เทียบสเปก 2021 Haval H6 Hybrid อ็อปชั่นสุดแรงแต่ราคาแพงกว่า MG HS PHEV แน่นอน

2021 Haval H6 (2021 ฮาวาล เอช6) คือหนึ่งในรถเอสยูวีที่หลายคนรอคอยมากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หลังจากมีการปล่อยข้อมูลกระตุ้นกระแสกันอย่างยาวนานหลายเดือน

ล่าสุด Great Wall Motor หรือ GWM (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ปล่อยข้อมูลอย่างเป็นทางการบางส่วนของรถเอสยูวี-ซีรุ่นใหม่นี้ แต่เหลือเพียงอย่างเดียวที่ยังอุบไว้นั่นคือราคาจำหน่ายที่คาดว่าจะมีการประกาศอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

H6 Hybrid จะออกแข่งขันในระดับเดียวกับ MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) รถปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกในเซกเมนท์นี้ เราไปชมกันว่ารถเอสยูวีทั้งสองโมเดลมีสเปกสูสีดู๋ดี๋กันมากเพียงใด แถมในช่วงท้ายเรานำข้อมูลบางส่วนของ Changan CS75 plus (ฉางอัน ซีเอส75 พลัส) ที่สามารถทำยอดขายแซง H6 ในจีนมาฝากกันด้วย

เรียกว่าแลกกันคนละหมัด สำหรับสเปกระบบขับเคลื่อนของรถเอสยูวีทั้งสองรุ่น H6 Hybrid มีแรงบิดสูงที่สุดในระดับเดียวกันที่ 530 นิวตันเมตร ขณะที่ HS PHEV มีพละกำลังให้เค้นคันเร่งมากถึง 284 แรงม้า มากที่สุดรุ่นหนึ่งในเซกเมนท์นี้และคาดว่าจะประหยัดน้ำมันดีที่สุดด้วย

รูปลักษณ์ภายนอก

H6 Hybrid มาพร้อมไฟหน้า LED อัจฉริยะ พร้อมเดย์ไลท์ เส้นสายรอบตัวรถที่มีเอกลักษณ์ บนหลังคามีพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่ แถบไฟท้ายแบบ LED พาดยาวจากซ้ายจรดขวา ฝาประตูท้ายไฟฟ้า ล้ออัลลอยในตัวท็อปใช้ขนาดใหญ่มหึมาถึง 19 นิ้ว  

ส่วน HS PHEV มีไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED ไฟเดย์ไลท์ ไฟท้าย LED หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ฝาประตูท้ายไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว  

จากตารางข้างต้นจะเห็นว่า H6 Hybrid ยาวกว่า HS PHEV อย่างชัดเจน แต่ยังไม่ใช่รถเอสยูวี-ซีที่ยาวที่สุดในเซกเมนท์นี้เพราะต้องยกให้ Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) ที่ยาวกว่าใครเพื่อน ส่วนระยะฐานล้อถือว่าใกล้เคียงกัน

ภายในห้องโดยสาร

เปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสารของ H6 Hybrid จะพบกับการตกแต่งภายในด้วยสีที่ยกระดับความหรูหรา อาทิ สีโรสโกลด์ สีแกรนด์เปียโนแบล็ค ที่เข้ากับโครเมียมและไฟแอมเบียนท์ช่วยสร้างบรรยากาศ

แผงหน้าปัดเป็น Multi-Display แบบลอยตัว พร้อมจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ และจอแสดงผลเฮดอัพดิสเพลย์ แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เกียร์ไฟฟ้า ระบบชาร์จอุปกรณ์ไร้สาย เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน พร้อมตัวกรอง CN95 และช่องแอร์ด้านหลัง ส่วนเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีระบบ Intelligence V3.5 รองรับการสั่งงานด้วยเสียง และ FOTA ระบบการอัปเกรดโปรแกรมออนไลน์

ทางด้าน HS PHEV ตกแต่งด้วยสีทูโทนขาว-น้ำเงิน พร้อมมีไฟแอมเบียนท์เช่นกัน บนคอนโซลมีจอแสดงผลอัจฉริยะขนาด 12 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน พร้อมกรองอากาศ PM2.5 ช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า และปุ่มปรับโหมดการขับขี่ พร้อมปุ่ม Super Sport

