2018 Honda CR-V คือการพัฒนารถเอนกประสงค์เจนเนอเรชั่นที่ 5 ที่มาพร้อมภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปพอสมควร สำหรับเอสยูวีที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยคันนี้ และเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น จากการที่มีคู่แข่งในตลาดมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ฮฮนด้าถือเป็นผู้มีประสบการณ์มากที่สุดในตลาดรถยนต์เอสยูวีไซส์นี้ และพวกเขาก็เดินหน้าไปอีกระดับด้วยการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างเหนือชั้น และต้องบอกว่าสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ของพวกเขาถือว่าทำออกมาได้อย่างไม่ธรรมดา
ฮอนด้า ซีอาร์-วี ที่เปิดตัวมาได้สักพักแล้ว จะยังน่าใช้งานอยู่หรือไม่นั้น มาลองดูกันว่า 5 จุดเด่นที่น่าสนใจ และ 3 จุดด้อยที่อาจจะทำให้คุณต้องคิดหนักหากจะซื้อในช่วงเวลานี้ จะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามกันมาได้เลย
5 จุดเด่นโดนใจสายเอนกประสงค์
1.การทำงานร่วมกันของทีมงานทั่วโลก
ว่ากันว่าในขั้นตอนการออกแบบรถยนต์คันนี้ แม้การพัฒนาหลักจะเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น แต่พวกเขาใช้ความชำนาญในการออกแบบจากทีมงานสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรถกลุ่มนี้ ผสานการรังสรรค์ห้องโดยสารภายในที่ยอดเยี่ยมทางทีมงานจากญี่ปุ่น เพื่อใช้ความชำนาญที่แตกต่างกันอย่างลงตัว
2.เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่
การหันมาใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 1.6 ลิตร ที่มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด คือการพัฒนาแบบก้าวกระโดดเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความอืดอาดและการกินน้ำมันแบบมหาศาล ที่ดูเหมือนจะเป็นตราบาปของรถรุ่นนี้มาตลอดในระยะเวลาที่ผ่านมา
3.ห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง
การปรับตัวเพื่อแข่งกับตลาดรถยนต์พีพีวี ทำให้ฮอนด้าตัดสินใจเพิ่มพื้นที่เบาะที่ 3 ของรถ กลายเป็นเอสยูวี 7 ที่นั่ง ที่รองรับการใช้งานได้ทั้งการขนคนและขนสัมภาระ แถมมีการติดตั้งระบบปรับอากาศแบบแยกสำหรับผู้โดยสารตอนหลังมาให้อีกต่างหาก
4.ระบบความปลอดภัยครบครัน
ฮอนด้าทำการติดตั้งระบบความปลอดภัยให้กับรถคันนี้อย่างครบครันที่สุด แม้จะยังไม่ถึงขนาดติดฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda Sensing) มาให้ก็ตาม แต่ถุงลงนิรภัย 6 ตำแหน่ง พร้อมระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่มากมาย ก็เพียงพอที่จะทำให้รถคันนี้น่าใช้งานอยู่ดี
5.การเก็บเสียงที่ดีของรถ
แม้จะเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล แต่พวกเขามีการเก็บเสียงของเครื่องยนต์ได้ดีกว่าที่คิด ไม่ได้ดังรุนแรงเหมือนรถปิกอัพทั่วไป แต่เนียนขึ้นเหมือนรถยต์นั่งยุคใหม่ และรถมาพร้อมระบบควบคุมเสียงเข้าห้องโดยสาร ที่เพิ่มความเงียบในการใช้งานไปอีกขั้น
3 ข้อด้อยที่ต้องพิจารณาประกอบ
1.อายุการทำตลาดของรถ
เดิมที่มีข่าวลือมาว่าฮอนด้าจะทำการไมเนอร์เชนจ์ให้กับซีอาร์-วี ในช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา แต่จากการติดปัญหาเรื่องการระบาดของโควิด-19 ทำให้แผนดังกล่าวเงียบลงไป แต่ก็คาดว่าอีกไม่นานนี้ ฮอนด้าต้องปรับปรุงเพิ่มความสดใหม่ให้กับรถคันนี้แน่นอน
2.ฮอนด้า เซนส์ซิ่งกำลังจะมา
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ สำหรับรุ่นไมเนอร์เชนจ์นั้น น่าจะเป็นการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูงฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ที่มีการติดตั้งในรถยนต์นั่งของฮอนด้าเกือบทุกรุ่น คราวนี้ก็น่าจะถึงคราวของซีอาร์-วี ที่จะได้ระบบนี้แล้ว
3.มีทางเลือกในตลาดที่น่าสนใจ
หากไม่นับซีอาร์-วีแล้ว ในตลาดเอสยูวียังมีเจ้าพ่อแห่งของเล่นและการขับขี่อย่างมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 (Mazda CX-5) และเจ้าพ่อแห่งการลดราคาอย่างนิสสัน เอ็กซ์เทรล (Nissan X-Trail) เป็นทางเลือกที่ดีกว่าหรือถูกกว่าอยู่ ใครจะซื้อซีอาร์-วีคงต้องคิดหนักหน่อย
รอดูรุ่นใหม่ก่อนพิจารณาก็ได้นะ
การเลื่อนการเปิดตัว New 2020 Honda CR-V ทำให้เรายังไม่รู้แน่ชัดว่าฮอนด้าจะทำการเพิ่มอะไรเข้ามาในรถรุ่นปรับโฉมบ้าง และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ราคาจำหน่ายของรถรุ่นที่ปรับมาแล้วนั้นจะปรับขึ้นไปอีกเท่าไร เพราะคู่แข่งตัวท็อปในปัจจุบันยังแพงกว่าราว 1 แสนบาท
แน่นอนว่าฮอนด้า เซนส์ซิ่งน่าจะเป็นไฮไลท์ในการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ แต่รูปลักษณ์หรือการตกแต่งอื่น ๆ ก็น่าจะมีการปรับเปลี่ยนไปเช่นกัน นั่นทำให้เราไม่อยากจะแนะนำให้คนที่อยากซื้อรถกลุ่มนี้รีบร้อนไป รอเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยซื้อหาก็ยังได้
เพราะเชื่อเถอะว่าฮอนด้าคงกลั้นไว้ได้อีกไม่นานหรอก พวกเขาเองก็อยากที่จะเปิดตัวรุ่นใหม่ของซีอาร์-วีใจจะขาด ถ้าให้คาดการณ์ ไม่เกินเดือนกรกฎาคมนี้ในงานมอเตอร์โชว์ที่เลื่อนไปเลื่อนมาที่กรุงเทพมหานคร น่าจะเห็นรถคันใหม่ตัวเป็น ๆ กันเสียที