Toyota Yaris Ativ (โตโยต้า ยาริส เอทิฟ) อีโค่ซีดานรุ่นแรกของค่ายสามห่วง เปิดตัวเมื่อกลางปี 2018 ทำให้ปัจจุบันมีอายุ 4 ปีแล้ว จึงมีปริมาณรถมือสองเข้ามาขายกันมาก ล่าสุดนี้พบว่ามีราคามือสองในระดับ 350,000 บาทแล้ว แต่รุ่นนี้จะน่าสนใจแค่ไหน ทำไมราคาตกไว หรือมีคู่แข่งยี่ห้ออื่นที่น่าใช้หรือไม่
Toyota Yaris Ativ โดยพื้นฐานแล้วมาจาก Toyota Yaris 1.2 ที่เปิดตัวในปี 2013 มาพัฒนาต่อเป็นตัวถังซีดาน ที่มีจุดเด่นเรื่องหน้าตาใหม่ ออกแบบให้เปรี้ยวแนวสปอร์ต ภายในที่กว้างขวางไม่อึดอัด ที่สำคัญคือ มีถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง มากที่สุดในระดับซับคอมแพคซีดาน และให้เป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย
แนะนำรุ่นย่อย E
Toyota Yaris Ativ รุ่นที่มีออพชั่นพอใช้งานได้ในราคาไม่แพง แนะนำรุ่นย่อย E ระดับกลาง ราคาตอนป้ายแดง 549,000 บาท ภายนอกของเดิมจากโรงงานจะได้ล้อแม็กซ์ 15 นิ้วและมีชิ้นส่วนปลีกย่อยเป็นสีเดียวกับตัวถังแล้ว
อ่านเพิ่มเติม : 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อ Toyota Yaris Ativ
ส่วนภายในมีออพชั่นเด่นคือ แอร์ออโต้ เครื่องเสียงต่อบลูทูธได้ พร้อมปุ่มควบคุมเพลงและโทรศัพท์บนพวงมาลัย มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron กระจกหน้า Acoustic แบบเก็บเสียง กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า เซ็นเซอร์ถอยหลัง กุญแจอิมโมบิไลเซอร์
ระความปลอดภัยในรุ่นย่อยนี้ประกอบด้วย เบรค ABS, EBD และ BA ช่วยเสริมและกระจายแรงเบรค ยังมีระบบช่วยทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน HAC และที่สำคัญคือ ถุงลมนิรภัย 7 ใบรอบคัน
อ่านเพิ่มเติม : 2020 Toyota Yaris Ativ ต่างจากเดิมตรงไหน สรุปง่ายๆก่อนซื้อ
เครื่องยนต์ประหยัด มีเรี่ยวแรง
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุ 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 86 แรงม้า รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ออกแบบให้รีดสมรรถนะให้ได้มากที่สุด เมื่อกดคันเร่งแรง สมองกลจะตัดแอร์ 5 วินาที เพื่อให้ไม่เสียกำลังไปกับการปั่นคอมเพรเซอร์
ทำไมราคาตกเร็ว
สาเหตุที่โตโยต้ารุ่นนี้ราคาตกเร็ว เพราะว่ามี Toyota Yaris Ativ โฉมไมเนอร์เชนจ์ออกมาใหม่แล้ว อีกทั้งยังมีอีโค่คาร์เครื่องเทอร์โบอย่าง Nissan Almera และ Honda City ออกมาขายได้ 1 ปีกว่าแล้ว ซึ่งเริ่มมีรถมือสองออกมาขายในราคา 450,000 แล้ว ทำให้ Ativ ต้องขยับตัวลดลงมาตามอายุขัย
อ่านเพิ่มเติม : Toyota Yaris Ativ เทียบสเปคกับ Nissan Almera
ตัวเลือกอื่น ๆ ถ้าไม่ชอบรุ่นนี้
หากไปดูรถแล้วไม่ถูกใจสเปค ก็ยังมีคู่แข่งให้เลือกซื้อนั่นคือ Honda Brio ซึ่งมีทั้งตัวถังซีดานและแฮตช์แบคให้เลือก กับจุดเด่นตรงที่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ กำลัง 90 แรงม้า พร้อมจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ขับสนุกใช้ได้ ส่วนรุ่นซีดาน Amaze ก็มีเบาะหลังกว้างขวาง นั่งแล้วไม่อึดอัด
อ่านเพิ่มเติม : ศัพท์รถมือสอง 10 คำ ที่ต้องรู้ทันในหน้าโฆษณา
การซื้อรถมือสองไม่ว่ารุ่นใด ก่อนซื้ออย่าลืมดูสภาพตัวถังก่อน เริ่มด้วยสีหัวน็อตตรงขายึดฝากระโปรง ต้องไม่มีมีรอยถลอกหรือแต้มสีใหม่ ต่อด้วยการถอดกระดูกงูในวงกบประตูรถ ต้องมีสีสม่ำเสมอ แนวตะเข็บตรง ไม่มีรอยสนิม จากนั้นก็พลิกพื้นห้องสัมภาระหลัง ต้องมีรอยปั๊มนูนที่เรียบตรง แสดงว่าไม่ถูกชนมา ขอให้เจอรถที่ถูกใจครับ