Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) กระบะมือสองรุ่นดัง โฉมแรกมีอายุ 25 ปีแล้ว แต่ยังมีความทนทานและน่าซื้อใช้เป็นรถมือสองอยู่ เพราะมีรุ่นย่อยมีเยอะ ถูกไมเนอร์เชนจ์หลายโฉม จะมีรุ่นย่อยอะไรบ้างวันนี้รวมมาให้อ่านกันแล้ว

รุ่นแรกเปิดตัว 2002

ประวัติ Isuzu D-Max เจเนอเรชั่นแรก พัฒนาตัวถังร่วมกับ GM (General Motors) ในชื่อโครงการ GMT355 เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อพฤษภาคม 2002 รหัสตัวถัง RA หรือ RC มีความล้ำหน้าคู่แข่งรถกระบะทั่วไปในยุคนั้น เช่น Toyota Hilux Tiger, Nissan Frontier, Mitsubishi Strada เพราะมีมิติตัวถังขนาดใหญ่กว่ารถกระบะในระดับเดียวกัน 

สเปค Isuzu D-Max โฉมแรกยังใช้เครื่องยนต์ตระกูล Dragon Power จากเจเนเรชั่นก่อน ใช้หัวฉีด Direct Injection ยังไม่มีคอมมอนเรล มีความจุ 2 ขนาดคือ 2.5 ลิตร รหัส 4JA1-T ให้กำลัง 79 แรงม้า แรงบิด 176 นิวตันเมตร และรุ่นดีเซล 3.0 ลิตร รหัส 4JH1-T ให้กำลัง 120 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร มีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้ระบบควบคุมแบบกดปุ่มด้วยระบบไฟฟ้าในชื่อ Touch-On-The-Fly 

ไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรก ได้คอมมอนเรล

Isuzu D-Max ไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรกปี 2004 เพื่อสกัดขาการเปิดตัวของคู่แข่ง Toyota Hilux Vigo โดยการเปลี่ยนกระจังหน้าให้อ้ากว้างขึ้น มีขอบกระจังปาดลงไปเป็นแนวเดียวกับช่องดักลมล่าง ทางด้านขุมพลังเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ใหม่แบบหัวฉีด Common Rail แรงดันสูงกว่า โดยมีบล็อคดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร รหัส 4JK1-TC ให้กำลัง 116 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TC ให้กำลัง 126 แรงม้า แรงบิด 294 นิวตันเมตร

ไมเนอร์เชนจ์ครั้งใหญ่ปี 2006

2 ปีต่อมาในปี 2006 ได้เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่ 2 เปลี่ยนรูปร่างไฟหน้าเป็นทรงข้าวหลามตัด กับไฟตัดหมอกทรงกลม ไฟท้ายเปลี่ยนเป็นทรงคางหมูปลายแหลม มีออพชั่นรุ่นท็อปนั้นใช้เลนส์โปรเจ็คเตอร์เป็นรายแรกของรถกระบะเมืองไทย ส่วนภายในเปลี่ยนกรอบแอร์เป็นวงกลม พร้อมหน้าปัดเรืองแสงลายใหม่ พวงมาลัยทรงเหลี่ยมขึ้น และหัวเกียร์ทรงใหม่

ด้านขุมพลังก็ปรับปรุงเครื่องดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร เพิ่มอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังเพิ่มเป็น 146 แรงม้า แรงบิด 294 นิวตันเมตร และยังมีตัวแรงสุดคือดีเซล 3.0 ลิตรเพิ่มเทอร์โบแปรผัน (VGS) ให้กำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ส่วนเครื่อง 2.5 ลิตรยังคงมาตรฐานเดิม 

2007 เปิดตัว D-Max Gold series

Isuzu D-Max เปิดตัวรุ่นพิเศษ Gold series ในปี 2007 เพื่อฉลอง 50 ปีของบริษัทนี้ ถือเป็นปีทอง จึงได้เพิ่มการตกแต่งพิเศษด้วยสัญลักษณ์ ISUZU ที่กระจังหน้า ฝากระบะท้าย และพวงมาลัย เปลี่ยนเป็นสีทองทั้งหมด พร้อมสีตัวถังใหม่ ทองเมทัลลิค

