**บทความนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของ 2020 Mazda 3 Sedan และไม่จำเป็นต้องสะท้อนถึงมุมมองของ AutoFun
เจ้าของรถ:Takahashi Keisuke
Mazda 3 Sedan (มาสด้า 3 ซีดาน) รุ่น S
ผมและภรรยาขับ Honda City มาตั้งแต่ปี 2555 และผ่อนรถก็ใกล้จะ หมดแล้ว เราเลยตัดสินใจว่าจะเพิ่มขนาดรถเรา และเริ่มหารถคอมแพ็คคาร์ขนาดกลาง
ภรรยาผมสนใจ Toyota Corolla Altis เพราะชอบรูปลักษณ์ภายนอก แต่เมื่อได้ทดลองขับแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าเร่งไม่ค่อยขึ้น รถค่อนข้างอืดเมื่อขับในเมือง
ตัวเลือกต่อไปของเราคือ Honda Civic ผมขอออกตัวก่อนเลยว่าผมค่อนข้างชอบรถสไตล์สปอร์ตอยู่แล้ว ดังนั้น Honda Civic จึงกลายเป็นตัวเลือกต้นๆสำหรับผู้ที่ชอบขับรถแบบนี้ในชีวิตประจำวัน แชสซีส์ของฮอนด้านั้นดีเยี่ยมอยู่แล้ว ไม่เพียงแค่ระบบกันสะเทือนที่ช่วยให้ขับขี่นุ่มนวล เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จก็ยังทำให้ขับขี่สนุกด้วย
อย่างไรก็ตามผมก็ติดตามค่าย Mazda ด้วย และก็ชื่นชมการให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่มาตลอด น่าเสียดายที่เวอร์ชั่นเก่าที่ค่อนข้างแปลก และภรรยาผมก็รู้สึกติดกับภาพรถที่ควรจะเป็น เธอก็ไม่ชอบรูปลักษณ์ของ Honda Civic ด้วย แต่ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับรายละเอียดข้อมูลจำเพาะเหมือนที่ไม่ชอบ Toyota Corolla Altis
ผมได้ไปอ่านและติดตามข่าวการเปิดตัวล่าสุดของ Mazda 3 ใหม่ และพบว่าการออกแบบใหม่นั้นโดดเด่น แต่สิ่งที่เสียดายคือราคารุ่นใหม่สูงกว่างบที่เราตั้งไว้ ถึงอย่างไรผมก็ยังอยากรู้ว่าการขับขี่มันเป็นอย่างไร แม้ว่าเราจะไม่ซื้อ Mazda 3 แต่ผมก็นัดทดลองขับแล้ว
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราต้องไขว้เขวเมื่อเราได้ทดลองขับ Mazda 3 รุ่นใหม่ และสิ่งแรกที่ทำให้เราประทับใจคือการตกแต่งภายในที่มีความหรูหราอย่างแท้จริง ทุกปุ่มกดให้ความรู้สึกพรีเมียม วัสดุที่ใช้ก็นุ่มนวล การออกแบบอุปกรณ์ก็ให้ใช้งานได้สะดวก แม้แต่ช่องระบบปรับอากาศก็ออกแบบเพื่อให้มีประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม การออกแบบปุ่มอย่างพิถีพิถันช่วยให้ใช้สะดวกและ Head-up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ก็ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนขณะขับขี่ นอกจากนี้หน้าจอกลางก็ออกแบบให้อยู่ในระดับสายตา เมื่อต้องละสายตาก็ไม่ต้องใช้สายตามากเกินไป ทำให้ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาในการขับรถทางไกลได้มากทีเดียว
เทคโนโลยี GVC+ (ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง) นั้นก็เยี่ยมด้วย แตกต่างจากระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะของค่ายอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินว่าผู้ผลิตออกแบบระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะเพื่อให้มีการเข้าโค้งด้วยความเร็วมีประสิทธิภาพ แม้ผมจะประทับใจเทคโนโลนี้ แต่ภรรยาผมก็เป็นคนขับรถทั่วๆไปที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก และสามารถพาเธอจากจุด A ไปยังจุด B ได้ เธอไม่รู้เลยว่าอาการท้ายปัดหน้าดื้อเป็นยังไง (อาการท้ายปัดหน้าดื้อคืออันตรายที่เกิดจากการเข้าโค้งด้วยความเร็วเกินลิมิต) แม้จะเป็นอย่างนั้น เธอก็ชมว่า Mazda 3 นั่งสบาย สรุปแล้วภรรยาผมก็ยังบอกเลยว่าทั้งการตกแต่งภายในและประสิทธิภาพการขับขี่นั้นดีเยี่ยม
ต่อมาเราได้ทดลองขับ Honda Civic มันไม่สามารถเทียบได้เลย ทั้งการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกว่าว่าใช้วัสดุราคาถูก พลาสติกบอบบาง การขับขี่ไม่คล่องตัว และการออกแบบก็ไม่ประณีต สรุปแล้วระหว่าง Mazda 3 2.0 และ Civic รุ่นตัวท็อป ราคาไม่ได้แพงต่างกันมาก และเมื่อพิจารณาความคุ้มค่าก็ลงเอยด้วยรถที่เราไม่คิดจะดูตั้งแต่แรก
ตั้งแต่ได้รถมา ตอนนี้ผมขับไปประมาณ 6,000 กมแล้ว ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าการตกแต่งภายใน
ของพวก BMW และ Audis ที่ผมเคยนั่งให้ความรู้สึกถึงถูก กว่าของ Mazda 3
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}