รีวิว 2020 Mazda MX-5 RF อีกระดับของรถสปอร์ตโรดสเตอร์ในตำนาน

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำรถ นิว 2020 มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 อาร์เอฟ (New Mazda MX-5 RF) ออกทำตลาดประเทศไทยจำนวน 2 รุ่นย่อย คือ 2.0 RF เกียร์ธรรมดา และ 2.0 RF เกียร์อัตโนมัติซึ่งมีราคาจำหน่ายเท่ากันที่ 2,905,000 บาท มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลัง 184 แรงม้า แรงบิด 205 นิวตันเมตร

2020 มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 อาร์เอฟ เป็นรถสปอร์ตหลังคาแข็งเปิดประทุน 2 ที่นั่งสไตล์โรดสเตอร์ เปิดตัวออกจำหน่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยเป็นการนำเข้าทั้งคันและมุ่งทำตลาดเซกเมนท์รถสปอร์ตขนาดเล็ก

Mazda ให้คำนิยามแก่ 2020 Mazda MX-5 RF ว่าเป็นรถสปอร์ตที่ “จะปลุกทุกประสาทสัมผัสในตัวคุณ” ถูกยกระดับคุณลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นเพื่อให้เป็นที่ปรารถนามากยิ่งขึ้น มุ่งส่งมอบความสนุนสนานในการขับขี่ให้แก่ลูกค้า โดยตัวถังแบบ RF ย่อมาจาก Retractable Fastback หรือการใช้หลังคาแข็งเปิดประทุน ซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้ขับขี่ที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะการขับขี่มากกว่าหลังคาผ้าใบ

มิติตัวถัง

ไฮไลท์

จุดขายของ 2020 Mazda MX-5 ใหม่ คือการเพิ่มสีตัวถังภายนอกใหม่ สีเทาโพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Grey) พร้อมติดตั้งระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ Advanced SCB-S มีการตรวจจับผู้ใช้ทางเท้า และปรับปรุงภายในห้องโดยสารใหม่อีกเล็กน้อย อย่างคิ้วขอบประตูและเบาะหนังเจาะรู เป็นต้น นอกจากนี้ยังเพิ่มการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม.

การออกแบบภายนอก

MX-5 ใหม่ มาพร้อมไฟหน้า LED พร้อมระบบปรับระดับอัตโนมัติและเปิด-ปิดอัตโนมัติ มีเดย์ไลท์ LED กระจกมองข้างสีดำเปียโนแบล็ก กระจกบังลมรอบคันตัดเสียงรบกวน แผงหลังคาสีเดียวกับตัวรถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าภายในระยะเวลาเพียง 13 วินาทีเท่านั้น ล้ออัลลอยลวดลาย 8 ก้านสีเข้มขนาด 17 นิ้ว หุ้มด้วยยาง 205/45R17

สีไฮไลท์ใหม่อย่างสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ สามารถผสมผสานความแข็งแกร่งของโลหะและความลื่นไหลอันเงางามของพลาสติกได้อย่างลงตัว เฉดสียังเปลี่ยนไปตามองศาของแสงที่ตกกระทบบนตัวรถ อันแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาและเน้นถึงรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของตัวรถ นอกจากนี้ยังมีอีก 5 สีให้เลือกคือ สีแดง Soul Red Crystal สีเทา Machine Grey สีน้ำเงิน Eternal Blue สีดำ Jet Black และสีขาว Snowflake White Pearl

แทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณของรูปลักษณ์ภายนอก MX-5 มีความโดดเด่นสะดุดตาบนท้องถนนอยู่แล้ว ขับไหนก็หล่อที่นั่น การันตีด้วยรางวัล World Car Design of the Year ในปี 2016 ตัวถังขนาดเล็กที่มีความยาวไม่ถึง 4 เมตรและมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.7 เมตรให้ความคล่องตัวอย่างมากในการขับขี่ในเมืองใหญ่

การออกแบบภายใน

ภายในห้องโดยสารสีดำ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำแบบเจาะรู และเดินตะเข็บด้ายสีเทา บรรยากาศอบอวลด้วยซิกเนเจอร์ของ Mazda ที่เน้นความเรียบหรูและสปอร์ตอย่างลงตัว ช่องแอร์มีทั้งทรงกลมและทรงเหลี่ยมคล้ายกับใน Mazda 2 หัวเกียร์ทรงกลมน่าจับต้อง มีสวิทช์ควบคุมกลางคอนโซล และเบรกมือยังเป็นแบบดั้งเดิม

ใต้ฝากระโปรงหลังของ MX-5 ถึงแม้จะเล็กแต่ก็รองรับการเก็บกระเป๋าสัมภาระขนาดกลางได้ 2 ใบ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการขับขี่ท่องเที่ยวทางไกลด้วยเช่นกัน

