Ford (ฟอร์ด) ได้เปิดตัว Next Gen Ford หลากหลายรุ่นในรอบปีที่ผ่านม พร้อมทำการปรับปรุงสินค้าของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกแบบสินค้ารุ่นปรับปรุงมามากมาย เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างและโดดเด่นกันได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าลูกค้าจะต้องการสินค้ากลุ่มใดมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ ฟอร์ดก็มีให้อย่างครบครัน
ในบรรดารถรุ่นใหม่ที่ทำการเปิดตัวไปล่าสุด ฟอร์ดได้พยายามเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว Ford Ranger Stromtrak (ฟอร์ด เรนเจอร์ สตรอมแทร็ค) ที่มาพร้อมอุปกรณ์มากมายและช่วงล่างพร้อมลุย Ford Everest Wildtrak (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไวล์ดแทร็ค) ที่มาพร้อมชุดแต่งแบบครบครัน สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการไปแต่งเพิ่ม
รวมไปถึงเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ 2.0 ไบเทอร์โบของ Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์) สำหรับลูกค้าขาลุยที่อยากได้รถที่ประหยัดน้ำมันกว่าเครื่องยนต์วี6 ซึ่งฟอร์ด ประเทศไทย ได้เป็นเจ้าภาพในการเชิญสื่อมวลชนทั่วอาเซียนไปสัมผัสกับรถเหล่านี้กันที่ซาปา ประเทศเวียดนาม ท่ามกลางเส้นทางออฟโรดแบบธรรมชาติ ที่มีการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย
นอกเหนือจากการได้ทดลองขับรถบางรุ่นกันอย่างเต็มที่แล้ว ฟอร์ดยังได้จัดเซสชั่นสำหรับการทดสอบออพชั่นใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในรถของพวกเขา พร้อมการอธิบายว่าออพชั่นเหล่านี้ จะทำให้ชีวิตของเจ้าของรถฟอร์ดนั้นดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง ซึ่งก็ถือเป็นความสนุกสนานท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุของเมืองซาปา ที่เราโชคดีไม่เจอฝนตกลงมากวนการทดสอบแต่อย่างใด
แน่นอนว่าสมรรถนะของรถนั้นยอดเยี่ยมและสอบผ่านตั้งแต่ที่เราเคยทำการทดสอบมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ในครั้งนี้เมื่อฟอร์ดเชิญ AutoFun มาร่วมออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ เราก็เลยเก็บความประทับใจในแต่ละจุดที่เราชื่นชอบในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มาให้ชมกัน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการยกระดับตลาดรถเชิงพาณิชย์กันไปอีกเลเวลก็คงไม่ผิด
ขอยืนยันว่าถ้าจะใช้งานกันให้เต็มที่ ฟอร์ดก็ยังเหนือกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควร...
หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ใช้งานกันบนท้องถนน หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติขณะลงทางลาดชัน ที่มีให้ใช้กันในเอสยูวีระดับหรูหรา แต่หากลองขึ้นถึงการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดที่บางทีเราอาจจะไม่คุ้นเคยและต้องเลือกใช้ระบบและความเร็วด้วยตนเอง ฟอร์ดมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนเส้นทางออฟโรด ที่สามารถขับผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้ด้วยความเร็วที่กำหนดเอาไว้ โดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องควบคุมด้วยตัวเอง ซึ่งให้ทั้งความสะดวกสบายและความปลอดภัยในขณะใช้งานจริงได้เป็นอย่างดี
ในฟอร์ด เรนเจอร์ สตอร์มแทร็ค พวกเขาได้ทำการติดตั้งสปอร์ตบาร์แบบพิเศษ ที่สามารถเลื่อนเข้าออกได้ 5 ระดับด้วยมือเดียว พร้อมติดตั้งฐานสำหรับการขนสินค้าที่สามารถยกขึ้นจากสปอร์ตบาร์ได้ รวมถึงแร็คหลังคาที่สามารถปรับมาใช้เป็นที่วางของแนวขวางเพิ่มเติมได้ ทำให้เราสามารถขนของต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น การปรับก็ทำได้อย่างง่ายดายด้วยตัวคนเดียว นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของที่เหยียบท้ายกระบะที่ทำให้เราขึ้นลงหรือหยิบของจากด้านท้ายกระบะได้ง่ายขึ้น แถมมีออพชั่นบานปิดกระบะไฟฟ้าให้เลือกซื้อได้อีกในราคาย่อมเยากว่าไปติดข้างนอก
จุดที่ชมอย่างต่อเนื่องก็คือการเลือกใช้งานระบบออฟโรดที่หลากหลายและเลือกผ่านการใช้ปุ่มควบคุมในรถนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนโหมดการใช้งานแบบไวไว เช่น จากโหมดโคลนไปหิน ตัวรถนั้นจะทำการปรับโหมดอย่างรวดเร็วว่องไว แถมทำทุกอย่างแบบอัตโนมัติโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเสียเวลาจำว่าจะปรับโหมดไหนไปโหมดไหน หรือหากลืมหรือทำผิด ก็จะมีการเตือนบนหน้าจอเป็นภาษาไทยอย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากการขับรถขับเคลื่อนสี่ล้อทั่ว ๆ ไป หากไม่มีความรู้ความเข้าใจกับระบบต่าง ๆ รถของฟอร์ดนั้นจะทำให้คุณใช้งานระบบต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ก่อนที่เราจะลงไปลุยเส้นทางออฟโรดกันนั้น ฟอร์ดได้พาคาราวานรถทั้่งหมดผ่านตัวเมืองแคบ ๆ และหุบเขาของเมืองซาปา ซึ่งแน่นอนว่า ตัวรถได้แสดงให้เห็นช่วงล่างอันนุ่มนวลเหนือกว่ารถเชิงพาณิชย์ทั่วไป และความคล่องตัวของพวงมาลัยที่มีระยะการหมุนที่คล่องแคล่ว นอกจากนี้ ฟังชั่นส์ต่าง ๆ อย่างกล้อง 360 องศา ก็ช่วยให้ตัดสินใจในการขับขี่ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ขณะที่ห้องโดยสารที่มาพร้อมระบบความบันเทิงเต็มรูปแบบ และเบาะที่นั่งที่รองรับการนั่งอย่างดี โดยเฉพาะสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง บอกเลยว่านั่งแล้วเมื่อยไม่มาก นั่งทางไกลได้โอเคเลยล่ะ
ในทริปที่เอามานั้น แน่นอนว่าฟอร์ดเลือกรถตัวท็อปทั้งหมดมาทำการทดสอบกัน แต่หากรู้สึกว่ารถเหล่านี้ราคาสูงเกินไป ฟอร์ดก็ยังมีกองทัพรถให้เลือกตามความต้องการของลูกค้าอีกหลากหลาย ตั้งแต่กระบะตอนเดี่ยวตัวเตี้ย กระบะยกสูง พีพีวีรุ่นขับเคลื่อนสองล้อออพชั่นน้อย ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความต้องการ และฟอร์ดเองก็พยายามทำราคาให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในท้องตลาดทุกรายได้อยู่แล้ว
งานนี้ไม่ต้องจัดรุ่นท็อปก็ได้ ลองเลือกแค่เท่าที่จะใช้ดูได้เลย...
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}