2023 Honda Civic Type R ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์
Honda (ฮอนด้า) เรียกเสียงฮือฮาให้กับตลาดรถซิ่งในประเทศไทย เมื่อพวกเขาตัดสินใจเปิดตัวและรับจอง 2023 Honda Civic Type R (ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวที่หลาย ๆ คนบอกว่าจับต้องได้ที่ 3.99 ล้านบาท ทำเอาคนจองกันพรึบหมดอย่างรวดเร็ว
ผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่กดจองสิทธิ์ซื้อไปกับเขาด้วย แต่ก็ทำใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่น่าจะได้ เพราะได้ยินมาว่ามีลูกค้าให้ความสนใจกันอย่างคับคั่งเกินกว่าโควต้าที่มีอยู่ในประเทศไทย ก็เลยได้แต่ทำใจว่าในอนาคตอาจจะเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะได้โควต้าเพิ่มขึ้น และอาจจะมาถึงมือของเราบ้างในท้ายที่สุดในสักวัน
แต่ก่อนจะไปถึงวันนั้น ฮอนด้าได้ส่งเทียบเชิญมาลองขับรถบ้านขาซิ่งตัวแรงกันก่อนอย่างเป็นทางการ แถมพิเศษกว่าด้วยการพามาซิ่งกันในสนามแข่งรถระดับโลกอย่างช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งเข้ากันมากในการรีดสมรรถนะของรถออกมาให้เต็มที่ อยากจะดิ้นอยากจะดื้อยังไงก็เอากันให้เต็มที่ คุมรถให้ดีก็พอแล้ว
ตัวรถที่นำมาทดสอบกันนั้น ออพชั่นอาจจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศไทยอยู่บ้าง โดยมีบางออพชั่นเป็นเวอร์ชั่นที่ขายในญี่ปุ่น อาทิ การมีระบบเตือนรถในจุดอับสายตา ซึ่งหลาย ๆ คนอยากจะได้มาแทน Honda LaneWatch ในรถหลายรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในบ้านเรา แต่ตัวไทป์อาร์ที่ขายก็ไม่มีระบบนี้มาให้อยู่ดี
อย่างไรก็ตาม หลังจากการทดลองขับแล้ว ทำให้เกิดความรู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของรถคันนี้ขึ้นมาตะหงิด ๆ และอยากให้ฮอนด้าเอาโควต้าเข้ามาเพิ่มเหลือเกิน แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าใด เอาเป็นว่าเป็นอีกหนึ่งในรถดีที่ไม่มีขาย ใครที่ได้โควต้าไปก็เก็บกันดีดี เอามาขับขี่กันให้สนุกสนานบ้าง
แอบตะโกนในใจว่า 'อิจฉาโว้ย' หลังลงจากรถเลยนะนี่...
ทำไมคนถึงให้ความสนใจกันเยอะมากสำหรับรุ่นนี้
เอาจริง ๆ โดยส่วนตัวผมมองว่ารถคันนี้เป็นรถที่โดดเด่นหลายเรื่องเลยนะ เป็นไทป์อาร์คันแรกที่ฮอนด้า ประเทศไทยทำตลาดเอง ตัวรถเบสบนเวอร์ชั่นแฮชท์แบ็กที่ประเทศไทยเลิกขายไปแล้ว เครื่องยนต์นั้นก็ยอดเยี่ยมด้วยการเป็นรถยนต์นั่งที่แรงที่สุดที่ค่ายทำตลาดอยู่ แถมชื่อเสียงจากการทดสอบในต่างประเทศก็ค่อนข้างมาในทิศทางเดียวกันหมดคือน่าใช้ น่าซื้อ มารวมกับราคาที่ขายไม่ถึง 4 ล้านบาท ถูกกว่าตอนเกรย์มาร์เก็ตทำตลาดเยอะมาก คนที่มีกำลังซื้อและคิดว่าขับได้ไหว มีจำนวนมากกว่าโควต้าแน่นอน
การออกแบบภายนอกที่มองแล้วเด่นกว่าใคร
ฮอนด้านั้นไม่ได้แค่เอาชุดแต่งไปโปะที่รถเพื่อบอกว่ารถคันนี้เป็นตัวแรง แต่พวกเขาเลือกทำการพัฒนาชิ้นส่วนตัวถังหลายต่อหลายจุดเพื่อให้รถคันนี้มีความโดดเด่นมากขึ้น ฝากระโปรงงหน้าดีไซน์ใหม่ ชุดสเกิร์ตรอบคันที่ทำให้ตัวรถดูบึกบึนและปราดเปรียว สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ที่ช่วยกดท้ายรถเวลาวิ่งเป็นอย่างดี พร้อมท่อไอเสีย 3 ท่อตรงกลางกันชนหลัง ล้ออัลลอยออกแบบมาให้มีความเปลือยเพื่อโชว์เบรก Brembo สีแดงสด จานเบรกขนาดใหญ่ และยางซีรี่ย์ 30 ไหนจะ H-Mark สีแดงสดที่ดูโดดเด่นท้าทายสายตาซะเหลือเกิน
ห้องโดยสาร 4 ที่นั่ง ไม่ตัดออพชั่น แต่ทำไมไม่แดงทั้งคันนะ
