ฝันร้ายของ MG HS PHEV? เมื่อ Haval เปิดตัว H6 PHEV วิ่งไฟฟ้าได้ไกลถึง 201 กิโลเมตร

ในงาน Motor Expo 2021 ทางค่าย Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ได้มีการเผยโฉมรถรุ่นใหม่ Haval H6 PHEV (ฮาวาล เอช6 พีเอชอีวี) เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กล่าสุดในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก

มาพร้อมกับสมรรถนะที่ต้องบอกว่าประหยัดน่าดู เพราะเขาสามารถวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 201 กิโลเมตร

เรียกได้ว่ามาเป็นคู่แข่งของ MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) อย่างแท้จริง เราจะจับมาเทียบกันว่า ใครดี ใครโดน มีอะไรมาแข่งกันบ้าง

ดูภายนอกกันก่อน

รูปลักษณ์ภายนอกของ Haval H6 PHEV ในด้านหน้าจะแตกต่างจาก Haval H6 Hybrid อย่างชัดเจน ด้วยกระจังหน้ารูปทรงใหม่สีดำ สร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นเสียบปลั๊ก และรุ่นไฮบริดได้อย่างดี

นอกจากนี้ยังมีกรอบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ไฟตัดหมอกสามเหลี่ยมสีดำ และกันชนด้านล่างโครเมี่ยม กระจกมองข้างทูโทน ราวหลังคาสีเงิน ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว

ด้านท้ายจะยังมีการออกแบบที่คล้ายกับรุ่นไฮบริดอยู่ ด้วยไฟ LED Tailight Strip ที่ยาวจากซ้ายไปขวา แปะตรา HAVAL ขนาดใหญ่ และแถบโครเมี่ยมด้านล่าง ใส่สปอยเลอร์หลัง เสาอากาศครีบฉลาม และ ที่ปัดน้ำฝน

อ่านเพิ่มเติม รวมรถใหม่ในงาน Motor Expo 2021 มีทั้งรุ่นตลาดแตก-แบรนด์ใหม่ก็มา

ในส่วนของ MG HS PHEV การออกแบบจะเหมือนกับ MG HS ธรรมดาทุกประการ แต่จะได้ล้อใหม่ลายห้าก้านขนาด 18 นิ้ว และโลโก้ PHEV ด้านหลังแทน

มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟเดย์ไลท์ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไฟเลี้ยวแบบซีเควนเชียล ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง ไฟท้าย LED ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ไฟ welcome light หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา สปอยเลอร์หลัง ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า ราวหลังคา

H6 PHEV ยังไม่เผยภายใน

น่าเสียดายที่ว่าเอช6 พีเอชอีวียังไม่เปิดเผยภาพภายนของประเทศไทย แต่จากการไปแอบถ่ายจะทำให้เห็นการตกแต่งภายในแนวทูโทนสีดำ-เทา ตัดด้วยสีที่อาจจะเป็นโรสโกลด์ 

มีชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter ทรงกลม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามก้านสีดำ หน้าจอแสดงผล 10 นิ้ว มีระบบเชื่อมต่อจอกลางอัจฉริยะระบบสัมผัส รองรับทั้ง MP3 และแอปพลิเคชั่นเพลง JOOX

ระบบปรับอากาศแยกซ้าย-ขวา กรองอากาศ PM2.5 อุปกรณ์อำนวยความสะดวก Wireless Charger ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อม Kick Sensor

อ่านเพิ่มเติม 1st Impression MG HS PHEV ที่น่าใช้งานขึ้น

HS PHEV ตกแต่งสีภายในแบบทูโทน 2 สไตล์คือ ขาว-น้ำเงินหรือดำล้วน มีไฟแอมเบียนท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกรองอากาศ PM2.5 ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท

นอกจากนี้ยังมีแป้นเหยียบแบบสปอร์ต เบาะหนังสังเคราะห์แบบสปอร์ต เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพับได้ 60:40 หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ 12 นิ้ว กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ

ไหนใครประหยัดกว่า

รถยนต์ที่เป็น Plug-in Hybrid มักจะชูจุดเด่นในเรื่องความประหยัด Haval H6 PHEV ใหม่นี้มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม GWM Lemon ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมถึง 326 แรงม้า แรงบิด 530 นิวตันเมตร โหมดการขับขี่ถึง 8 โหมด สามารถวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 201 กิโลเมตร! แต่ยังไม่มีตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันออกมา

ส่วน MG ใช้พื้นฐานจากเครื่องเบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า ได้ 284 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร โดยสามารถวิ่งแบบไฟฟ้าล้วนได้ 67 กม. ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์ลูกใหม่ EDU II (Electric Drive Unit II) 10 สปีด ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายใน 7.5 วินาที มีอัตราการใช้เชื้อเพลิงสูงสุดได้ถึง 65 กม./ลิตร

เรียกได้ว่า Haval ทั้งประหยัดกว่า และแรงกว่าเต็ม ๆ 

ต้องรอดูระบบความปลอดภัย

สิ่งที่ต้องรอดูก็คือรายละเอียดระบบความปลอดภัยของ Haval H6 PHEV ที่คาดว่าอาจจะไม่แตกต่างจากรุ่นไฮบรดเดิมมากนัก เช่น กล้อง 360 องศา ระบบช่วยถอยจอด 3 ระดับ Adaptive Cruise Control ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลนต่าง ๆ เป็นต้น

MG HS ให้มาตั้งแต่ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเตือนและควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ระบบเตือนจุดบอดด้านข้างและด้านหลัง ฯลฯ ยังมีถุงลมนิรภัยครบ 6 จุด ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมชะลอความเร็ว เป็นต้น

ต้องรอดูตอนเปิดตัวกันอีกครั้ง ว่าเขาจะมีอะไรมาให้บ้าง

อ่านเพิ่มเติม เทียบรุ่นย่อย 2021 Haval H6 HEV Pro และตัวท็อป Ultra

ดีแบบนี้จะขายเท่าไร?

อย่าไงไรก็ตาม การมาของ Haval H6 PHEV ก็ยังไม่มีการเปิดเผยราคาแต่อย่างใด แต่เนื่องด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริดที่จะมีราคาแพงกว่าธรรมดา จะทำให้ต้องมีราคาแพงขึ้น จากในปัจจุบัน 1.249 ล้านบาท อาจจะได้ขึ้นไปแตะ 1.4-1.5 ล้านให้เห็น 

ซึ่งก็มีโอกาสที่จะแพงกว่า MG HS PHEV ที่มีราคา 1.359 ล้านบาท แต่ตามสไตล์ฮาวาลที่ชอบทำราคามาเพื่อให้แข่งขันกับคู่แข่งได้ ก็อาจมีอะไรน่าตื่นเต้นให้เห็น

คราวนี้ก็อยู่ที่ว่า ชาวไทยจะเลือกอะไร ระหว่างความเก๋าเกมส์ที่อยู่ในตลาดประเทศไทยมานานกว่า หรือจะเอา Haval ที่กำลังมาแรง แถมประหยัดกว่าในจังหวะนี้!