HS PHEV ยังมีระบบเชื่อมต่อ i-Smart สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และค้นหาสถานีชาร์จ มีระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์    ตลอดจนระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านสมาร์ทโฟน ระบบนำทางเนวิเกชั่น พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time

ระบบความปลอดภัย

Haval เผยไฮไลท์ด้านระบบความปลอดภัยใน H6 Hybrid ที่ล้ำสมัยอย่างมาก มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 2 หรือ Level 2 มาพร้อม 22 ฟังก์ชั่นอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ได้แก่ระบบช่วยจอดรถยนต์อัตโนมัติ 3 รูปแบบ หรือ Integration Auto Parking (IAP) ด้วยกล้อง 360 องศา และเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค สามารถค้นหาที่จอดรถ ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ค้นหาพื้นที่ว่างสำหรับจอดรถยนต์ และสามารถแนะนำการจอดรถได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ หรือ Auto Reversing Assistance (ARA) โดยระบบจะสามารถจดจำเส้นทางเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถถอยหลังกลับตามเส้นทางเดิมได้ในระยะทางถึง 50 เมตร

H6 Hybrid ยังมีระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง Wisdom Dodge System (WDS) โดยระบบจะช่วยตรวจจับรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่ เพื่อควบคุมให้รถยนต์รักษาระยะห่างจากรถบรรทุก โดยหลังจากวิ่งผ่านรถบรรทุกแล้ว รถยนต์จะกลับเข้าสู่กลางเลนตามปกติ

สำหรับระบบมาตรฐานอื่น ๆ มีครบครัน อย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC) ระบบช่วยหยุดรถยนต์และออกตัว (stop-and-go) และระบบแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา

ขณะที่ระบบความปลอดภัยไฮไลท์ใน HS PHEV ได้แก่ ระบบควบควมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam Control) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)

นอกจากนี้ HS PHEV ยังมีระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) และระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ราคาจำหน่าย

MG HS PHEV เคาะค่าตัวรุ่นย่อยเดียวที่ 1,359,000 บาท ถือเป็นราคาที่ช็อกตลาดพอสมควรสำหรับรถปลั๊กอินไฮบริดที่มีเทคโนโลยีอัดแน่นล้นคัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ Outlander PHEV ที่เปิดราคาจำหน่าย 1,640,000 - 1,749,000 บาท 

ส่วน Haval H6 ยังไม่เปิดเผยราคา แต่มีเสียงร่ำลือว่าอาจขยับขึ้นไปที่เฉียด 1,500,000 บาทในรุ่นท็อป ถือว่าวัดใจลูกค้ากันไปเลยว่าจะยอมเปิดใจรับแบรนด์รถยนต์น้องใหม่จากแดนมังกรหรือไม่ 

รถเอสยูวีที่จะเข้ามาสอดแทรกในอนาคต

กลายเป็นกระแสเล็ก ๆ ในตลาดรถยนต์บ้านเราเมื่อมีการนำรถเอสยูวี Changan CS75 plus เข้ามาศึกษาตลาดและทำแบบสำรวจความต้องการของลูกค้า ทำให้คอรถยนต์หลายคนแอบลุ้นว่าจะได้สัมผัสรถสัญชาติจีนอีกหนึ่งรุ่น

CS75 plus เป็นรถเอสยูวีขนาดซีเซกเมนท์ที่เรียกเสียงฮือฮาในตลาดรถแดนมังกรจากการทำยอดขายทุบสถิติของ H6 ด้วยตัวเลขเกือบ 33,000 คันต่อเดือน บ่งชี้ว่ารถอเนกประสงค์รุ่นนี้มีคุณสมบัติดีพอที่จะชนะใจลูกค้าชาวจีน

ที่น่าสนใจก็คือ CS75 plus มีมิติตัวถังยาวกว่า H6 เล็กน้อย ขณะที่เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ 1.5 ลิตรและ 2.0 ลิตร พละกำลัง 178 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร และ 233 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตรตามลำดับ

หากได้รับไฟเขียวให้เข้ามาขายเมืองไทย Changan CS75 plus จะเป็นรถเอสยูวีอีกรุ่นที่คาดว่าจะมีราคาจำหน่ายย่อมเยาและสามารถเข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง