แม้ราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นสูงและเศรษฐกิจในประเทศไทยยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แต่ก็ต้องยอมรับว่ากลุ่มลูกค้าระดับบนของประเทศนั้นไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ในสภาวะแบบนี้ โดยมีตัวเลขยอดจองรถกระบะและรถเอนกประสงค์ของฟอร์ดแสดงเอาไว้อย่างมีนัยสำคัญ
ตลาดรถปิกอัพที่หลาย ๆ คนมองว่าเป็นตลาดสำหรับรถยนต์ทำมาหากิน ทำให้ปิกอัพในระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมสูงสุดมาอย่างยาวนาน เรื่องนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับเจ้าพ่อไลฟ์สไตล์ปิกอัพอย่าง Ford (ฟอร์ด) ที่ทำตลาดกลุ่มปิกอัพแต่งมานาน
ก่อนหน้านี้พวกเขาเดินหน้าได้ไปอย่างดีกับ Ford Ranger Wildtrak (ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทร็ค) ปิกอัพแต่งสำเร็จรูปจากโรงงาน ก่อนตามมาด้วยไดโนเสาร์อย่าง Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์) กระบะจอมกระโดด ซึ่งทั้งหมดเพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ไปในงานมอเตอร์โชว์
และยอดจองครึ่งเดือนแรกของพวกเขานั้นถือว่าไม่ธรรมดา!!!
วิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า กระแสตอบรับของรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในประเทศไทยในช่วงครึ่งเดือนแรกหลังการเปิดตัว พบว่ามียอดจองทั้งสิ้น 3,503 คัน ทั้งจากในงานมอเตอร์โชว์และที่ผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดช่องทางจองรถออนไลน์ให้กับลูกค้า โดยในจำนวนนี้ แบ่งออกเป็นเรนเจอ์ ซีรี่ส์ จำนวน 2,589 คัน และรถพีพีวีอย่าง Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) มียอดจอง 914 คัน
สำหรับรถรุ่นที่มีผู้แสดงความสนใจจองมากที่สุด ได้แก่ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่มีเพียงรุ่นย่อยเดียว มีผู้จองเข้ามามากถึง 1,601 คัน ขณะที่ตัวเรนเจอร์ธรรมดา รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือรุ่นท็อปอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรคและฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียม+ ที่ต่างก็ใช้ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล ไบเทอร์โบ 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ก็ได้รับความสนใจจากผู้ที่จองรถเข้ามามากที่สุดเช่นเดียวกัน
การเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ เดอะ ซีรี่ส์ ในช่วงแรกนี้ ฟอร์ดไม่ได้เปิดให้จองรถทุกรุ่นพร้อมกัน โดยเปิดตัวแต่รุ่น 4 ประตูเท่านั้นสำหรับเรนเจอร์ ใน 2 รุ่นย่อยคือไวล์ดแทร็คและสปอร์ต ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 9.29 และ 9.99 แสนบาทตามลำดับ ขณะที่เอเวอเรสต์ก็เปิดให้จองแค่รุ่นไทเทเนียม+ ราคา 1.854 ล้านบาทและรุ่นสปอร์ต ราคา 1.464 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนไฮไลท์อย่างแร็พเตอร์ที่มีราคาจำหน่าย 1.869 ล้านบาท ถือว่าทำยอดจองได้เหนือความคาดหมาย
ฟอร์ดนั้นเคยมีสัดส่วนการขายรถกระบะกลุ่มแพง ที่ระดับราคาเกิน 1 ล้านบาทขึ้นไปสูงมากถึง 30% ของยอดขายของบริษัทตัวเอง แม้ว่ายอดที่เป็นตัวเลขจะไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ก็ตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็นปิกอัพระดับพรีเมียมให้กับตัวเองมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของระบบความปลอดภัยและสมรรถนะของเครื่องยนต์ ที่เรียกได้ว่าไม่เป็นรองใครในตลาด และเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคนั้นรับรู้มาโดยตลอดเช่นกัน
ฟอร์ดนั้นมักจะแย่งที่ 3 ในตลาดรถปิกอัพในประเทศไทยกับคู่แข่งอย่าง Mitsubishi (มิตซูบิชิ) มาโดยตลอด ซึ่งแน่นอนว่า หลังจากการเปิดตัวรถทั้งหมดไปแล้ว ฟอร์ดก็ต้องไล่เปิดตัวรถรุ่นอื่น ๆ ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่นตัวถังตอนเดียวและตอนครึ่ง และเครื่องยนต์รุ่นอื่น ๆ ออกมาให้ครบไลน์อัพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งหมด รวมถึงเป็นการสร้างยอดจำหน่ายให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดปิกอัพเบอร์ 3 เอาไว้ได้
ได้กล่องมาแล้ว ต่อไปก็ต้องได้เงินกับเขาบ้างล่ะ!!!
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}