Mazda (มาสด้า) ประกาศเป้าหมายการจำหน่ายในปีงบประมาณ 2564 ด้วยการตั้งเป้าหมายการขายที่ 5.2 หมื่นคัน เติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณที่ผ่านมา ที่ทำยอดขายรวม 40,004 คัน และเป็นครั้งแรกที่มาสด้าประกาศเดินหน้านโยบายทางด้านการให้บริการหลังการขาย เพื่อแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์เกี่ยวกับค่าแรงในศูนย์บริการ
ชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำรถเข้าใช้บริการได้ทุกโชว์รูมทั่วประเทศ และเพื่อลบภาพจำเรื่องของค่าแรงในการให้บริการที่ไม่เท่ากัน ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์มาสด้ารุ่นใหม่ทุกรุ่นจะได้รับแพ็คเกจพิเศษ คือ ฟรีค่าแรงเช็กระยะตลอด 5 ปี หรือ 1 แสนกิโลเมตร
“มาตรใหม่นี้จะสร้างความมั่นใจและอุ่นใจที่จะร่วมเข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัวมาสด้า และให้คำมั่นสัญญาว่ามาสด้าจะให้การดูแลรถของลูกค้าไปตลอดอายุการใช้งาน ควบคู่ไปกับการเตรียมขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย จากปัจจุบัน 138 เป็น 150 แห่ง รวมถึงการเปิดให้บริการแบบเร่งด่วนและ Fast Service และการพัฒนาด้านราคาและการจัดส่งอะไหล่ทั่วประเทศ”
ชาญชัยได้ประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศไทยในปีนี้ ว่าแม้จะยังมองไม่เห็นทิศทางที่สดใส อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศและทั่วโลก ซึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะชะลอตัวลงและต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น และมากกว่าที่ประเมินไว้ในช่วงต้นปี
แต่บริษัทยังมีความหวังว่า ด้วยแรงสนับสนุนจากมาตรการต่าง ๆ ของทางภาครัฐที่จะเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงิน และจากความร่วมแรงร่วมใจกันจากทุกภาคส่วนเชื่อว่าจะช่วยประคับประคองให้เศรษฐกิจของประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทำให้มาสด้าตั้งเป้าหมายการจำหน่ายในปีงบประมาณนี้ที่ 5.2 หมื่นคันหรือเติบโต 30%
มาสด้ามียอดจำหน่ายรถยนต์ในไตรมาสแรกของปี 2564 ที่ 10,890 คัน เติบโตขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไฮไลท์ยอดจำหน่ายยังอยู่ที่ Mazda 2 (มาสด้า 2) ที่มียอดจำหน่าย 5,686 คัน และ Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) มียอดจำหน่าย 2,298 คัน ขณะที่ Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) รถใหม่สุดของค่ายมียอด 429 คัน
หากย้อนดูตัวเลขในปีงบประมาณ 2563 (เดือนเมษายน 2563 – มีนาคม 2564) มาสด้ามียอดจำหน่ายรวม 40,004 คัน ขยายตัวลดลง 23% ครองส่วนแบ่งการตลาด 5.1% ในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ลดลง 17% ด้วยตัวเลขยอดขายรวมทั้งสิ้น 786,877 คัน ซึ่งประเทศไทยยังเป็น 1 ใน 10 ของประเทศที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดของมาสด้าทั่วโลก
ยอดขายในปีงบประมาณที่ผ่านมา แบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 23,548 คัน โดยมาสด้า 2 มีจำนวนสูงถึง 20,741 คัน ขณะที่รถปิกอัพ บีที-50 มียอดขาย 2,471 คัน ส่วนรถยนต์อเนกประสงค์ตระกูลซีเอ็กซ์-ซีรี่ส์ จำนวน 13,985 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 134% และ Mazda MX-5 (มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5) โรดสเตอร์ในตำนานมียอดขายรวม 7 คัน
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}