เหตุใด Jaguar Land Rover จึงต้องใช้ Blockchain ติดตามการผลิตวัสดุทำรถ มีเป้าหมายอะไรกัน?

ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายหันมาสนใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น การใช้วัสดุที่ยั่งยืนเป็นหนึ่งในวิธีการลดการส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่จะให้แน่ใจอย่างไรว่ากระบวนการการสร้างวัสดุนั้นมีความยั่งยืนที่แท้จริง ทาง Jaguar Land Rover (JLR) (จากัวร์ แลนด์โรเวอร์) จึงใช้วิธีนี้

Jaguar Land Rover (JLR) ได้ประกาศว่าร่วมมือกับ Circulor ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบที่มาของสิ่งของต่าง ๆ ได้ โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถตรวจสอบที่มาของวัสดุอย่างหนังแท้ที่ใช้ในรถยนต์ว่ามีที่มาการผลิตที่ถูกต้อง

ความคิดนี้มีที่มาจากความต้องการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์(Carbon Footprint) ในกระบวนการผลิตวัสดุ การร่วมมือในครั้งนี้ไม่ได้ร่วมมือกันกับ Circulor แค่เจ้าเดียว

แต่ยังร่วมมือกับ Bridge of Weir บริษัทผลิตเครื่องหนังชั้นนำแห่งสหราชอาณาจักร และ University of Nottingham เพื่อทดลองในการใช้เทคโนโลยีนี้

ทาง JLR จะใช้ blockchain ในการสร้าง “digital twin” ของวัสดุนั้น ๆ ทำให้สามารถติดตามห่วงโซ่อุปทานของวัสดุได้ทั้งในโลกจริงและทางดิจิตอล โดยใช้ GPS, Biometrics(เทคโนโลยีระบุตัวตนทางชีวภาพ) และ QR Code ทุกกระบวนการของเครื่องหนังในล็อตนั้น ๆ จะถูกติดตามอย่างใกล้ชิด

Digital twin คือการทำสำเนาหรือแบบจำลองของสิ่งต่าง ๆ ทางกายภาพให้เป็นระบบดิจิตอล และมีกลไกในการเชื่อมกับวัตถุจริงผ่านเซนเซอร์ คอยเก็บสถานะวัตถุแบบ Real-Time ทำให้ตรวจสอบที่มาของวัตถุเหล่านั้นได้ดียิ่งขึ้น

“วิธีนี้จะสามารถทำให้ที่มาของเครื่องหนังทั่วโลกมีความยั่งยืนมากขึ้น ช่วยให้แน่ใจในห่วงโซ่อุปทานของวัสดุแต่ละชิ้นก่อนประกอบขึ้นมาเป็นรถยนต์หนึ่งคัน” กล่าวโดยเดฟ โอเว่น ผู้อำนวยการบริหารเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานของ JLR

ถ้าเทคโนโลยีนี้สำเร็จ ทาง JLR กล่าวว่ามันจะสามารถใช้ได้กับที่มาของทุกวัสดุ และยังสามารถใช้กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมแฟชั่น หรืออุตสาหกรรมเกี่ยวกับรองเท้า และยังใช้ดับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้อีกด้วย

นอกจากการติดตามที่มาของเครื่องหนังของรถยนต์แล้ว JLR ยังต้องการแสวงหาวัสดุที่ยั่งยืนมากกว่าเดิม ทาง JLR ได้ทดลองใช้วัสดุที่ไม่ได้มาจากสัตว์มาบ้างแล้ว เช่น เส้นใยจากต้นยูคาลิปตัสที่อยู่ใน Range Rover Evoque

หรือ Kvadrat ซึ่งมาจากผ้าใยสังเคราะห์คุณภาพสูงจับคู่กับผ้าหนังกลับที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล ที่อยู่ใน Range Rover Evoque, Range Rover Velar, และ Jaguar I-Pace

“นี่เป็นอีกก้าวของการเดินทางไปสู่เป้าหมายของการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในห่วงโซ่อุปทาน ผลิตภัณฑ์และการดำเนินงานภายใน 2039 เพื่อขับเคลื่อนความสามารถด้านดิจิทัลในระดับแนวหน้า” โอเว่นกล่าวปิดท้าย