2021 Ford Everest เมืองไทยแว่วว่าจะเปลี่ยนโฉมแล้วยังน่าใช้หรือไม่? มาดู 6 สิ่งที่เด่นกว่าคันอื่นกัน

ในสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีภาพสปายช็อตการออกมาวิ่งทดสอบของรถที่คาดว่าจะเป็นเจเนอเรชั่นใหม่ของ 2022 Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์) ในประเทศออสเตรเลีย คาดว่าจะได้เห็นกันเร็ว ๆ นี้

โดยคาดว่าจะมีกำหนดการเปิดตัวหลัง 2022 Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ซึ่งกระบะจะมีการเปิดตัวก่อนใช่วงต้นปีหน้า ตามมาด้วยพีพีวีคันนี้ในภายหลัง

เราจึงอยากจะพาไปดูว่า ในปัจจุบันฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ในไทย เขามีออพชั่นอะไรดี ๆ ที่ยังน่าใช้ และเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยกันบ้าง

1.หลังคาซันรูฟ

ถือเป็นออพชั่นที่เพิ่มความหรูหราและสวยงามให้กับตัวรถได้อย่างดี โดยเอเวอร์เรสต์เป็นคันแรกในคลาสเดียวกันที่มีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟมาให้เห็นในรุ่นท็อป

2. เครื่องยนต์ Bi-Turbo

ใครว่ารถครอบครัวจะแรงไม่ได้ ตัวท็อปใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี พ่วงเทอร์โบ 2 ลูกและอินเตอร์คูลเลอร์ 213 แรงม้าที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,000 รอบต่อนาที อัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 12-13 กิโลเมตรต่อลิตร

ถือว่าแรงเหนือชั้นที่สุดในระดับเดียวกัน ด้วยเครื่องที่เล็กลง น้ำหนักรถที่เบาขึ้น และแรงบิดอันมากมาย ทำให้รถแรงเอามาก ๆ

3.เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

เคยเห็นกันก็แต่ 5 หรือ 6 สปีด แต่เอเวอร์เรสต์มีมาให้ถึง 10 สปีดกันเลย ซึ่งในตลาดรถ PPV บ้านเราตอนนี้ ไม่มีเจ้าไหนให้มากกว่านี้แล้ว

การที่เกียร์มีสปีดเยอะ ๆ จะช่วยให้ระบบตัดกำลังไปที่ช่วงเกียร์ในอัตราทดที่เหมาะสมที่สุด ลดแรงกระทำที่มีต่อชุดเกียร์ เพื่อให้เปลี่ยนเกียร์ได้ไวขึ้น ยืดอายุได้นานกว่าปกติ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีแป้น Paddle Shift มาให้

4.ระบบความปลอดภัยยังแน่น

ระบบความปลอดภัยยังมีมากมาย พร้อมช่วงล่างที่เซตมาให้นิ่ม เกาะถนนดี เช่น 

• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน
• ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
• ระบบเตือนการชนด้านหน้า
• กล้องมองหลังขณะถอยจอด
• ระบบตรวจจับรถในจุดบอด
• ระบบตรวจจับรถขณะออกจากช่องจอด

5.ถุงลม 7 ตำแหน่ง 

เรื่องความปลอดภัย เอเวอร์เรสต์ ถือเป็นรถคันแรกในปี 2007 ที่มีถุงลมมาให้ 4 ตำแหน่ง มากกว่าคันอื่น ในปัจจุบัน เขาให้ถุงลมมา 7 ตำแหน่งแล้ว

6. ระบบ sync สั่งการด้วยเสียง

Ford คือค่ายรถยนต์เจ้าแรก ๆ ที่บุกเบิกในเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียง Sync คือระบบที่ให้เราสามารถโทรออก หรือเล่นเพลง ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง ทำให้ไม่ต้องละสายตาจากถนน หรือไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย

เริ่มใช้กันมาตั้งแต่ปี 2007 แต่ในบ้านเราเริ่มใช้กันจริง ๆ ปี 2010 มาในคันแรกคือ Ford Focus และได้รับการพัฒนาเรื่อยมาให้มีการตอบสนองที่ไวขึ้น

7. เกียร์อึดขึ้น

สิ่งที่หลายคนกลัวไม่กล้าซื้อ Ford Everest นั่นคือกลัวเรื่องระบบเครื่องยนต์และเกียร์ แต่ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ปี 2020 ได้รับการแก้ปัญหาหมดแล้ว

แถมยังรับประกันเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังรวม 10 ปี หรือ 150,000 กม. ด้วยการเชื่อมน็อตทอร์คคอนเวิร์ตเตอร์ใหม่ ทำให้เหล็กนั้นขาดยากกว่าเดิม เพราะเราไปลองของมาแล้ว

ราคาปานกลาง

ในรุ่นท้อปสุด Titnium+ 4x4 มาในราคา 1,799,000 จริง ๆ ก็ถือว่าแพงหากเทียบกับ 2021 Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอกซ์) ที่ในรุ่น Ultimate 4x4 ที่ราคา 1,569,000 บาทแล้ว ก็ยังถูกกว่า 2021 Toyota Fortuner 2.8 Legender 4x4 (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) ที่ราคา 1.839,000 บาทถึง 40,000 บาท เก็บเอาส่วนต่างนี้ไปเติมน้ำมัน ก็น่าจะได้หลายลิตรอยู่

จะเข้าไทยไหม?

สำหรับเมืองไทย ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์พึ่งจะได้รับการไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว หากจะเข้ามาไทย ก็อาจจะเป็นปลายปี 2022 หรือ 2023 แทน และมีการรายงานว่า ในรุ่นนี้กำลังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ให้รองรับระบบไฮบริด อาจทำให้ราคาแพงขึ้นไปอีกเล็กน้อย

ซึ่งน่าจะยกมาจาก F-150 เครื่องยนต์ V6 TwinTurbo ประกบมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว มีพละกำลัง 400 แรงม้า หรือจะเป็นไซส์เล็ก เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.3 ลิตรกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าจะใช้ระบบปลั๊กอินไฮบริดอีกด้วย