Mercedes-Benz (เมอเซเดส-เบนซ์) เปิดตัว E-Class โมเดลเชนจ์ใหม่ ซีดานใหม่เป็นตัวแทนของเจเนอเรชั่นที่ 6 และมีกำหนดเปิดตัวในโชว์รูมปลายปีนี้ ขายเป็นรุ่นปี 2024
รหัสตัวถัง W214
Mercedes-Benz (เมอเซเดส-เบนซ์) เปิดตัว E-Class โมเดลเชนจ์ใหม่ ซีดานใหม่เป็นตัวแทนของเจเนอเรชั่นที่ 6 และมีกำหนดเปิดตัวในโชว์รูมปลายปีนี้ ขายเป็นรุ่นปี 2024
Mercedes-Benz E-Class (เมอเซเดส-เบนซ์ อี-คลาส) ใหม่มีรหัสตัวถังว่า W214 ยังคงเป็นรถซีดานขนาดกลางเน้นนั่งสบาย สัดส่วนต่างๆ คล้ายกับรุ่นปัจจุบัน แต่ความยาวเพิ่มเป็น 4,949 มม. ฐานล้อเพิ่มขึ้นเป็น 2,961 มม. อีกทั้งพื้นที่ในห้องโดยสารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 10-25 มม. ในส่วนที่วางขา แขน และหัวเข่า
สไตล์ภายนอกเป็นไปตามแนวทางคล้ายกับรูปลักษณ์ที่พบในตระกูล EQE หรือ EQS เจนเนอเรชั่นล่าสุด กระจังหน้ามีทั้งแบบดาวลอยคลาสสิค และแบบตราดาวฝังในกระจังหน้า มีออพชั่นไฟเรืองแสงที่ขอบเป็นครั้งแรก การออกแบบไฟหน้าที่มีรอยหยักคู่ ที่ทำให้นึกถึงการออกแบบไฟหน้ากลมคู่ของ E-Class รุ่นในตำนาน ส่วนท้ายรถใช้ไฟทรงสามเหลี่ยมแนวนอนเหมือนเบนซ์รุ่นอื่น ๆ แตกต่างตรงที่ มีลายเส้น LED เป็นดาวสามแฉกที่ไม่เหมือนรุ่นไหนมาก่อน
ภายในมีจุดเด่นกับหน้าจอแบบ Hyperscreen คล้ายกับรุ่น EQE ประกอบด้วยหน้าจอสูงสุด 3 จอกินพื้นที่บนแผงหน้าปัดยาวถึงฝั่งผู้โดยสาร หน้าจอหนึ่ง สำหรับแผงหน้าปัดดิจิตอล 12.8 นิ้ว อีกหน้าจอหนึ่งสำหรับศูนย์กลางระบบอินโฟเทนเมนต์ 14.4 นิ้ว และหน้าจอที่ 3 ซึ่งเป็นหน้าจอสุดท้ายหันหน้าไปทางผู้โดยสารด้านหน้า มีส่วนควบคุมฟังก์ชั่นบางอย่างของรถและความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้ว
ระบบปฏิบัติการของรถที่ติดตั้งแอปได้ทั้งโซเชียลและเกม เช่น TikTok, Angry Birds, การสตรีมวิดีโอ Zync และเว็บเบราว์เซอร์ Vivaldi นอกจากนี้ยังสามารถใช้แอปต่างๆ เช่น Zoom ได้ด้วย เนื่องจากกล้องที่ติดตั้งบนแผงหน้าปัดหันไปทางคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยที่ชัดเจน ฟังก์ชันเหล่านี้ส่วนใหญ่จะทำงานเมื่อรถจอดนิ่งเท่านั้น และหน้าจอที่หันไปทางผู้โดยสารด้านหน้า มีการป้องกันไม่ให้รบกวนแนวสายตาของคนขับ
อ่านเพิ่มเติม : ยลโฉมห้องโดยสาร 2023 Mercedes-Benz E-Class ใหม่ มี TikTok พร้อมกล้องเซลฟี่
เครื่องยนต์ของ Mercedes-Benz E-Class เริ่มต้นเป็นแบบ Mild-hybrid ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ร่วมกับมอเตอร์สตาร์ทที่ช่วยปั่นกำลังให้ในตัว รุ่นล่างสุดคือ E200 ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลัง 201 แรงม้า หรือเครื่องดีเซล E200d กำลัง 194 แรงม้า ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบล้อหลังหรือ 4Matic ทุกล้อ ทั้งคู่จะทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.8 วินาทีหรือน้อยกว่านั้น และทำความเร็วได้สูงสุด 238 กม./ชม.
รุ่นย่อยกลางเป็นแบบปลั๊กอินไฮบริด ยังใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าลูกใหญ่กำลัง 127 แรงม้า ที่สามารถขับไฟฟ้าล้วนได้ 100 กม. ประกอบด้วยรุ่นย่อย E300e กำลัง 308 แรงม้า มีทั้งขับเคลื่อนล้อหลังและขับ 4 ล้อ
รุ่นแรงสุดในตอนนี้คือ E400e 4Matic กำลัง 376 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที ส่วนรุ่น AMG แท้ จะเปิดตัวตามหลังในปลายปีนี้
อ่านเพิ่มเติม : ถึงยุคของรถไฟฟ้าหรือยัง? Mercedes-Benz กล่าวว่า EQE มีกำไรเทียบเท่า E-Class แล้ว
การขับขี่คล่องตัวแบบรถเล็ก ด้วยระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ใส่แพ็คเกจเทคโนโลยีกันสะเทือนแบบถุงลมพร้อมโช้คอัพแบบปรับความหนืดได้
ฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่มาตรฐานประกอบด้วย เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบควบคุมรถในเลนแบบแอ็คทีฟ ตรวจป้ายจำกัดความเร็ว และค้นหาที่จอดรถอัตโนมัติ
Mercedes-benz จะนำเสนอรูปแบบตัวถังเพิ่มเติมอีก รวมถึงรถแบบ wagon และครอสโอเวอร์ ส่วนรุ่นคูเป้และรุ่นเปิดประทุนเดิม คาดว่าจะถูกยุบรวมกับตระกูล C-class แทนที่ด้วยรุ่นเดียวที่เรียกว่า CLE-Class คาดว่าจะเปิดตัวอีกทีในปีหน้า
อ่านเพิ่มเติม : Mercedes-Benz อาจเลิกขาย Wagon ภายใน 2030 เป็นเพราะอะไรกัน?
ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น
2021 Mercedes-Benz E-Class Saloon E 300 e Avantgarde
แลก
เพิ่มรถของคุณ