จากข้อมูลล่าสุดพบว่าทางมาสด้าจะเปิดตัว 2021 Mazda CX-50 รุ่นที่คาดว่าจะมาแทนที่ Mazda CX-5 โดยมีการยืนยันแล้วว่าจะนำเอาแพลตฟอร์มใหม่ FR platform (Large architecture) มาใช้ รวมทั้งเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงบล็อกใหม่ ระบบขับเคลื่อนล้อหลังแบบใหม่ ที่จะให้สมรรถนะในเรื่องอัตราเร็วและการไต่ความเร็วได้ดีกว่า CX-5

สำหรับ 2021 Mazda CX-50 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะสามารถท้าทายคู่แข่งอย่าง Honda CR-V ที่ทำการตลาดในกลุ่ม SUV แต่ก่อนจะไปวิเคราะห์จุดเด่นของ 2021 Mazda CX-50 เราจะพาไปรู้จัก CX-5 รถรุ่นที่ CX-50 จะมาแทนที่ว่าเป็นอย่างไร

2012 Mazda CX-5

Mazda CX-5 เป็นรถครอสโอเวอร์ Compact SUV ที่เริ่มจำหน่ายในปี 2012 ด้วยแนวคิด KODO - Soul of Motion ที่เน้นความเรียบง่าย กระจังหน้าโดดเด่น มีเอกลักษณ์จากเส้นสายไฟหน้าไฟท้าย ส่วนภายในห้องโดยสารเบาะหุ้มด้วยหนังสีดำ เข้ากับโทนสีดำภายใน การออกแบบมีกลิ่นอายความเป็นรถยุโรป เบาะนั่งสบาย ใน เบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 สามารถพับราบลงได้สนิท  ซึ่งทำให้พื้นที่เก็บของจุถึง 1,390 ลิตร

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในก็มีมาให้ครบครัน ไม่วาจะเป็นระบบปรับอากาศ Dual-zone ระบบ Keyless พร้อมปุ่มสตาร์ท มีจอเครื่องเสียงที่โดดเด่นด้วยเครื่องเสียง BOSE พวงมาลัยมีระบบควบคุมความเร็วคงที่และระบบควบคุมเครื่อง สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth นอกจากนี้ยังมีระบบไฟหน้า AFS และกล้องมองหลังช่วยให้มั่นใจในการขับขี่มาให้ด้วย

Mazda CX-5 รุ่นแรกนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กับ 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ใช้เทคโนโลยีโครงสร้าง SKYACTIV ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีดที่มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ โดยเครื่องยนต์ Mazda CX-5 มีการออกแบบให้รักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ต่อมาในปี 2016 ในประเทศไทยได้มีการเผยโฉม Mazda CX-5 รุ่นปรับโฉม โดยออกแบบภายในห้องโดยสารใหม่ ใช้วัสดุช่วยลดเสียงจากภายนอก กระจังหน้าออกแบบใหม่ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlights) ไฟตัดหมอก ไฟท้ายแบบ LED มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ และยังเพิ่มระบบ i-Activesense เข้าไปอีกด้วย รุ่นปรับโฉมนี้ได้ตัดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรออก ทำให้เหลือเพียงแค่เครื่องยนต์ 2.0 และ 2.2 ลิตรเท่านั้น

2017 Mazda CX-5

Mazda CX-5 รุ่นที่ 2 นี้เปิดตัวในไทยครั้งแรกในปี 2017 ที่ยังคงโดดเด่นในสายรถอเนกประสงค์ Crossover ด้วยเทคโนโลยี Skyactiv  ด้วยการตอบโจทย์การใช้งาน และสมรรถนะที่ทำงานได้อย่างประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้มาสด้าได้รับความนิยม และยังคงจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน

การออกแบบภายนอก Mazda CX-5

Mazda CX-5 รุ่นนี้ยังคงออกแบบด้วยแนวคิด KODO Design เช่นเดิม ขนาดและสัดส่วนตัวถังไม่ค่อยแตกต่างจากรุ่นเดิมมากนัก กระจังหน้าออกแบบใหม่ให้มีปีกของกระจังหน้าทะลุไปยังใต้ไฟหน้าทำให้ดูเพรียวขึ้น ไฟหน้าเป็นแบบ Projector LED ทรงเรียวยาวที่สามารถปรับสูงต่ำและเปิดปิดได้อัตโนมัติ มีไฟส่องสว่าง Day Time Running Light เพื่อส่องสว่างกลางวัน มีไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED Signature ที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน กระจกมองพับและปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว ซุ้มล้อมีขนาดเล็กลงและลดระยะห่างจากขอบซุ้มล้อและยางทำให้ดูสปอร์ตมากขึ้น