แม้การพัฒนารถจะอยู่บนพื้นฐานของรถยนต์นั่งปกติ แต่เหมือนทีมออกแบบตั้งใจให้นั่งโดยสาร 4 ตำแหน่ง ด้วยการไม่มีที่เท้าแขนด้านหลัง พร้อมฝังที่วางแก้วน้ำไว้ที่ตำแหน่งกึ่งกลางเบาะเสียเลย ห้องโดยสารตอนหลังพับเบาะเพิ่มพื้นที่วางของได้ แต่ไม่มีช่องแอร์และที่ชาร์จอะไรมาให้เลย แถมเบาะหลังไม่ได้เป็นสีแดงสดแบบเบาะทรงสปอร์ตคู่หน้าเสียด้วย ออพชั่นอื่น ๆ ในห้องโดยสารอย่างพวกหน้าจอแสดงผลและการเชื่อมต่อต่าง ๆ ให้มาเต็มที่ ส่วนอุปกรณ์ความสบายอย่างเบาะไฟฟ้า ประตูหลังไฟฟ้านั้น ไม่บอกก็รู้นะว่าไม่มีให้หรอก
เครื่องยนต์ขาแรง เกียร์สับสนุก คลัชต์นุ่ม
หลายคนที่ไม่คุ้นชินกับการขับเกียร์ธรรมดา ซึ่งขอบอกว่าเกียร์ธรรมดา 6 สปีดในฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์ รุ่นใหม่เป็นเกียร์ที่ขับได้สบายมาก น้ำหนักคลัตช์ไม่หนักจนเกินไป และเกียร์มีระยะชิฟท์ที่ค่อนข้างสั้น ทำให้สามารถเข้าเกียร์ตามตำแหน่งได้อย่างง่ายดาย มีไฟแสดงผลเพื่อช่วยตัดสินใจเรื่องการเปลี่ยนเกียร์แสดงอย่างชัดเจน ส่งกำลังอย่างต่อเนื่องและไหลลื่น ทำให้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร วีเทค เทอร์โบ สามารถรีดกำลัง 320 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพการขับขี่
ออพชั่น Honda Sensing มีมาให้ครบครัน
อีกเรื่องที่ถือว่าน่าสนใจในความรู้สึกของผมก็คือการที่ฮอนด้านั้นใส่ออพชั่นด้านความปลอดภัยมาให้เต็มที่ อาจจะตัดความสะดวกสบายบางอย่างไป แต่ Honda Sensing นั้นให้มาอย่างเต็มพิกัด ไม่ได้ตัดทอนอะไรไปแม้แต่ระบบเดียว แถมยังให้เซนเซอร์ช่วยถอดจอดหน้า-หลังมาครบครัน พร้อมด้วยถุงลมนิรภัย 7 ใบ เรียกว่าจัดเต็มกันสุด ๆ ทั้งระบบปลอดภัยแบบ Active และ Passive ซึ่งเป็นนโยบายของฮอนด้าอยู่แล้วที่จะพยายามใส่ระบบความปลอดภัยอันลือชื่อเข้าไปในรถให้มากที่สุด ทำให้รถดูคุ้มค่าคุ้มราคาขึ้นอีกเยอะเลยล่ะ
ขับแล้วชอบมากกว่าเรื่องความแรงของรถ
หลาย ๆ คนอาจจะชื่นชอบและอยากลองขับรถคันนี้ ด้วยสมรรถนะของตัวรถเป็นหลัก อยากดูการตอบสนองของเครื่องยนต์ คันเร่ง เกียร์และพวงมาลัย ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้นั้น ตัวรถสามารถตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้แบบไม่มีติดขัดอะไรอยู่แล้ว เรียกว่ากำลังนั้นเรียกแล้วมาต่อเนื่องแบบไม่มีหมด
แต่สิ่งที่ผมชอบมากกว่าจริง ๆ ก็คือความฉลาดของรถ ที่ดูเหมือนว่าจะพยายามช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดายในทุกโหมดการขับขี่ ซึ่งคุณจะขับด้วยโหมด Comfort, Sport หรือแม้แต่ +R ซึ่งเรียกกำลังออกมาอย่างดุดันที่สุด ช่วงล่างและพวงมาลัยก็จะปรับตัวเองไปตามโหมดการขับขี่ที่เลือกไว้
ในการทดลองนั้น ผมลองเข้าโค้งในไลน์แปลก ๆ หรือชิฟท์เกียร์แบบงงงงเพื่อดูอาการและการตอบสนองของรถ ก็จะพบว่ารถนั้นตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยเหลือให้การขับขี่สามารถทำได้อย่างราบลื่นที่สุด มีการแนะนำของรถผ่านระบบต่าง ๆ ซึ่งหากมีเวลามากกว่านี้ ก็จะทำความเข้าใจกับตัวรถได้มากขึ้นไปกว่าการได้ขับ 3 รอบสนาม
อย่างไรก็ตาม Honda Civic Type R รุ่นโฉมนี้ ดูเหมือนว่ากำลังจะกลายเป็นสินค้ากลุ่มแรร์ไอเท่มอีกรุ่นหนึ่ง เพราะด้วยจำนวนที่นำเข้ามาอย่างจำกัด แน่นอนว่าน่าจะมีลูกค้าบางกลุ่มที่หนีไปใช้บริการผู้นำเข้าอิสระ ที่มีการปรับราคาจำหน่ายรถรุ่นนี้ลงมาบ้างหลังการเปิดตัวจากบริษัทแม่ ก็เป็นแนวทางในการใช้เงินที่ต่างกันไป
แต่หากคุณโชคดีจับจองได้ทันในโควต้าของฮอนด้า ประเทศไทย นอกเหนือจากการจะได้รับรถยนต์ที่ขับสนุกที่สุดคันหนึ่งในประเทศไทยไปเป็นเจ้าของแล้ว คุณยังจะได้รับการประกัน 3 ปี หรือ 1 แสนกิโลเมตร พร้อมด้วยการรับประกันอะไหล่นาน 12 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง และการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
ยิ่งพิมพ์แบบนี้ยิ่งรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้จริง ๆ นะนี่...