SUV ตัวถัง | 3.0L ปริมาตรกระบอกสูบ | AT รูปแบบเกียร์ | 258PS กำลังสูงสุด |
2023 - 2024 Land Rover Discoveryมีให้เลือกถึง 3รุ่นย่อยพร้อมราคาเริ่มต้นอยู่ที่ THB 4,900,000 ถึง THB 6,500,000 รุ่นเริ่มต้นของ Discovery คือ Land Rover Discovery Sที่ราคา THB 4,900,000 ส่วนรุ่นท็อปสุด Land Rover Discovery มาพร้อมราคาTHB 6,500,000
THB 4,900,000
THB 49,408 /เดือนTHB 5,500,000
THB 55,458 /เดือนTHB 6,500,000
THB 65,542 /เดือน*สำหรับอ้างอิงเท่านั้น คุณสามารถปรับเครื่องคิดเลข ตามสถานการณ์จริงของคุณได้
Land Rover Discovery 2025 มีรูปภาพและรูปถ่ายทั้งหมด 22 รูป รวมรูปภาพ & รูปถ่ายภายใน 9 รูป รูปภาพ & รูปถ่ายภายนอก 11 รูป รูปเครื่องยนต์และทอื่นๆ 2 รูป ชมมุมมองด้านหน้า มุมมองด้านหลัง ด้านข้างและมุมมองด้านบนของ Land Rover Discovery 2025 รุ่นใหม่ได้ที่นี่.
เกรดExecutive | ตัวถังSUV | รูปแบบเกียร์AT | ปริมาตรกระบอกสูบ3.0L | กำลังสูงสุด258PS | จำนวนที่นั่ง7 |
การออกแบบที่ลดความอนุรักษ์นิยมลง ทำให้ Land Rover Discovery ดูไม่ใช่รถสำหรับคนแก่อีกต่อไป มีการแทรกเอกลักษณ์จากรุ่นเก่าลงบนดีไซน์ใหม่ได้อย่างลงตัว
Land Rover Discovery สามารถเลือกการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในได้อย่างหลากหลาย เลือกรถในสไตล์ของคุณโดยสีตัวถังภายนอกให้เลือกมากถึง 17 สี สีภายในทั้งเบาะและทริมตกแต่งมากถึง 7 แบบ
โหมดการขับขี่ของ Land Rover Discovery เหมาะสำหรับการลุยทุกสถานการณ์ หน้าจอกลางสามารถแสดงสภาพแวดล้อมและการทำงานของรถขณะที่กำลังขับลุยอยู่ได้ ทั้งการลุยน้ำ การหมุนและองศาของล้อ ทำให้การกะระยะโดยที่มองไม่เห็นล้อทำได้ง่ายขึ้น
ระบบความปลอดภัย Land Rover Discovery มีมาให้ครบครันทั้งสำหรับขับในเมือง เช่น ระบบเตือนมุมอับสายตา หรือจะขับไปเที่ยว เช่น ระบบช่วยควบคุมการลากจูง เป็นต้น
เบาะนั่งภายใน Land Rover Discovery ให้มาเป็นฟูลไซส์ทุกตำแหน่งและสามารถพับเรียบได้ทั้งแถวสองและแถวสามเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกได้
ราคาเปิดตัว Land Rover Discovery แพงเกิน การลดราคาลงมาในภายหลังทำให้รถดูน่าสนใจขึ้น แต่ก็ยังแพงกว่าคู่แข่งจากฝั่งเยอรมัน สวีเดน และญี่ปุ่น ที่ตัวรถก็มีความน่าสนใจพอๆกัน และตัวท้อปที่อุปกรณ์เยอะสุดไม่ลดราคาลงเลย
เบาะนั่ง Land Rover Discovery แม้ว่าจะใหญ่แต่ว่านั่งไปสักระยะจะเริ่มเกิดความไม่สบายขึ้น การขาดระบบดันหลังเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากสำหรับรถรุ่นนี้ เพราะตัวรถเองก็แพงพอสมควร
Land Rover Discovery ควรจะมีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือกมากกว่านี้อีกสักรุ่น เพราะในต่างประเทศเองก็ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ที่หลากหลายทั้งเบนซิน ดีเซล และปลั้กอิน-ไฮบริด
ช่วงล่างถุงลมคือสิ่งที่ต้องระวังหลังจากใช้ไปสักระยะในการบำรุงรักษา เพราะค่าบำรุงรักษาแพง ถ้าใช้จนหมดประกันแล้วควรจะต้องถนุถนอมมากขึ้น
