รายงานข่าวล่าสุดระบุ 2022 Mazda CX-50 (2022 มาสด้า ซีเอ็กซ์-50) จะเผยโฉมอย่างเป็นทางการภายในปลายปีนี้แน่นอน อัดแน่นคุณสมบัติทัดเทียมรถเอสยูวี BMW และ Mercedes-Benz
CX-50 จะเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโกลเบิลโมเดลออกจำหน่ายทั่วโลก พัฒนาบนแพลตฟอร์ม FR Large Architecture ใหม่ล่าสุดของ Mazda ที่รองรับระบบวิศวกรรมอันล้ำสมัยมากมายเพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและหรูหรายิ่งขึ้น รวมถึงการติดตั้งระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด
เว็บไซต์ Whichcar จากออสเตรเลียรายงานว่า CX-50 เคยมีกำหนดการเผยโฉมครั้งแรกที่งานโตเกียว มอเตอร์โชว์และลอสแองเจลิส ออโต้โชว์ในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่เนื่องจากงานแรกที่ญี่ปุ่นถูกยกเลิกไปแล้วจึงจะออกโชว์ตัวที่งานหลังในสหรัฐอเมริกาเพียงแห่งเดียว
ไฮไลท์สำคัญที่สุดของ CX-50 คือการใช้โครงสร้างแพลตฟอร์ม FR Large Architecture นำมาซึ่งการวางเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตรที่อาจมีทั้งบล็อกพ่วงเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ นอกจากนี้ยังจะมีเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.3 ลิตรให้ลูกค้าเลือกใช้อีกด้วย
ระบบแบตเตอรี่ 48 โวลต์และไมลด์ไฮบริดจะถูกติดตั้งอยู่ใน CX-50 ใหม่ ขณะที่ระบบส่งกำลังจะเป็นเกียร์อัตโนมัติทอร์กคอนเวอร์เตอร์แบบ 8 สปีด มีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ
ขณะเดียวกัน CX-50 ยังจะมาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ชุดขับเคลื่อนนี้เป็นการหยิบยืมจากพันธมิตรอย่าง Toyota RAV4 Prime รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
มิติตัวถังของ CX-50 จะใหญ่กว่า CX-5 เล็กน้อย มาพร้อมรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวแบบรถเอสยูวีคูเป้ ฝากระโปรงหน้าขนาดยาวขึ้นเพื่อรองรับเครื่องยนต์วางตามยาว แนวหลังคาจะมีความลาดเอียงโค้งจากกระจกบังลมหน้าไปจนถึงฝาประตูท้ายเน้นความปราดเปรียว
แหล่งข่าววงใน Mazda เปิดเผยกับเว็บไซต์ Whichcar ว่า CX-50 จะเป็นการตีความเอกลักษณ์ดีไซน์ KODO ใหม่หมดและสร้างคำนิยามของรถเอสยูวีคูเป้แบบใหม่ตามสไตล์ของบริษัทฯ
Mazda ใช้เวลาพัฒนาโครงสร้างแพลตฟอร์ม FR Large Architecture นานร่วม 7 ปีเต็ม โดยถ่ายทอดประสบการณ์การสร้างรถเอสยูวีขนาดเล็กและขนาดใหญ่มากมาย ระบบช่วงล่างจะถูกยกเครื่องใหม่หมด โดยช่วงล่างด้านหลังจะเป็นแบบอิสระมัลติลิงค์ ขณะที่บางรุ่นย่อยจะมีระบบล้อหลังเลี้ยวได้ติดตั้งมาให้ด้วย
สื่อยานยนต์ต่างประเทศระบุว่า Mazda วางแผนการ “อัพเกรด” ภาพลักษณ์แบรนด์เช่นนี้ไว้นานหลายปีแล้วก่อนที่จะมาผสมผสานกับแผนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต
หลังจากยุคแห่งระบบขับเคลื่อน Skyactiv การอัพเกรดแบรนด์ครั้งล่าสุดนี้ยังถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของ Mazda ที่จะยกระดับขึ้นไปสู่เซกเมนท์ “แมสพรีเมียม” มุ่งเน้นดีไซน์และระบบวิศวกรรมที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น โดยมีคู่ต่อกรสำคัญที่เปลี่ยนจาก Honda CR-V และ Toyota RAV4 ไปเป็น BMW X3, Audi Q5 ตลอดจน Mercedes-Benz GLC
การวางตำแหน่งการตลาดของ CX-50 ที่ขยับขึ้นไปสู้กับคู่แข่งจากเยอรมนีจะทำให้ Mazda สร้างผลกำไรได้มากขึ้นในแบบที่ CX-5 ไม่สามารถทำได้ แต่แน่นอนว่าราคาจำหน่ายก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งถ้าได้รับไฟเขียวให้ขายในบ้านเรา คาดว่าจะแตะหลัก 2 ล้านบาทเลยทีเดียว โดยตลาดสำคัญจะอยู่ในอเมริกาเหนือและจีนที่นิยมใช้รถเอสยูวีขนาดใหญ่
ต้องติดตามกันต่อไปว่า 2022 Mazda CX-50 จะมีคุณสมบัติเลิศล้ำเพียงใดเมื่อถึงกำหนดการเปิดตัวออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2022
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}