![ชายคนหนึ่งใช้แอพ Tesla ปลดล็อครถและเข้าไปขับตามปกติ แต่มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่รถตัวเอง 01]()
- อยู่ในสถานการณ์เร่งรีบ
- เจ้าของตัวจริงส่งข้อความมาหา จึงรู้ว่าขับรถผิดคัน
- Tesla ควรแก้ปัญหานี้โดยเร็วที่สุด
- ความเป็นไปได้อื่น ๆ ของปัญหานี้
เจ้าของ Tesla Model 3 (เทสล่า โมเดล 3) ชาวแคนาดานามว่า Rajesh Randev ไม่ตั้งใจในการปลดล็อครถ Tesla คันอื่นที่ไม่ใช่ของเขา ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน โดยเขาเข้าใจผิดคิดว่ารถคันนี้เป็นของเขาจริง ๆ
ซึ่ง Tesla Model 3 คันดังกล่าวมีลักษณะเหมือนกับรถของเขาอย่างกับฝาแฝด เพราะมีสีภายนอกเหมือนกันและเป็นรถในปีใกล้ ๆ กัน รวมถึงจอดอยู่ติดกันกับรถของเขา จึงเป็นไปได้ว่าสิ่งนี้ทำให้เขาสับสน
![ชายคนหนึ่งใช้แอพ Tesla ปลดล็อครถและเข้าไปขับตามปกติ แต่มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่รถตัวเอง 02]()
ต้องไปทำหน้าที่พ่อบ้านอย่างเร่งด่วน
เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ Global News ว่า ในตอนนั้นเขารีบมากเพราะเขาต้องไปรับลูกของเขาจากที่โรงเรียนให้ทัน ทำให้เขาไม่ได้สนใจกับรถมากนัก จึงคิดว่ารถคันนี้เป็นรถของเขาเอง
Randev ระบุว่าเขาได้เปิดประตูของรถด้วยแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์ของเขา และเข้าไปขับรถออกมาเลย แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติว่ารถคันนี้ไม่ใช่ของเขาเพราะกระจกหน้าของรถคันนี้มีรอยแตกอยู่
![ชายคนหนึ่งใช้แอพ Tesla ปลดล็อครถและเข้าไปขับตามปกติ แต่มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่รถตัวเอง 01]()
เมื่อรู้ดังนั้นแล้ว เขาจึงโทรหาภรรยาเกี่ยวกับรอยดังกล่าว แต่พบว่าภรรยาของเขาไม่ได้รู้เรื่องรอยแตกนี้เช่นเดียวกัน เขาถึงเริ่มที่จะสงสัยมากขึ้นว่ารถคันนี้ไม่ใช่ของเขา หลังจากนั้นความสงสัยของเขาก็เพิ่มขึ้นเมื่อสายชาร์จรถของเขาไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดิมที่เขาเคยเก็บไว้
ต่อจากนั้นไม่นาน ความสงสัยของเขาก็หายไปเมื่อมีข้อความส่งมาหาเขาว่า “สวัสดี Rajesh คุณขับรถ Tesla หรือเปล่า?” ซึ่งเป็นข้อความที่มาจากเจ้าของรถตัวจริง เพื่อบอกว่าเขากำลังขับรถผิดคัน
![ชายคนหนึ่งใช้แอพ Tesla ปลดล็อครถและเข้าไปขับตามปกติ แต่มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่รถตัวเอง 02]()
เจ้าของตัวจริงส่งข้อความมาหา จึงรู้ว่าขับรถผิดคัน
หลังจากเขาได้จอดรถคันนี้แล้ว Randev จึงเดินดูรอบรถและสังเกตว่าล้อของรถคันนี้มีลวดลายที่ต่างจากรถของเขา ต่อจากนั้นเขาจึงโทรหาคนที่ส่งข้อความหาเขาเพื่อบอกว่าเขารับรู้ถึงความผิดพลาดของเขาแล้ว
แต่เรื่องราวยังน่าแปลกใจกว่าเดิม เพราะเขายังสามารถกลับเข้าไปขับรถที่ไม่ใช่ของเขาได้อีกครั้ง และทำหน้าที่คุณพ่อที่ดีโดยไปรับลูก ๆ ของเขาก่อนที่จะนำ Tesla คันนี้กลับมาหาเจ้าของตัวจริง
เจ้าของรถตัวจริงบอกกับ Randev ภายหลังว่าเขาสามารถส่งข้อความหาเขาได้เพราะเห็นกระดาษในรถ Tesla ของเขาที่มีชื่อและเบอร์โทรของเขาอยู่พอดี
![ชายคนหนึ่งใช้แอพ Tesla ปลดล็อครถและเข้าไปขับตามปกติ แต่มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่รถตัวเอง 03]()
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้หลายคนคิดว่า การปลดล็อครถ Tesla คันอื่นผ่านแอพพลิเคชั่นของ Tesla เองนั้นเป็นไปได้อย่างไร Randev ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรเช่นกัน โดยเขากล่าวว่า
“เราทั้งคู่ต่างหัวเราะและผมก็ยังโทรหาตำรวจด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าพวกเขาได้รับการแจ้งความจาก Randev แล้วแต่พวกเขาไม่ได้แจ้งข้อหาเพราะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นให้แจ้งให้พวกเขาทราบและพวกเขาจะเริ่มสอบสวนต่อไป”
![ชายคนหนึ่งใช้แอพ Tesla ปลดล็อครถและเข้าไปขับตามปกติ แต่มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่รถตัวเอง 04]()
Tesla ควรแก้ปัญหานี้โดยเร็วที่สุด
Randev กล่าวว่าหลังจากนั้นเขาได้ติดต่อและส่งวิดีโอหลักฐานให้กับ Tesla แต่มีบางอีเมลของเขาถูกตีกลับเนื่องจากกล่องจดหมายของ Tesla อเมริกาเหนือนั้นเต็ม และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อเขากลับมา
หากคิดอย่างจริงจังแล้ว เหตุการณ์นี้อาจทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้างได้ ซึ่ง Tesla ควรสืบสวนเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดและต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง
อ่านเพิ่มเติม : Tesla เสียลูกค้าประจำที่เป็นนักแสดงรายหนึ่ง ที่มีปัญหากุญแจพัง แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ
![ชายคนหนึ่งใช้แอพ Tesla ปลดล็อครถและเข้าไปขับตามปกติ แต่มารู้ทีหลังว่าไม่ใช่รถตัวเอง 05]()
ความเป็นไปได้อื่น ๆ นอกจากแอพทำงานผิดพลาด
มีความเป็นไปได้มากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้หากไม่คิดถึงการทำงานที่ผิดปกติของแอพ บางคนบอกว่า Tesla Model 3 มีฟังก์ชั่นล็อกรถอัตโนมัติเมื่อเดินออกจากรถที่เชื่อมกับสมาร์ทโฟนหรือกุญแจรถ แต่การที่ระบบไม่ทำงานเพราะรถอาจเข้าใจว่าตัวรถอยู่ที่บ้าน (ที่ตั้งค่าไว้) หรืออีกกรณีคือลืมกุญแจไว้ในรถ
สมาชิกคนหนึ่งในฟอรั่มของ InsideEVs คาดการณ์ว่ารถอาจไม่ได้ล็อคและอยู่ในโหมด Valet แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากอะไรกันแน่
อ่านเพิ่มเติม : บริษัทความปลอดภัยไซเบอร์เตือน Tesla อาจถูกแฮ็คได้ง่าย ๆ ผ่านกุญแจรถ
