• การตกแต่งที่เน้นของดำ
• ขุมพลังที่คนไทยอยากใช้

Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) รุ่นล่าสุดในประเทศไทย ดูเหมือนว่าจะมียอดขายที่ยังตามหลัง Honda Civic อยู่มาก 

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแพลทฟอร์มใหม่ TNGA-C ที่เบียดบังพื้นที่ห้องโดยสารซึ่งเคยเป็นจุดเด่น แต่จะแลกมาด้วยการขับขี่ที่ดีขึ้น บวกกับการใช้หน้าตาแบบนี้กับโฉมประเทศไทยอาจไม่ถูกใจสายซิ่งที่นำไปแต่งต่อ อาจทำให้ Corolla Altis เสียแชมป์รถขายดีสำหรับ C-Segment ในบ้านเรา

แต่หากมีหน้าตาพร้อมการตกแต่งพิเศษในแบบโฉมอเมริกาจะทำให้ยอดขายดีขึ้นหรือไม่นะ

Toyota สหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัว 2024 Toyota Corolla Nightshade Edition ซึ่งมาหน้าตาที่โฉบเฉี่ยวกว่าเดิมมาก

ต่อยอดจากรุ่นท็อป

2024 Corolla Nightshade Edition นั้นมีพื้นฐานจากรุ่นท็อปสุดอย่าง SE โดยชุดแต่งนี้มีให้ครบทุกรุ่นทั้งแต่ตัวถังซีดาน ไฮบริด และแฮทช์แบ็ค โดยมีความแตกต่างที่โดดเด่นขึ้นมาคือจะมาพร้อมการเน้นการตกแต่งสีดำ ได้แก่ ป้ายต่าง ๆ แผงการตกแต่งด้านข้าง และกรอบของกระจกมองข้าง

นอกจากนี้การตกแต่งสีดำยังมีไปถึงเสาอากาศครีบฉลาม สปอยเลอร์หลัง และดิฟฟิวเซอร์ รวมถึงมีล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้วสีบรอนซ์ที่ช่วยตัดกับสีของตัวรถ

สำหรับคนที่เลือกรุ่น 5 ประตูนั้นจะมาพร้อมสีภายนอกแบบทูโทนให้เลือก ทั้งสีเงิน Classic Silver Metallic กับหลังคาดำ, สีขาวมุก Windchill Pearl กับหลังคาดำ และสีดำ Midnight Black Metallic

รถคันนี้ยังมีระบบเสียง JBL Premium Audio ให้เลือกเพิ่มเติม ไปจนถึง SE Premium Package  ที่นอกจากจะได้เครื่องเสียงพรีเมียมแล้ว ยังมีออพชั่นอย่างที่ครบครันอย่างมูนรูฟ, แท่นชาร์จไร้สาย, ระบบเตือนจุดบอด BSM และระบบเตือนจุดบอดขณะถอยหลัง RCTA

2024 Toyota Corolla Nightshade Edition ทุกรุ่นมาพร้อมหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว หน้าจอดิจิทัลขนาด 4.2 นิ้วที่มาตรวัดความเร็ว ในรุ่นพิเศษนี้ยังมาพร้อมเบาะแบบสปอร์ตลายพิเศษที่หุ้มด้วยผ้า

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ก็มีมาให้อย่างครบครันเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วยระบบไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันในทุกความเร็ว ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยบังคับเลี้ยว ระบบช่วยการขับขี่ proactive driving assist และระบบป้องกันการชนพน้อมตรวจจับคนเดินถนน

ขุมพลังที่คนไทยอยากใช้

สำหรับขุมพลังของรถรุ่นนี้เริ่มตั้งแต่ขุมพลังไฮบริด ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 138 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ซึ่งโตโยต้าเคลมอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยไว้ที่ 20 กม./ลิตร

ส่วนทางเลือกที่ไม่ใช่ไฮบริดมีทางเดียวนั่นคือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 169 แรงม้า แรงบิด 205 นิวตันเมตร และเคลมอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยไว้ที่ 14.5 กม./ลิตร จับคู่กับเกียร์ CVT

เปิดราคาปลายปีนี้

Toyota กล่าวว่า Corolla Nightshade จะพร้อมสำหรับการส่งมอบในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้และจะประกาศราคาในช่วงปลายปีนี้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม : 2023 Toyota Corolla Altis ไมเนอร์เชนจ์ที่ไต้หวัน เปลี่ยนมัลติลิ้งค์เป็นคานบิดจะซื้อใจลูกค้าได้ไหม ?