รถยนต์ไฟฟ้าล้วน เต็มไปด้วยคุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อการเดินทางในปัจจุบัน ทั้งความแรง ความเงียบ ไร้ไอเสีย ประหยัดค่าบำรุงรักษา ที่สำคัญคือมีค่าชาร์จไฟถูกมาก ถึงขั้นให้ฟรีในหลายจุด เป็นช่วงโปรโมชั่นที่จูงใจให้คนหันมาใช้งานกันเยอะ ๆ ท่ามกลางความแพงของราคาน้ำมันในตอนนี้
ด้วยข้อดีสารพัดดังกล่าว ทำให้หลายคนยอมเปลี่ยนรถเป็น EV ออกมาวิ่งกันมากขึ้น แต่ว่ารถประเภทนี้ อาจจะยังไม่เหมาะกับทุกคน เพราะต้องปรับตัวจากการใช้งานรถยนต์สันดาปเดิม เปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับรถแบบใหม่ หรือบางคนอาจจะเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ ด้วยความจำเป็นอื่น ๆ มาดูสาเหตุที่ทำให้คุณอาจจะไม่เหมาะกับการซื้อ EV มาใช้ในตอนนี้
อยู่คอนโด
การอยู่คอนโดเป็นอุปสรรคต่อการติดตั้งวอลล์ชาร์จ เพราะที่จอดรถนั้นเป็นพื้นที่สาธารณะใช้ร่วมกัน ไม่สามารถกั้นไว้ให้รถยนต์ไฟฟ้าของคนใดคนหนึ่งได้จอดชาร์จเป็นประจำ
หากคุณซื้อ EV ใช้งานในตอนนี้ ขณะที่ตนเองยังอาศัยอยู่ในตึกสูง ที่ไม่มีจุดจอดรถส่วนตัว ก็ต้องไปใช้ที่ชาร์จสาธารณะตามปั๊มน้ำมัน ซึ่งไม่มีความสะดวกเมื่อเทียบกับการใช้วอลล์ชาร์จส่วนตัวแบบบ้านเดี่ยว
ในอนาคตอาจจะมีคอนโดบางแห่งที่ติดตั้งจุดชาร์จไฟในตัว หรือไม่ก็จะมีรถบริการชาร์จไฟนอกสถานที่ ซึ่งสามารถให้บริการตามที่จอดรถในคอนโดได้ แต่ก็แลกมาด้วยค่าบริการที่แพงกว่าใช้วอลล์ชาร์จแน่นอน
จอดรถนอกบ้าน
หากคุณอยู่บ้านเดี่ยว แต่ไม่มีพื้นที่จอดรถส่วนตัว ต้องไปจอดริมถนนหน้าบ้าน หรือจอดในที่เช่ารายเดือน ทำให้ไม่สามารถติดตั้งวอลล์ชาร์จที่ผนังบ้านได้ ทำให้การชาร์จไฟต้องไปใช้แหล่งจ่ายไฟสาธารณะ เช่นเดียวกับคนที่อยู่คอนโด ซึ่งมีความลำบากกว่าการใช้ที่ชาร์จส่วนตัวแน่นอน
วิธีแก้ไขหากทำได้ ควรปรับสภาพบ้านตนเองให้มีที่จอดรถ เช่น ทาวเฮ้าส์ ก็ต้องแก้ไขลานหน้าบ้านให้สามารถนำรถเข้ามาจอดในรั้วได้ หรือที่อยู่อาศัยแบบตึกแถว ก็ควรเปลี่ยนพื้นที่ชั้นล่าง ให้นำรถเข้ามาจอดอย่างมิดชิด นอกจากจะทำให้เราสามารถใช้วอลล์ชาร์จได้อย่างสะดวกแล้ว ยังได้ความเป็นระเบียบของทางสาธารณะอีกด้วย เพราะทุกคนชอบถนนหนทางที่ไม่มีรถจอดเกะกะริมทาง
เจ้าบ้านได้ชาร์จไฟฟ้า และเพื่อนบ้านชอบใจซอยโล่งกว้าง วินวินทั้งคู่
สมาชิกเยอะ
รถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันที่มีขายในไทย ส่วนใหญ่รองรับแค่ 5 ที่นั่งอย่างพอดี เคยมีแต่รถ BYD M3 ที่เป็นมินิแวนขนาดเล็กมีเบาะ 3 แถวรองรับ 7 ที่นั่ง แต่ในปัจจุบันเลิกจำหน่ายไปแล้ว หากครัวเรือนใดที่มีสมาชิกในบ้านเกินกว่า 5 คน อาจจะต้องซื้อรถ MPV เครื่องสันดาปใช้แทน เพื่อให้ผู้โดยสารนั่งได้ครบ 6-7 คนภายในคันเดียว เมื่อต้องการใช้เดินทางแบบพร้อมหน้าทั้งครอบครัว
อีกวิธีแก้ไขของครอบครัวใหญ่ที่อยากใช้ EV อย่างหนึ่งคือ ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานประจำวันตามปกติ แต่เมื่อต้องการเดินทางทั้งครอบครัว ก็เช่ารถมินิแวนเครื่องสันดาปมาใช้งานตามแต่ละโอกาส
อ่านเพิ่มเติม : พาชมคันจริง Toyota Innova EV Concept มอเตอร์ไฟฟ้าขับหน้า วิ่งได้ 300 กิโลเมตร จะผลิตจริงไหมนะ!!!
