หลังจากการเปิดตัว 2022 Ford Everest แฟน ๆ ของฟอร์ดก็มีความหวังว่าอาจจะมีรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง Raptor หรือ FX4 Max ออกมาภายหลัง
แม้ในงานแถลงเปิดตัวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้บริหารของฟอร์ดจะยังไม่ยืนยันว่าจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า
Ford (ฟอร์ด) อาจพิจารณาเพิ่มรุ่นลุยเต็มรูปแบบ 2023 Ford Everest Raptor หากลูกค้าร้องขอ แต่ในตอนนี้ ฟอร์ดยังไม่มีแผนที่จะทำ PPV ที่เป็นญาติกับ Ranger Raptor แต่อย่างใด
แม้ว่าทางฟอร์ดจะมีความสนใจในเวอร์ชั่นสมรรถนะสูงของ Everest แต่ฟอร์ดก็ต่อต้านการนำตราของ Raptor อันศักดิ์สิทธิ์มาใช้กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ Everest แม้ทั้งสองตัวถังจะแบ่งปันรายละเอียดทางด้านวิศวกรรมทั้งสไตล์ ช่วงล่าง ความกว้าง เทคโนโลยี แพลทฟอร์ม รวมไปถึงเครื่องยนต์
การนำเครื่องยนต์ V6 ดีเซลเทอร์โบจาก Everest รุ่นที่แล้ว หรือ V6 เบนซินทวินเทอร์โบ มาจากรุ่นที่แล้วของ Ranger Raptor ทำให้ความหวังของ Everest Raptor ใกล้ที่จะเป็นความจริง แต่เอียน ฟอสตัน หัวหน้าวิศวกรของฟอร์ดก็ยังยืนยันต่อสื่อมวลชนว่ายัง “ไม่มีแผน” สำหรับ Everest ที่ร้อนแรงกว่านี้ ในตอนนี้
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของ Everest ที่สามารถใช้ออฟโรดได้มากขึ้น ฟอสตันจึงตอบคำถามนั้นว่า “เราจะรับฟังลูกค้าของเราอยู่เสมอ แต่เราเชื่อว่าจะมีความสมดุลที่ดีของความสามารถด้านออฟโรดในรุ่นต่าง ๆ ที่มี”
“ผมได้ไปในเส้นทางออฟโรดหนึ่งที่โหดเหี้ยมที่สุดในออสเตรเลีย (ด้วย Everest ดีเซล V6) และมันมีความสามารถมาก”
“ไม่มีอะไรที่ต้องพูดเพิ่มเติมแล้วในวันนี้ แต่เรารับฟังลูกค้าของเราเสมอ…วันนี้เราจะพูดถึงรุ่นย่อยต่าง ๆ ที่กำลังจะเปิดตัว(เท่านั้น) ได้แก่ Sport, Titanium และ Platinum”
Theophilus Chin ได้จินตนาการถึง Everest Raptor ด้วยการเรนเดอร์ที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถสร้างจากพื้นฐานของ Everest และ Ranger Raptor ออกมาได้อย่างโดดเด่น ด้วยกระจังหน้าแบบตัวอักษร “F-O-R-D” กันชนแบบออฟโรด และล้อและยางที่ใหญ่ขึ้น
ขณะที่ Ranger Raptor จะมีการเปลี่ยนพาร์ททั้งด้านหน้าและหลังใหม่ทั้งหมด ต้องรอดูกันว่าหากมี Everest Raptor ขึ้นมาจริง ๆ ทางฟอร์ดจะทำเหมือนกันไหม หรือมีเพียงชุดแต่งรอบคัน เพราะหากใช้ชิ้นส่วนใหม่หมดแบบ Raptor ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นไม่น้อย
หากจะทำตามแบบ Ranger Raptor ที่มีการเปลี่ยนช่วงล่าง และขยายความกว้างที่แผ่นโลหะบริเวณล้อคู่หลัง ฟอร์ดคงต้องสร้างประตูหลังชิ้นใหม่ รวมถึงส่วนที่ยืดจากประตูท้ายไปยังเสาหน้า
โดยรวมแล้วคือชิ้นส่วนที่ต่างจากรุ่นปกติจะมีมากกว่า Ranger ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนการผลิต และคาดว่า Everest Raptor ไม่ได้รับความนิยมเท่ากับ Ranger Raptor ซึ่งจำหน่ายอย่างแพร่หลายในตลาดประเทศต่าง ๆ มากกว่า
ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะไม่พบเจอในเวอร์ชั่น Raptor ของทั้ง Ranger, F-150 หรือกระทั่ง Bronco ในตลาดอเมริกา เนื่องจากชิ้นส่วนของรถด้านหน้าจะสิ้นสุดที่ประตูหลัง และแยกกับส่วนของด้านหลัง จึงไม่มีปัญหาเพราะแต่ละชิ้นนั้นไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องกัน
ความหวังของเวอร์ชั่น Raptor ของ Everest อาจจะริบหรี่ แต่ฟอร์ดอาจเสนอรุ่น “FX4 Max” หรือ “Wildtrak X” แทนโดยอาจมีสไตล์ที่ถ่ายทอดมาจาก Raptor แต่ไม่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนสำคัญและใช้เครื่องยนต์เดิมที่มีอยู่
ในกรณีข้างต้นอาจมีความเป็นไปได้มากกว่าการมีเวอร์ชั่น Raptor เต็มรูปแบบ เพราะยังสามารถปรับปรุงด้วยช่วงล่าง Fox, ยางแบบ all-terrain จนถึงกระจังหน้าแบบ “F-O-R-D” หรือฟีเจอร์อื่น ๆ ที่คล้ายกับ Raptor แต่ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม Ford ก็ยังไม่ยืนยันว่าจะมีรุ่น Wildtrak หรือ FX4 Max แต่อย่างใด ไปจนถึง Raptor เต็มรูปแบบด้วย
ในประเทศไทยยังไม่มีข่าวถึงเรื่องรุ่นอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ปรากฏในงานเปิดตัวแต่อย่างใด แต่ใน Everest เจเนอเรชั่นนี้คาดว่าจะมีเครื่อง V6 ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตรมาเป็นตัวเลือกให้แก่ลูกค้าชาวไทย เพราะในงาน Motor Show ปลายเดือนมีนาคมนี้จะมี Everest เครื่อง V6 มาจัดแสดงภายในงานนี้ด้วย !
อ่านเพิ่มเติม : เปิดตัว 2022 Ford Everest กว้างขวางขึ้น ลุยดีกว่าเดิม เพิ่มเครื่อง V6 บวกระบบความปลอดภัย
ขอขอบคุณภาพเรนเดอร์จาก drive.com.au
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}