Mercedes-Benz GL-Class

Mercedes-Benz GL-Class เอสยูวีครอบครัวสุดหรู ขับสนุกในทุกเส้นทาง

ช่วงหลายปีที่ผ่านมารถยนต์ในกลุ่มเอสยูวีเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างมาก หลายค่ายก็พร้อมใจกับส่งรถสไตล์อเนกประสงค์เอสยูวีลงตลาด ซึ่งรวมถึง Mercedes-Benz เช่นกัน และ Mercedes-Benz GL-Class ก็เป็นหนึ่งในรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวที่รักการเดินทาง ด้วยใช้ชื่อรุ่น Mercedes-Benz GL-Class GL350 BlueTEC AMG Premium ที่มีดีไซน์โดดเด่น สมรรถนะทรงพลังด้วยกำลัง 190 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ทำให้มั่นใจทุกเส้นทาง สนนราคาอยู่ที่ 8.99 ล้านบาท

Mercedes-Benz GL-Class เป็นรถเอสยูวีระดับไฮคลาสของค่ายยุโรปอย่าง Benz ที่มีดีไซน์โดดเด่นในสไตล์รถอเนกประสงค์ เน้นการใช้งานอเนกประสงค์ด้วยพื้นที่ 7 ที่นั่ง เบาะสามารถปรับเพื่อเพิ่มการใช้สอย ให้ความสะดวกสบายระหว่างการขับขี่จากเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ Mercedes-Benz GL-Class มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล พ่วงด้วยเทคโนโลยี BlueTEC ที่ให้กำลัง 190 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยของ Mercedes-Benz GL-Class 12.5-13.5 ลิตร/100 กิโลเมตร 

ตารางผ่อนดาวน์ Mercedes-Benz GL-Class 

มิติตัวถัง Mercedes-Benz GL-Class

Mercedes-Benz GL-Class ภายนอกโดดเด่นตามสไตล์รถเอสยูวี

การออกแบบภายนอกของ Mercedes-Benz GL-Class มีความแข็งแกร่งตามสไตล์ของรถยนต์อเนกประสงค์ที่เน้นเดินทาง กระจังหน้ามีเอกลักษณ์ความเป็นเบนซ์ด้วยสัญลักษณ์ดาวสามแฉก ไฟหน้าเป็น LED ที่ได้รับการออกแบบใหม่ที่มีความโดดเด่นขึ้นกว่าเดิม เสา D-pillar ที่ช่วยเสริมความแกร่งให้กับตัวรถ ไฟท้ายเป็น LED ที่มีไฟสัญญาณบอกทิศทางในตัว พร้อมหลอดไฟด้านหลังแบบสองโทนสี บริเวณกาบบันไดของ Mercedes-Benz GL-Class ยังใช้วัสดุอะลูมิเนียมเคลือบเงาและติดตั้งอุปกรณ์ได้ด้วยหลอดไฟ LED ที่ส่องสว่าง นอกจากนี้ยังมีแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถโครเมียมขนาดใหญ่ในกันชนหน้าและหลัง ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของรถอเนกประสงค์เอสยูวี

ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย ตอบสนองการเดินทางไกล

สำหรับห้องโดยสารภายในของ Mercedes-Benz GL-Class มีการผสานความหรูหรากับความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว ใช้วัสดุคุณภาพสูง มีความประณีตพิถีพิถันในการผลิตด้วยมือ เบาะนั่งสบาย พื้นที่กว้างขวางรอบรับได้ถึง 7 ที่นั่ง ตั้งแต่พื้นที่สำหรับวางขาง พื้นที่ด้านบนศีรษะ พื้นที่ระหว่างช่วงไหล่ การเข้าสู่ห้องโดยสารของ Mercedes-Benz GL-Class ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลังเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากประตูที่เปิดได้กว้างขวางของ Mercedes-Benz GL-Class การปรับตำแหน่งเบาะนั่งและพวงมาลัยใช้เทคโนโลยีระบบ EASY-ENTRY ที่ทำให้การใช้งานง่าย ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเปลี่ยนได้ อีกทั้งเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับลงและปรับให้ต่ำลงได้ด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้ห้องโดยสารมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น 

ระบบความปลอดภัย

• ระบบการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP)
• ระบบรักษาสมดุลของตัวถังขณะเข้าโค้งและขับขี่แบบออฟโรด (Active Curve System)
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR)
• ระบบช่วยเบรก (BAS)
• ระบบเบรกปรับได้ (Adaptive brake Light)
• ฟังก์ชั่น Electric Traction System 4ETS สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ
• ระบบรักษาความเร็วและจำกัดความเร็ว (Speed Limit Assist)
• กล้องมองรอบทิศ 360 องศา

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

• ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร
• ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC
• ระบบป้องกันฝุ่นละอองและก๊าซมีพิษไม่ให้เข้าห้องโดยสาร
• ชุดหน่วยความจำด้านหน้า
• พวงมาลัยพาวเวอร์แบบปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ
• กระจกมองข้าง
• เบาะปรับพับได้ด้วยระบบไฟฟ้า
• ฟังก์ชั่น ECO Start/Stop

Mercedes-Benz GL-Class มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ใช้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่นเจเนอเรชั่นที่ 3 พ่วงด้วยเทคโนโลยี BlueTEC เทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ใช้การทำงานของระบบไอเสียและอินเตอร์คูลลิ่ง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS แบบ 7 จังหวะ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที นเเรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 620 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที Mercedes-Benz GL-Class สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 7.9 วินาทีเท่านั้น โดยทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ที่ทำให้สามารถมั่นใจทุกสภาพพื้นผิว

Mercedes-Benz GL-Class เอสยูวีดีไซน์หรู สมารถนะเยี่ยม

Mercedes-Benz GL-Class มาพร้อมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 12.5-13.5 ลิตร/100 กิโลเมตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 192-209 กรัม/กิโลเมตร โดย Mercedes-Benz GL-Class มีมาตรฐานไอเสียแบบ EURO 6 

หากใครเป็นครอบครัวนักเดินทางที่รักการผจญภัย และกำลังมองหารถอเนกประสงค์เอสยูวีที่กว้างขวาง นั่งสบาย ขณะที่สามารถเพิ่มบุคลิกได้ด้วย Mercedes-Benz GL-Class ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว ด้วยการออกแบบที่ดุดัน แข็งแร่ง สมรรถนะที่พร้อมลุยทุกที่ด้วยระบบการขับขี่แบบออฟโรด ทั้งยังมีระบบความปลอดภัย และฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ทุกเส้นทาง เรียกได้ว่าตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว