นิสสันเตรียมส่ง 2021 Nissan 400Z จะสู้ Toyota Supra ได้ไหม?

หลังจากที่นิสสันได้เปิดตัวรถยนต์สปอร์ต Nissan Z Proto ก็มีสื่อรายงานว่ารุ่นนี้จะใช้ชื่อว่า 400Z สปอร์ตคู้เป้ ซึ่งจะมาแทนที่ Nissan Fairlady 370Z สปอร์ตคูเป้รุ่นเก่า ใน 2021 Nissan 400Z จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ ที่มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ คาดว่าจะเปิดให้จองในปี 2022

สำหรับ 2021 Nissan 400Z รุ่นโฉมใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้จะสามารถท้าทายคู่แข่งอย่าง Toyota Supra ได้หรือไม่ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป แต่ตอนนี้ AutoFun จะพาไปทำความรู้จัก Nissan Z ว่าก่อนจะมาเป็นรุ่นปัจจุบันให้เห็นมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง

1969 Nissan 240Z / Fairlady Z

Nissan Z รุ่นแรกที่เปิดตัวใช้ชื่อ 240Z ซึ่งทำการตลาดในสหรัฐฯ ส่วนญี่ปุ่นทำการตลาดในชื่อ Fairlady Z ช่วงแรก 240Z กับ Fairlady Z ใช้เครื่องยนต์ต่างกันแต่ด้านนอกเหมือนกัน โดย 240Z ใช้เครื่องยนต์ขุมพลังเบนซิน 2.4 ลิตร รหัส L24 6 สูบเรียง ให้กำลังสูงสุด 151 แรงม้า ส่วน Fairlady Z ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร L20A 6 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้า ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้มีราคาถูกกว่ารถสปอร์ตรุ่นอื่นในขณะนั้นมาก ด้วยสมรรถนะที่ไม่ต่างกัน เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันมากกว่าจึงทำให้ 240Z  ประสบความสำเร็จอย่างมาก

ต่อมาในปี 1974 ก็มีการปรับโฉมเล็กน้อยเป็น  Nissan 260Z โดยได้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.6 ลิตร เพิ่มสมรรถนะเป็น 165 แรงม้า ด้วยเกณฑ์การผ่านมลพิษของสหรัฐ ทำให้จำเป็นต้องลดสมรรถนะเหลือ 141 แรงม้า และมีตัวเลือกรถ 2 แบบคือ 2 ประตู 4 ที่นั่ง กับ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ซึ่งก่อนหน้านี้จะเป็น 2 ประตู 2 ที่นั่งทั้งหมด ในอีก 1 ปีต่อมาก็มีรุ่นที่ทำการตลาดในสหรัฐออกมา โดยใช้ชื่อว่า 280Z ที่มาพร้อมกับเครื่องใหม่ 6 สูบ 2.8 ลิตร ให้กำลัง 173 แรงม้า และช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย

1978 280ZX / Nissan Fairlady 280ZX

Nissan Z รุ่นที่ 2 นี้ได้มีการปรับโฉมใหม่ โดยมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยมากขึ้นจากเดิม การตกแต่งภายในหรูขึ้นมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในยุคนั้น แต่ยังคงใช้เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร 6 สูบแถวเรียง มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด จากนั้นในปี 1980 ก็ได้เพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์เทอร์โบมาให้ และมี 2 ที่นั่ง และ 2 ประตู 2 ที่นั่ง ให้เลือก โดย Nissan Z รุ่นที่ 2 นี้เป็นรุ่นที่ยอดขายสูงสุด

1984 Nissan 300ZX

Nissan Z รุ่นที่ 3 นี้ใช้ชื่อรุ่น Nissan 300ZX โดยได้มีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ ลดความเหลี่ยมของรถน้อยลง ไม่ได้ใช้ไฟหน้าแบบกลม ภายในหรูหราขึ้น Nissan 300ZX ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบ แต่เปลี่ยนจาก 6 สูบแถวเรียง เป็น V6 ซึ่งจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานนุ่มนวล กำลังต่อเนื่องดี ใช้งานหนักได้ และจากระบบเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด เปลี่ยนเป็นอัตโนมัติ 4 สปีด จำหน่ายควบคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด โดยรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งแบบกำลัง 163 แรงม้า และเครื่องยนต์แบบ Turbocharged ให้แรงม้าสูง 204 แรงม้า ซึ่งเป็นรถที่แรงม้าสูงที่สุดในญี่ปุ่นขณะนั้น

1990 Nissan 300ZX

Nissan Z ได้ออกไมเนอร์เชนจ์ออกโแมใหม่อีกครั้งโดยยังใช้ชื่อรุ่น  300ZX เหมือนเดิม ใช้เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เช่นเดิม แต่เปลี่ยนจากหัวฉีดแบบซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (SOHC) เป็น ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) และยังมีเทคโนโลยีหัวฉีด VVT ที่ให้กำลังสูงขึ้น เป็น 218 แรงม้า ส่วนเครื่องยนต์รุ่นพิเศษเป็นเทอร์โบชาร์จคู่ พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์คู่ ที่ให้กำลัง 305 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์มีให้เลือก 2 แบบคือ ธรรมดา 5 สปีด กับอัตโนมัติ 4 สปีด Nissan 300ZX รุ่นนี้ได้รับรางวัลมากมาย ซึ่งเป็นรถสปอร์ตที่มียอดขายสูงที่สุดในโลก