Land Rover Discovery (แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี่) รถ SUV สำหรับครอบครัว 7 ที่นั่งซึ่งแลนด์โรเวอร์ได้นิยามรถรุ่นนี้ว่าเป็น SUV สำหรับครอบครัวที่ดีที่สุดในโลกได้เปิดตัวโฉมปัจจุบันซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ที่ออกแบบให้มีความโค้งมนมากขึ้นและดูทันสมัย สลัดภาพ SUV ทรงกล่องที่เป็นเอกลักษณ์นิยมมาถึง 4 เจน แต่ยังคงความสบายและความสามารถในการลุยไว้อย่างครบครัน ทางตัวแทนจากัวร์-แลนด์โรเวอร์ในไทยเองก็ไม่พลาดที่จะนำเข้าเจ้า Discovery เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยเปิดตัวในเดือนกรกฏาคม 2017 ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร มีรุ่นย่อย 2 เกรด เปิดราคาเริ่มต้นที่ 6.49 ล้านในรุ่นเริ่มต้น และรุ่นท้อปที่ราคา 6.99 ล้านบาท ก่อนที่จะปรับลดราคาตัวเริ่มต้นหลังจากทำตลาดไปแล้วปีกว่าๆ เหลือ 5.5 ล้านบาท เรียกได้ว่าลดเป็นล้านเพื่อให้รถเข้าถึงง่ายขึ้นและหวังแบ่งยอดจากผู้ผลิตจากเยอรมันก็เป็นได้
ตารางราคาและผ่อนดาวน์ Land Rover Discovery | |||
---|---|---|---|
รุ่น | ราคา (บาท) | เงินดาวน์ (20%) | ค่างวด (72 เดือน) |
Land Rover Discovery 3.0 TD6 SE | 5,500,000 | 1,100,000 | 75,741 |
Land Rover Discovery 3.0 TD6 HSE | 6,999,000 | 1,399,800 | 80,066 |
Land Rover Discovery ในภาพจำของทุกคนจะต้องนึกถึงรถที่มีลักษณะเหลี่ยมเป็นกล่องแน่นอน ไฟหน้าก็เหลี่ยม ไฟท้ายก็เหลี่ยม กระจังหน้าก็เหลี่ยม เหลี่ยมมันทุกที่ เอาจริงๆมันก็เข้ากับภาพลักษณ์ของการเป็นรถบุกตะลุยเพื่อค้นพบเส้นทางหรือสถานที่ใหม่ๆตามชื่อรุ่นของมันอยู่หรอก แต่กาลเวลาผ่านไปรถเหลี่ยมๆความนิยมมันลดลง แถมต้านลมทำให้เปลืองน้ำมันและเพิ่มอัตราการปล่อยไอเสียอีกต่างหากซึ่งสำหรับประเทศในสหภาพยุโรปแล้วถือเป็นเรื่องที่ซีเรียสมาก เจนเนอเรชั่นที่ 5 จะได้ขัดเกลาตัวถังให้มีความโค้งมนมากขึ้น ทำให้รถดูเพรียว หรู ลงตัวขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของ Discovery คือเสา C ที่จะมีความหนาและแบ่งหน้าต่างด้านหลังสำหรับผู้โดยสารแถวสามให้ใหญ่และหน้าต่างข้างของผู้โดยสารตอนหน้าและตอนกลางเอาไว้ มองจากด้านข้างจะรู้เลยว่าเป็น Discovery ด้านหน้ารถกระจังหน้า 2 ชั้นอันเป็นเอกลักษณ์แต่ออกแบบคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมูแบบมนๆ ไม่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแข็งๆ ไฟหน้าโค้งรับมุมจากกระจัง ไฟเดย์ไทม์ LED สวยงาม และไฟหน้าเป็นแบบ LED ลักษณะเหมือนของ Honda Civic Turbo ช่องดักลมซ้ายขวาขนาดกำลังดี มีสครัฟเพลทสีเงินกันกระแทกบริเวณด้านหน้าเพื่อเอาไว้เวลาลุยป่าเขาจะได้ปกป้องห้องเครื่องเอาไว้ได้ ด้านท้ายยังคงออกแบบรูปทรงแบบไม่สมมาตรอยู่แต่ความไม่สมมาตรถูกอยากจากกระจกในรุ่นก่อนๆไปอยู่บริเวณที่ติดป้ายทะเบียนและที่เปิดฝาท้ายแทน โดยให้ป้ายทะเบียนอยู่เยื้องซ้ายขณะที่โลโก้ Land Rover อยู่เยื้องขวา ไฟท้ายเป็นเส้นหนาแบบ LED ดูมีมิติ โคมเพรียวยาว มีสครัฟเพลทกันกระแทกสีเงินด้านหลังเช่นกัน สำหรับสีตัวถังสามารถเลือกได้ 17 สี ซึ่งเยอะมากๆ ไม่ซ้ำใครแน่นอน