สัมภาระเยอะ
การใช้รถขนสัมภาระในปัจจุบัน คนไทยส่วนใหญ่ใช้รถกระบะ ซึ่งปัจจุบันนี้ในไทยยังไม่มีรถกระบะ 1 ตันพลังไฟฟ้าออกขาย จะมีก็เพียงแค่ Takano TTE500 รถกระบะตอนเดียวขนาดเล็ก ที่สามารถบรรทุกได้ 500 กก. หรือใช้รถแวนอย่าง MG EP (เอ็มจี อีพี) ที่มีพื้นที่สัมภาระกว้าง แต่ก็ยังบรรทุกหนักไม่ถึง 1 ตันอย่างรถกระบะเครื่องดีเซลแท้จริง
วิธีแก้ไขสำหรับผู้ที่ใช้รถขนส่งสัมภาระเป็นประจำ ก็ยังคงต้องใช้รถกระบะเครื่องดีเซลต่อไป ส่วนใครที่ใช้ขนส่งสัมภาระชั่วคราว ก็ใช้วิธีเช่ารถใช้งานเพิ่มเติม
เวลามีค่า ธุระรัดตัว
เมื่อคุณใช้ EV เดินทางทำธุระอย่างต่อเนื่องทั้งวัน อาจจะต้องเผื่อเวลาชาร์จไฟนานขึ้น แต่ถ้าใครที่มีเวลาจำกัด ต้องไปทำธุระให้ตรงเวลามาก เช่น ไปส่งคนขึ้นเครื่องบิน รถไฟ ฯลฯ ซึ่งปริมาณไฟฟ้าที่ชาร์จมาทั้งคืน ถูกใช้ไปมากจนหมดระหว่างวันแล้ว ทำให้เราต้องเสียเวลาวิ่งรอชาร์จเพิ่มอีกอย่างน้อย 30 นาที ทำให้ผู้ใช้ต้องเผื่อเวลาชาร์จไฟ นอกจากการเผื่อเวลารถติดอีกด้วย
นี่ยังไม่นับรวมบางกรณีที่ต้องวิ่งหาแหล่งชาร์จสำรอง หากจุดชาร์จประจำเต็ม หรือมีรถคันอื่นจอดปิดตู้ชาร์จ
ปัญหานี้เกิดขึ้นกับคนที่ใช้รถเดินทางทั้งวัน และไม่มีเวลาเผื่อให้ชาร์จไฟวันละ 30-60 นาที อาจจะเหมาะกับรถไฮบริดมากกว่า
อ่านเพิ่มเติม : การชาร์จไร้สายและสลับแบตเตอรี่ดูจะเป็นวิธีที่ ‘คุ้มค่า’ ที่สุดสำหรับ EV ในตอนนี้แล้วรึเปล่า?
งบน้อย ไม่เปลี่ยนรถบ่อย
รถยนต์ไฟฟ้าเหมาะกับคนฐานะค่อนข้างสูง เพราะราคา EV ยังสูงกว่ารถสันดาปในระดับเดียวกัน และยังไม่มีแนวโน้มถูกลง เมื่อดูจากประวัติราคา Tesla ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ที่มีแต่ราคาเพิ่ม และมีสเปคดีขึ้นตามราคาไปด้วยเท่านั้น
ในอนาคตเมื่อรถหมดระยะการรับประกัน ก็จะเจอกับค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่อยู่นอกเหนือการเคลม คุณจะมีทางเลือกเพียงแค่จ่ายเงินเปลี่ยนแบตใหม่และค่ารีไซเคิลแบตเก่า หรือไม่จ่ายค่าแบต แต่ขายออกเป็นมือสอง แล้วไปเทิร์นเป็นคันใหม่ในทุก ๆ 10 ปีหลังการรับประกัน
บางคนอาจคิดว่า การเปลี่ยนรถใหม่ทุก 10 ปีเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคนที่มีรายได้น้อยหรือปานกลาง การซื้อรถใหม่นั้น ในเรตราคาของรถสันดาปปัจจุบันนี้ มักจะถูกใช้งานยาวนานเกิน 10 ปีหรือจนกว่าจะไม่คุ้มค่าซ่อมหนัก แต่ถ้าในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลงกว่าทุกวันนี้ อาจกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนรถทุก 10 ปีเป็นเรื่องปกติก็เป็นได้ ซึ่งเราไม่อยากขายฝันว่ารัฐบาลจะอุ้มชูราคา EV ให้ถูกลงตลอดไป
อ่านเพิ่มเติม : Toyota เผยหมัดเด็ด แบตเตอรี่ของ bZ4X จะยังมีความจุอยู่ที่ 90% แม้ผ่านไปแล้ว 10 ปี
ความคิดเห็นจากการสำรวจปัจจุบัน
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อให้ใช้ EV ได้อย่างสะดวกนั้น เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น ที่มาจากการสำรวจและสังเกตพฤติกรรมการใช้รถอันหลากหลายของคนไทย ซึ่งมีปัจจัยอีกมากมาย ที่ทำให้คนสนใจ EV ยังไม่สามารถปรับตัวได้ตามคำแนะนำ เช่น พื้นที่บ้านไม่อำนวย, งบประมาณไม่เอื้อ, สิ่งแวดล้อมไม่สนับสนุน, รถคันเก่ายังใช้ไม่คุ้ม ฯลฯ เหล่านี้เป็นเหตุสุดวิสัยทำให้เราไม่สามารถใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ แม้ว่าจะอยากได้แค่ไหนก็ตาม
อ่านเพิ่มเติม : นี่คือ 3 สิ่งที่กวนใจผู้ใช้ EV มากที่สุดคือ สถานีชาร์จ ราคา และคนใช้รถไฟฟ้าด้วยกันเอง