2002 Nissan 350Z

Nissan 350Z รถโฉมใหม่รุ่นที่ 5 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2002 ที่ออกแบบให้โฉบเฉี่ยว ทันสมัยมากขึ้น Nissan 350Z ใช้เครื่องยนต์ V6 มีขนาด 3.5 ลิตร  DOHC ให้กำลังสูงสุด 291 แรงม้า แต่มีเฉพาะรุ่น 2 ที่นั่ง ปี 2006 เครื่องยนต์ของ 350Z มีการปรับปรุงเล็กน้อย ด้วยการเพิ่มขีดจำกัดการทำงานเป็น 7,000 รอบ/นาทีโดยไม่เป็นอันตราย ปี 2007 ก็ได้ไมเนอร์เชนจ์ โดยใช้เครื่องที่ให้ให้กำลัง 310 แรงม้าที่ 7,500 รอบ/นาที

2008 Nissan 350Z

Nissan 350Z มีการปรับปรุงใหม่เป็นรุ่นที่ 6 ซึ่งได้เปิดตัวเมื่อปลายปี 2008 ดีไซน์ยังคงเดิม แต่มีการปรับปรุงตัวถังให้ดีขึ้น น้ำหนักเบาลง มีการปรับขนาดรถให้สั้นและเตี้ยลงกว่าเดิม แต่มีความกว้างเพิ่มขึ้น Nissan 350Z รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ V6  ขนาด 3.7 ลิตร 332 แรงม้า อัตราเร่ง 0-60 ไมล์ อยู่ที่ 4.7 วินาที ทำให้เป็นรุ่น Z ที่เร็วที่สุดในตอนนั้น แม้จะมีการใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่นิสสันก็ได้พัฒนาเครื่องยนต์ให้ประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ โดยประเทศได้นำเข้า Nissan 350Z เวอร์ชั่นมาขาย 2 รุ่น ได้แก่ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด 5.2 ล้านบาท และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด 5.3 ล้านบาท

2021 Nissan 400Z

หลังจากที่ Nissan เปิดตัวคอนเซ็ปต์คาร์ของ Nissan 400Z ก็ทำให้เหล่าสาวกตั้งตารอ เพราะนั่นหมายความว่าอีกไม่นานเราจะได้พบกับรุ่นนี้อย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าจะมีราคาเพียง 40,000 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1,200,000 บาท

การออกแบบภายนอก Nissan 400Z

การออกแบบภายนอกของ 2021 Nissan 400Z เป็นการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก 240Z รุ่นแรกของ Nissan Z ที่มีความคลาสสิก ผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว กระจังหน้าาสี่เหลี่ยม ไฟหน้าทรงรี มาพร้อม Daytime Running Lights พร้อมติดโลโก้ Nisssan ที่โดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ ไฟท้ายได้แรงบันดาลใจจากรุ่น 300ZX มีท่อไอเสียคู่ทางกันชนด้านท้าย

การออกแบบภายใน Nissan 400Z

ภายในห้องโดยสารมีกลิ่นอายความคลาสสิกผสานกับความทันสมัย หน้าจอแสดงข้อมูลแบบอนาล็อกกลายเป็นหน้าจอดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอทัชสกรีนบริเวณคอนโซลกลาง อีกทั้งยังติดตั้งเทคโนโลยีการขับขี่ รวมถึงความสะดวกสบายในห้องโดยสารทั้งระบบอินโฟเทนเมนท์ และฟังก์ชั่นใช้งานอื่นๆ เข้ามาด้วย คอนโซลเกียร์ยกสูงขึ้นทำให้รู้สึกเหมือนถูกโอบกอด เบาะออกแบบรองรับสรีระ ใช้สีเหลืองพร้อมเดินด้ายด้วยสีเหลืองสด ทำให้ดูโดดเด่น มือจับประตูเรียบติดไปกับตัวรถเหมือนคู่แข่งอย่าง Toyota Supra

ขุมพลังและสมรรถนะ Nissan 400Z

ขุมพลังรุ่นคอนเซ็ปต์ของ 2021 Nissan 400Z ใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V6 และมีเทอร์โบชาร์จ คาดว่ารุ่นใหม่นี้จะมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร และสามารถให้กำลังได้มากกว่า Nissan 370Z ที่มีเครื่องยนต์ใหญ่ถึง 3.7 ลิตร ให้กำลัง 328 แรงม้า ซึ่งคาดว่า 2021 Nissan 400Z จะให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 475 นิวตันเมตร ส่วนระบบส่งกำลัง เป็นไปได้ว่าจะมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด และขับเคลื่อนล้อหลัง

2021 Nissan 400Z จะสู้ Toyota Supra ได้ไหม?

แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 2021 Nissan 400Z แต่สื่อในต่างประเทศต่างก็คาดกันว่ารุ่นล่าสุดของ Nissan Z นี้จะเข้าสู่กระบวนการผลิตจริงปีหน้า และน่าจะมีราคาที่ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,250,000 บาท ส่วนเวอร์ชันผลิตจริงที่จัดจำหน่ายอาจตามมาช่วงปี 2022 และไม่นานนี้ Toyota Supra ก็เพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ อีกทั้งยังมี Ford Mustang ที่มีข่าวเรื่องโมเดลใหม่เช่นกัน ซึ่งดูแล้วน่าจะสร้างความคึกคักให้รถสปอร์ตมากทีเดียว