PT Honda Prospect Motor (HPM) ตัวแทนของ Honda (ฮอนด้า) ในประเทศอินโดนีเซีย ประกาศเดินหน้าสายการผลิตรถยนต์เอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง 2022 Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์-วี) อย่างเป็นทางการที่โรงงานในคาราวัง จาวาตะวันตก กลางเดือนนี้
โรงงานดังกล่าวยังใช้เป็นฐานการผลิตรถนต์ที่หลากหลายของฮอนด้า ที่ทั้งจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ โดยฮอนด้าระบุว่าการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ของพวกเขานี้ จะมีสัดส่วนการใช้งานชิ้นส่วนในประเทศมากกว่า 80% กันเลยทีเดียว
แน่นอนว่ารถยนต์เอนกประสงค์รุ่นนี้จะต้องเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยในปี 2565 อย่างแน่นอน แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเป็นเครื่องยนต์รุ่นเดียวกันกับในอินโดนีเซียหรือไม่ และจะยังผลิตในประเทศต่อไปหรือจะเปลี่ยนมาใช้บริการนำเข้าจากเพื่อนบ้าน
ทาเคฮิโระ วาตานาเบ้ ผู้บริหารของเอชพีเอ็ม ระบุว่าโรงงานในอินโดนีเซียจะเป็นโรงงานแห่งเดียวในโลกนี้ที่ทำการผลิตฮอนด้า บีอาร์-วี เพื่อการจำหน่ายในประเทศ และเพื่อการส่งออกไปมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของฮอนด้า อินโดนีเซียในการแสดงให้เห็นศักยภาพและมาตรฐานด้านการผลิตระดับสูงของโรงงานฮอนด้าในอินโดนีเซีย
ฮอนด้า อินโดนีเซียอธิบายเพิ่มเติมว่าหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา รถรุ่นนี้ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากลูกค้าในอินโดนีเซีย โดยมียอดจองเข้ามาก่อนหน้านี้มากกว่า 2,500 คัน ซึ่งการเปิดสายการผลิตรถในครั้งนี้ ก็จะเป็นการยืนยันว่าลูกค้ากลุ่มแรก ๆ ที่สั่งจองรถเข้ามาก่อนหน้านี้ จะได้รับมอบรถกันในช่วงต้นเดือนมกราคมที่จะถึงนี้
นอกเหนือไปจากการตกแต่งด้านรูปลักษณ์ให้มีความแข็งแกร่ง บึกบึนมากขึ้นกว่าเดิม ฮอนด้า บีอาร์-วีใหม่ ยังมาพร้อมระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยมากมาย โดยรุ่นท็อปมาพร้อม Honda SENSING, Honda LaneWatch ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์จากรีโมต ระบบล็อกรถเมื่อเดินห่างจากรถ รวมถึงอุปกรณ์มากมายเพื่อให้การใช้งานรถยนต์ 7 ที่นั่งรุ่นนี้เป็นไปได้อย่างสะดวกสบาย
นอกจากรุ่นท็อปที่มีอุปกรณ์ครบครัน ฮอนด้า อินโดนีเซียได้ประกาศจำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้ในตลาด 5 รุ่น โดยใน 2 รุ่นเริ่มต้นจะมาพร้อมเกียร์ธรรมดา ตามมาด้วยรุ่นเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที 2 รุ่น และรุ่นท็อปจะมาพร้อมอุปกรณ์และของเล่นที่หลากหลายกว่า และทุกรุ่นจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ไม่ต่างจากคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกัน
แน่นอนว่าเมื่อท่านประธานประกาศชัดเจนเรื่องฐานการผลิต ทำให้ประเทศไทยอาจจะต้องปรับแผนไปนำเข้ารถยนต์รุ่นนี้เข้ามาจากอินโดนีเซียอีกครั้งในช่วงปี 2565 ปัญหาคือ เครื่องยนต์ที่ใช้ทำตลาดจะเป็นเครื่องเดียวกับในอินโดนีเซีย หรือจะเลือกใช้เครื่องยนต์อื่น ๆ ก็ต้องมาดูว่าโรงงานจะสามารถผลิตให้ได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ปีหน้าเราน่าจะได้สัมผัสกับรถรุ่นนี้แน่นอน
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}