มิติตัวรถ Mazda CX-5

การออกแบบภายใน Mazda CX-5

สำหรับการออกแบบภายในของ Mazda CX-5 รุ่นนี้มีกการออกแบบผสานความเรียบง่ายกับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ตกแต่งด้วยโทนสีเข้มทั้งหมด วัสดุที่ใช้มีคุณภาพแบบ Real Wood ผสมผสานกับสีเงินของ Satin Chrome  ส่วนเบาะเป็นแบบ Nappa เบาะนั่งคนชับสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง สามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนเบาะด้านหลังพับแยกอิสระ 40:20:40 ที่ทำให้การตกแต่งนี้หรูหราและคุ้มราคา แผงระบบปรับอากาศเป็นดีไซน์ใหม่ที่ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander มีปุ่มปรับกระจกมองข้างที่สามารถปรับลดแสงอัตโนมัติได้

Mazda CX-5 เจนเนอเรชั่นนี้มีมาตรวัดเป็นดิจิตอล TFT LCD และมีจอแสดงผล Center Display แบบสีขนาด 7 นิ้วที่เชื่อมต่อระบบต่างๆภายในรถและระบบเทคโนโลยี Mazda Connect ด้านเครื่องเสียงและความบันเทิงใช้ระบบเครื่องเสียง BOSE เสริมความหรูด้วยหลังคาซันรูฟ Power Steering Glass Sunroof ที่สามารถเลื่อนเปิดปิดได้อย่างสะดวก ช่วยเพิ่มความพรีเมี่ยมที่สามารถเทียบได้กับเอสยูวีหรูจากยุโรป

ขุมพลัง Mazda CX-5

Mazda CX-5 รุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์ที่มีการออกแบบให้สมรรถนะดีเยี่ยม และเมื่อทำงานร่วมกับเทคโนโยลี Skyactiv ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มาก Mazda CX-5 รุ่นที่ 2 นี้มี 2 รุ่นให้เลือก ได้แก่ SKYACTIV-D 2.2 L เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ทำงานคู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติที่สามารถปรับให้การขับขี่เหมาะสมกับทุกสภาพถนน

ต่อมาเป็น SKYACTIV-G 2.0 L เป็นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และรุ่น SKYACTIV-G 2.5T ให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร พร้อมระบบเทอร์โบแบบ Dynamic Pressure และมีระบบแปรผันอัจฉริยะแบบ Dual S-VT ที่เลือกใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

2021 Mazda CX-50

Mazda CX-50 เป็นรุ่นที่มีการปรับเปลี่ยนชื่อจาก CX-5 ตามรอยรุ่นเล็กอย่าง CX-30 ที่มาแทน CX-3 การออกแบบคาดว่ายังคงยึดสไตล์ KODO Design ที่อาจมีการปรับเปลี่ยนให้กระจังหน้าขนาดใหญ่และกรอบไฟที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น พร้อมมีเสา A และ C ลาดเอียงคล้ายกับรถซีดาน และอาจมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของด้านท้ายเล็กน้อย ภายในอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก และคาดว่าจะมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขึ้นกว่าเดิม

ด้านเครื่องยนต์มีการคาดการณ์ว่า Mazda CX-50 จะใช้ขุมพลัง SKYACTIV-X แพลตฟอร์ม FR platform (Large architecture) แบบเดียวกับ Mazda6 ซึ่งเป็นไปได้ว่า Mazda CX-50 จะมีตัวเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล รวมถึงระบบขับเคลื่อนแบบ Mikd Hybrid อาจเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดเชื้อเพลิงดีเซลขนาด 3.0 ถึง 3.3 ลิตร 6 สูบแถวเรียง เครื่องยนต์ขนาด 2.2 ถึง 2.5 ลิตร 4 สูบแถวเรียง นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ยังให้สมรรถนะเหนือกว่า SUV ขนาดกลางทั่วไป

2021 Mazda CX-5จะสู้คู่แข่ง Honda CR-V ได้ไหม?

แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล Mazda CX-50 เพิ่มเติมมากนัก แต่ก็เป็นไปได้ว่าราคาน่าจะใกล้เคียง Mazda CX-5 ที่ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ Honda CR-V ที่ราคาเริ่มต้น 1.369 ล้านบาทก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก แต่เนื่องจากข้อมูล Mazda CX-50 สเปกยังไม่เป็นที่ชัดเจน ก็ต้องลุ้นว่า Mazda CX-50 จะเปิดตัวเมื่อไหร่ อาจเป็นปลายปี 2021 หรือต้นปี 2022 ก็ต้องรอดูกันต่อไป