รุ่น | Land Rover Discovery |
ความยาว | 4970 มิลลิเมตร |
ความกว้าง | 2073 มิลลิเมตร |
ความสูง | 1888 มิลลิเมตร |
ระยะฐานล้อ | 2923 มิลลิเมตร |
ระยะใต้ท้องรถ | 207 - 283 มิลลิเมตร |
ปริมาตรการบรรจุของ | 258 - 2391ลิตร(พับเบาะทั้งแถวสามและแถวสอง) |
ภายในห้องโดยสาร Land Rover Discovery เมื่อเข้าไปจะพบว่าภายในมีความหรูเพิ่มขึ้นตามสไตล์แลนด์โรเวอร์ยุคใหม่ มีการบุนุ่มทั้งบริเวณแผงประตูและแผงคอนโซลด้านหน้าทั้งหมด คอนโซลตรงกลางสี Piano Black ยังคงความใหญ่เหมือนรุ่นก่อนแต่ออกแบบใหม่ให้ดูลงตัวและรองรับจอกลางที่ใช้ร่วมกันกับรุ่นอื่นซึ่งแสดงข้อมูลได้ชัดเจน ปุ่มควบคุมแอร์ให้แผงจอใหญ่แบบหมุนบิดจับถนัดมือมีแยกให้ระหว่างของคนขับกับของผู้โดยสาร โดยในปุ่มมีหน้าจอที่แสดงอุณภูมิฝังอยู่ ดูทันสมัย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน ที่เหมือนใน Evoque ที่นำมาใช้ที่นี่ เบาะนั่งเป็นเบาะหนังเดินตะเข็บด้ายให้เห็นเพิ่มความพรีเมี่ยม โดยทุกที่นั่งมีพนักพิงศีรษะแบบปรับสูงต่ำได้ทั้งหมดและเป็นเบาะนั่งแบบใหญ่ทุกตำแหน่ง ทำให้นั่งสบายพอกันในทุกที่ เบาะแถวสองและแถวสามพับแบบแบนราบได้เพื่อเพิ่มเนื้อที่ในการบรรทุกสัมภาระ หลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟที่ยาวไปจนถึงผู้โดยสารแถวสาม ทำให้ห้องดูโปร่งสบายมากขึ้น ที่นั่งแถวสามหน้าต่างด้านข้างจะใหญ่เป็นพิเศษทำให้ถ้าเกิดมีเด็กนั่งน่าจะได้ดูวิวได้อย่างเต็มที่และเพลินกับการเดินทางมากขึ้น และภายในห้องโดยสารยังมีการสร้างบรรยากาศด้วยไฟ Ambient light รอบคันด้วย สำหรับเบาะในห้องโดยสารสามารถเลือกโทนสีได้ถึง 7 แบบ และทริมตกแต่งได้ 7 แบบเช่นกัน
เพื่อการเป็นรถสำหรับครอบครัวที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าผู้โดยสารในตำแหน่งไหนแบตมือถือหมด Discovery จัดให้กับช่องเสียบ USB รอบคันที่มีถึง 9 ตำแหน่ง สำหรับคนขับมีที่สำหรับชาร์จแบบไร้สายให้ด้วย หรือคุณอาจจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องใช้ไฟ 12V ก็ไม่ต้องห่วงเพราะมีช่องเสียบให้ถึง 4 จุด หน้าหลัง มีระบบ Wifi-hotspot ที่กระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้พร้อมกันถึง 8 อุปกรณ์ ซึ่งอาจจะต้องมีค่าบริการรายปีสำหรับออฟชั่นนี้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน เลือกปรับตามความพอใจของแต่ละคน หน้าจอบริเวณคอนโซลกลางแบบ 10 นิ้ว สีสันชัดเจนและพร้อมแสดงระบบที่จำเป็นของรถหรือจะเปลี่ยนเป็นระบบความบันเทิงก็ย่อมได้ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเครื่องเสียงจาก Meridian ที่มาพร้อมกับลำโพงถึง 14 ตัว และซัฟวูฟเฟอร์ให้การเดินทางเต็มไปด้วยความสนุกสนานมากขึ้น สำหรับการขนของถ้ามือไม่ว่างรถคันนี้มีระบบฝาท้ายไฟฟ้าที่แค่พกกุญแจและแหย่เท้าใต้กันชนหลัง ฝาท้ายก็จะเปิดให้คุณเอง สำหรับการขับขี่ Discovery ใช้ช่วงล่างแบบถุงลมดังนั้นเมื่อเราจะขึ้นรถหรือลงรถ ระบบจะทำการลดความสูงลงให้ 40 มิลลิเมตรทำให้การขึ้นลงสะดวกมากขึ้น
