxury / HEV Premium ที่สีภายนอกสี Cement Gray Metallic และ สี Metal Stream Metallic และรุ่น 1.8 Sport Plus

  • สี GR Sport Black เฉพาะรุ่น GR Sport

 

สเปกใหม่ในทุกรุ่นย่อย

  • ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ LED Crystalized Headlamp

  • ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential

  • หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แบบ HD รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

  • USB type C

  • สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า และด้านหลัง

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ ABH

รุ่น 1.8 Sport Plus

รุ่นเริ่มต้นได้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 140 แรงม้า มีออพชั่นที่ได้เพิ่มมาจากสเปคมาตรฐานคือ

  • ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่

  • กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่

  • กระจกมองข้างพร้อมระบบ Reverse Link

  • จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว

  • ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED

  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM และช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA

  • สัญญาณเตือนกะระยะ หน้า (2) หลัง (4) รวม 6 ตำแหน่ง

รุ่น HEV Premium

รุ่นเริ่มต้นของไฮบริด กับเครื่องยนต์ HEV 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23.3 กม./ลิตร  (อ้างอิงจาก ECO Sticker) มีออพชั่นที่ได้เพิ่มมาจากรุ่น 1.8 Sport คือ

  • ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน 18 นิ้ว

  • เบาะภายในสี Dark Rose ตามสีภายนอก

  • ระบบความปลอดภัย TOYOTA SAFETY SENSE

รุ่น HEV Premium Luxury

รุ่นออพชั่นจัดเต็มที่สุด สิ่งที่ได้เพิ่มมาจากรุ่น Premium มีดังนี้

  • Panoramic Roof แบบ Frameless พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า

  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless charger

  • กล้องมองรอบคัน Panoramic View Monitor (PVM) 360° view

  • กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ ด้านหน้า และด้านหลัง

  • จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบ Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว

  • ระบบช่วยเตือนขณะจอดรถ พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ PKSB

  • สัญญาณเตือนกะระยะ หน้า (4) หลัง (4) รวม 8 ตำแหน่ง

รุ่น HEV GR-Sport 

รุ่นออพชั่นจัดเต็มพร้อมรูปทรงสปอร์ตเฉพาะตัว มีออพชั่นจัดเต็มเท่ากับรุ่น Premium Luxury แต่เพิ่มเติมชุดแต่งดังนี้

  • กันชนหน้าหลังสีเดียวกับตัวรถ รูปทรงเฉพาะรุ่น GR Sport

  • กระจังหน้าดำเงาแบบ GR Sport

  • สเกิร์ตหน้า / ข้าง / หลังสีเงินเมทัลลิก รูปทรงเฉพาะรุ่น GR Sport

  • สัญลักษณ์ GR Sport บริเวณท้ายรถ

  • ไฟท้ายดีไซน์เฉพาะรุ่น GR Sport

  • เบาะสีดำตกแต่งสีขาว พร้อมสัญลักษณ์ GR

  • พรมรองพื้นห้องโดยสาร พร้อมสัญลักษณ์ GR

  • สัญลักษณ์ GR ที่ปุ่ม Push Start

  • พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับแต่งเฉพาะรุ่น GR Sport

  • ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว เฉพาะรุ่น GR Sport

  • โช้คและสปริงเฉพาะรุ่น GR Sport

สรุปแล้วรุ่นย่อย HEV Premium จะได้ออพชั่นครบและใช้งานได้จริงแล้ว หากใครไม่ชอบไฮบริด ก็ยังมีรุ่นเบนซินที่ขาดระบบ TOYOTA SAFETY SENSE ไปบ้าง แต่ก็นับว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคาขาย ที่ไม่เพิ่มจากเดิมเลยสักบาท 

ส่วนใครที่ชอบความไฮเทคสุดขีด ก็เลือกซื้อรุ่น Premium Luxury ที่เพิ่มหลังคากระจกบานใหญ่ และได้หน้าจอแสดงผลดิจิทัลแล้ว ส่วนรุ่นท็อปสุด ได้ทั้งความไฮเทคและความสวยงามพร้อมสมรรถนะการเกาะถนนมากกว่ารุ่นปกติไปอีกขั้น นับว่าเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ครบทุกมุม แบบไม่ต้องซื้อของแต่งเพิ่มเลย

อ่านเพิ่มเติม : 2023 Toyota Corolla Cross 1.8 Sport Plus ปรับหน้าตารุ่นล่างมาให้ใหม่ได้ไฟ LED จ่ายเพิ่มอีก 10,000

Mr.Argus

Mr.Argus นักเขียน

คุณกัส ผู้จำชื่อรถได้หมดตั้งแต่เด็ก ขับรถเป็นตั้งแต่มัธยม ซ่อมรถใช้เองตอนปริญญาตรี สะสมรถคลาสสิคและรถหายาก ทำงานเรื่องรถมานาน 5 ปี ผ่านการอบรมขับขี่ปลอดภัยจาก Sach มีรถทดสอบผ่านมือมาตั้งแต่รถกระบะ รถเก๋ง จนถึงรถสปอร์ต งานอดิเรกก็แค่ซ่อมรถสะสมที่มีอยู่ ติดตามชีวิตคนบ้ารถได้ที่กลุ่ม https://www.facebook.com/groups/97434297973776

Toyota
Honda
Nissan
Mitsubishi
Mazda
Suzuki
Isuzu
Ford
Mercedes-Benz
BMW
Aston Martin
Audi