Mazda MX-30 EV รถที่จัดสเปคผิดพลาด วิ่งได้เพียง 160 กม.เท่านั้น ทำให้ขายไม่ออก และต้องยุติการจำหน่ายในอเมริกา
Mazda MX-30 EV รถที่จัดสเปคผิดพลาด วิ่งได้เพียง 160 กม.เท่านั้น ทำให้ขายไม่ออก และต้องยุติการจำหน่ายในอเมริกา
Mazda MX-30 EV เลิกทำตลาดแล้วในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากแบรนด์ได้ตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นไปที่ความพยายามในการใช้พลังงานไฟฟ้าลูกผสมในรุ่น CX-50 Hybrid, CX-90 PHEV และ CX-70 PHEV ที่กำลังจะมาถึง
การสูญพันธุ์ของรถครอสโอเวอร์คูเป้พลังไฟฟ้ารุ่นนี้จะทำให้ Mazda ไม่มี EV ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมาสด้าในถิ่นนั้นสักเท่าไหร่ เพราะว่า MX-30 เคยมีขายเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น ซึ่งยอดขายไม่ได้ดีอยู่แล้ว โดยเมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทขาย MX-30 EV ได้ทั้งหมด 16 คันเอง นั่นทำให้ยอดขายทั้งปี 2023 นี้ทำได้ 66 คัน ซึ่งไม่ได้ดีกว่าปีที่แล้ว ที่มียอดขายได้เพียง 324 คันตลอดทั้งปี 2022
MX-30 รุ่นปี 2023 มีราคาเริ่มต้นที่ 34,110 ดอลลาร์ นับว่าราคาไม่แพงนัก แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนั่นคือชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 35.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งอนุญาตให้ใช้ในระยะประมาณ 161 กม. เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าในงบประมาณใกล้เคียงกัน เช่น Chevrolet Bolt เริ่มต้นที่ 26,500 เหรียญสหรัฐฯ และสามารถเดินทางได้ 417 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
นอกจากช่วงราคาและราคาที่น่าผิดหวังแล้ว ครอสโอเวอร์คูเป้รุ่นนี้ ยังไม่ใช่รถกำลังแรงสูง เพราะมีมอเตอร์ที่ให้กำลัง 143 แรงม้า และแรงบิด 271 นิวตันเมตรเท่านั้น ทำให้เมื่อลูกค้าเทียบ Mazda กับคู่แข่งแล้ว ก็เทไปหายี่ห้ออื่นจนหมด
มันมีดีแค่ตรงที่การออกแบบสไตล์คูเป้ที่โดดเด่น MX-30 ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับความร้อนได้ มูนรูฟ ระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 8.8 นิ้ว และ Mazda Radar Cruise Control พร้อม Stop and Go
สิ่งสำคัญที่เพิ่มความพิเศษในรุ่นนี้คือ มีการตกแต่งภายในด้วยไม้ก๊อก สื่อถึงประวัติศาสตร์ของ Mazda ในฐานะผู้ผลิตไม้ก๊อกในยุคแรกเริ่ม
Mazda MX-30 ยังมีรถรุ่นปี 2023 อีกจำนวนหนึ่งในสต็อตตัวแทนจำหน่าย มีคนสืบดูพบว่ารถอย่างน้อย 15 คันหลงเหลืออยู่ในรัฐแคลิฟอเนีย ซึ่งนี่อาจจะเป็นการตลาดแบบขาดแคลน ตั้งใจทำเป็นรุ่นจำนวนจำกัด ขายเฉพาะกลุ่มลูกค้า ก่อนจะหายไปจากอเมริกาตลอดกาล
อ่านเพิ่มเติม : วิศวกรเฉลยว่าทำไม Mazda MX-30 ถึงขับได้แค่ 209 กม. มีดีอย่างไรถึงได้รางวัล Japan Car of the Year