2008 เปิดตัว D-max Platinum

Isuzu D-Max รุ่นย่อยใหม่ Platinum เปิดตัวในปี 2008 เพิ่มกล้องมองถอยหลัง Platinum Vision เป็นครั้งแรกในวงการรถกระบะเมืองไทย เพิ่มจอ LCD ขนาด 7 นิ้วระบบสัมผัส แถมตกแต่งแถบกระจังและกรอบไฟตัดหมอกเป็นสีเงินด้าน เช่นเดียวกับกรอบคอนโซลภายในด้วย

2009 เปิดตัว D-max Super Platinum

Isuzu D-Max เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ Super Platinum ออกมาในปี 2009 เพิ่มระบบนำทาง GPS ของ Garmin เป็นครั้งแรกในรถกระบะ เพิ่มเครื่องเล่น DVD เชื่อมต่อบลูทูธได้ และมีระบบอินโฟเทนเม้นท์ i-GENii มาให้เป็นครั้งแรกด้วย มีสโลแกนติดหูว่า “นำทางรวย”

2010 เปิดตัว D-max Super Titanium

Isuzu D-Max รุ่นย่อยสุดท้าย Super Titanium เปิดตัวในปี 2010 เพิ่มกล้องมองด้านหน้าเป็นครั้งแรกในวงการรถกระบะเมืองไทย มีมุมกว้างถึง 190 องศา ปรับมุมได้ทั้งแบบ มองซ้าย มองขวา หน้าตา และมุมก้ม อันเป็นออพชั่นไม้เด็ดที่งัดมาสู้กับคู่แข่ง ก่อนที่จะถูกตัดออกไปในรุ่นโมเดลเชนจ์จนถึงปัจจุบัน

2010 เปิดตัว D-max X-Series

ในปี 2010 นั่นเอง ยังเป็นจุดเริ่มต้นของรถกระบะแต่งซิ่ง เริ่มจากในปี 2010 ที่เปิดตัวรุ่นแต่งสปอร์ต โดยมีออพชั่นแบบรุ่น Super Titanium แต่ได้เพิ่มเติมตัวอักษรแดง สติ๊กเกอร์แต่ง และลายกราฟฟิคต่าง ๆ รอบคัน ขายเป็นเวลาสั้น ๆ เพียง 1 ปี ก่อนจะเปิดตัวรุ่นใหม่ในเดือนกันยายนปี 2011 แบบโมเดลเชนจ์ทั้งหมด ปิดตำนาน 9 ปีของอายุการตลาดรุ่นนี้

ราคามือสองคุ้มสุด

ซื้อรถมือสอง Isuzu D-Max โฉมแรก ราคารุ่น Spark มีค่าตัวเริ่มต้นแค่ 100,000 บาท หรือตัวถัง 4 ประตู Cab-4 ก็มีราคาประมาณ 200,000 บาท ที่มีจุดเด่นตรงที่ราคาถูก ขายต่อราคาดี แต่มีเครื่องยนต์กำลังน้อย และยังเป็นหัวฉีดไดเรคแบบเก่า

เราแนะนำรุ่นไมเนอร์เชนจ์ปี 2004 ที่ใช้เครื่องยนต์ปรับปรุงหัวฉีดใหม่เป็นระบบคอมมอนเรลแล้ว มีราคาเริ่มต้นประมาณ 200,000 บาทขึ้นไป ซึ่งนับว่าถูกและคุ้มค่ามาก 

ถ้ามีงบสัก 300,000 กว่าบาทขึ้นไป เราก็อยากแนะนำให้ซื้อรุ่นปี 2010 กับตัวท็อป Super Titanium ไปเลย เพราะว่าได้อุปกรณ์ทันสมัยแบบรถยุคปัจจุบัน ทั้งหน้าจอสัมผัส มีแผนที่ในตัว มีกล้องหน้า-หลัง และเครื่องดีเซลเทอร์โบแปรผัน ที่ยังมีอะไหล่รองรับไปอีกนานหลายสิบปี

อ่านเพิ่มเติม : 2023 New Isuzu D-max Minorchange เปิดตัวครั้งแรกของโลก ราคา 540,000 - 1,264,000 บาท