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย

- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button

- หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว

- ปุ่มควบคุม Center Commander

- เครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

- ระบบสั่งการด้วยเสียง

- ระบบนำทางเนวิเกชั่น

- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth

- ช่องเชื่อมต่อ AUX และ USB

- ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE

- ลำโพง 9 ตำแหน่ง

- ที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง

ระบบความปลอดภัย

- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD และเสริมแรงเบรก BA

- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว DSC

- ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS

- ถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง ได้แก่คู่หน้าและด้านข้าง)

- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด 4 ตำแหน่ง

- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS)

- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS)

- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R

- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)

- ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA)

ระบบขับเคลื่อน

New Mazda MX-5 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 มีพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมกับมีระบบ i-Stop สตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเพื่อความประหยัดน้ำมันและลดมลพิษ

ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบน ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกขนาด 280 มม. ทั้ง 4 ล้อ โดยคู่หน้าเป็นแบบมีร่องระบายความร้อน เอาอยู่ทุกสถาณการณ์

สมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบาย

MX-5 เป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ให้ความตื่นเต้นตั้งแต่เข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย เบาะโอบกระชับลำตัวอย่างพอเหมาะพอเจาะ รองรับผู้ขับขี่ที่ตัวสูงระดับ 180 ซม. ได้แบบไม่อึดอัด พวงมาลัยตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยมและเชื่อมั่นได้เต็มเปี่ยม

เครื่องยนต์ 184 แรงม้าอาจไม่ได้แรงดุดันกระชากใจ แต่ก็ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ด้วยอาการดิ้นเล็ก ๆ สไตล์รถโรดสเตอร์คือเสน่ห์ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้ดังใจ ช่วงล่างเซ็ทมาให้มีความกระด้างพอสมควร เพื่อการยึดเกาะถนนที่เหนียวแน่น เมื่อบวกกับการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่สมดุล MX-5 จึงเหมาะสำหรับการพุ่งทะยานไปบนถนนที่เต็มไปด้วยโค้ง

หลังคาแข็งฮาร์ดท็อปเก็บเสียงได้ดี การเปิด-ปิดหลังคาด้วยระบบไฟฟ้าที่สะดวกสบายและรวดเร็วเหมาะสำหรับการใช้งานภายใต้สภาพอากาศเมืองไทยที่คาดเดาไม่ได้

อัตราความประหยัดน้ำมัน

ถึงแม้จะมีพละกำลังค่อนข้างสูง แต่ด้วยน้ำหนักตัวถังที่ไม่มากนัก ทำให้ MX-5 มีอัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 15 – 16 กม.ต่อลิตร

สรุป

เป็นที่ทราบดีว่าเซกเมนท์รถสปอร์ตในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในบ้านเรามียอดขายไม่สูงมากนัก และมักเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ให้แบรนด์กระแสหลักมากกว่าการสร้างความสำเร็จเป็นตัวเลข ซึ่งก็รวมถึง MX-5 คันนี้ที่ทำให้ Mazda มีความแตกต่างจากค่ายรถรายอื่นที่จำหน่ายเฉพาะรถยนต์นั่งทั่วไปอย่างเดียว

ด้วยค่าตัวที่ 2.905 ล้านบาท แน่นอนว่า MX-5 ไม่ใช่รถยนต์คันแรกของครอบครัว แต่คือรถยนต์ที่เป็นเหมือนรางวัลตอบแทนความสำเร็จในชีวิต ซึ่งสำหรับบางคนที่ต้องการรถสปอร์ต ราคาจำหน่ายมักไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ แต่คือแบรนด์และภาพลักษณ์ที่ได้เมื่อเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย

คู่แข่งที่พอจะนำมาเทียบเคียงกันได้อย่าง Subaru BRZ เคาะราคาอยู่ที่ 2 ล้านต้น ๆ ถูกกว่า MX-5 หลายแสนบาท อย่างไรก็ตาม รถสปอร์ตทั้ง 2 รุ่นมีบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน BRZ เป็นรถสปอร์ตคูเป้แบบดั้งเดิม ขณะที่ MX-5 คือรถสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดหลังคาที่มาพร้อมเอกลักษณ์และชื่อเสียงโด่งดังอันเกิดจากการบ่มเพาะมาอย่างยาวนาน

นี่คือรถสปอร์ตที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินและกำลังมองหารถสปอร์ตเปิดประทุนที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ตอบสนองการขับขี่ทั้งในด้านความสนุกเร้าใจหรือรื่นรมย์ไปกับสุนทรียภาพของสายลมแสงแดด