รถครอบครัวที่ดีไม่ปลอดภัยไม่ได้ Land Rover Discovery โดยระบบความปลอดภัยมาตรฐานมาพร้อมกับ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (EBA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC) ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (RSC) ระบบความปลอดภัยเชิงแอคทีฟมาพร้อม ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (BSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง (RTD) มีกล้องมองหลังช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นด้วย สำหรับการลากจูงรถหรือสัมภาระ Discovery มีระบบช่วยการทรงตัวระหว่างลากจูง (Advanced Tow Assist) มาให้ด้วย ตอบโจทย์รถยนต์ครอบครัวแนวผจญภัยได้ครบครัน
ขุมพลังที่ประจำใน Land Rover Discovery เวอร์ชั่นจำหน่ายในไทยมีให้เลือกเพียงขุมพลังเดียวได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล V6 ความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ สร้างพละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า ที่ 3750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1750 - 2250 รอบ/นาที ส่งผ่านกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 7.5 วินาที ความสามารถในการลากจูงน้ำหนักสูงสุด 3500 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 12.7 กม./ลิตร และอัตราการปล่อยไอเสียอยู่ที่ 207 กรัม/กม.
Land Rover Discovery รุ่นใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ที่สามารถเรียกแรงบิดได้ในรอบต่ำทำให้การออกตัวเป็นไปด้วยความง่ายและกระฉับกระเฉงพอสมควร แม้ว่าตัวรถจะใหญ่ก็ตาม การตะกุยถนนทำได้อย่างมั่นใจด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา ช่วงล่างถุงลมที่ปรับความสูงได้ช่วยให้ความนุ่มนวลและความมั่นใจในขณะเดียวกัน การขับใช้งานในเมืองไม่มีปัญหาแต่อย่างใด สำหรับการขับทางฝุ่น Discovery สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 5 รูปแบบ ได้แก่ General Driving สำหรับขับในเมืองทั่วไป Sand สำหรับขับลุยทางฝุ่นหรือจะขับบนชายหาดก็ได้ Grass / Gravel Snow สำหรับขับลุยพื้นหญ้าเขียวๆหรือทางหิมะ Rock Crawl สำหรับขับลุยทางกรวดหิน และโหมดสุดท้าย Mud & Ruts สำหรับลุยทางโคลนและๆ การขับแบบออฟโรดทำได้ทีสมชื่อแลนด์โรเวอร์ สามารถดูข้อมูลการขับขี่ผ่านจอกลางได้ การขับลุยน้ำจะมีเซนเซอร์คอยวัดระดับความสูงของน้ำและแสดงขึ้นบนจอกลางเพื่อคอยเตือนว่าที่ความสูงระดับนี้ลุยได้หรือไม่ การขับแบบออฟโรดน่าประทับใจมากเช่นกัน รถมันพาคุณไปได้แน่ๆ
ที่นั่งขนาดใหญ่แบบฟูลไซส์ในทุกตำแหน่งให้ความสบายในการโดยสารในแทบจะทุกตำแหน่ง พื้นที่วางขากว้าง แต่สำหรับแถวสามอาจจะต้องขอความร่วมมือกับผู้โดยแถวสองไม่ให้เลื่อนถอยมาเยอะเกินไปสักหน่อย แอร์เย็นสบายทุกตำแหน่ง สายชาร์จ USB ช่วยให้เวลาเดินทางไกลยังสามารถใช้งานไปด้วยชาร์จไปด้วยได้ ถือว่าออกแบบมาโดยใส่ใจความรู้สึกของผู้โดยสารทุกคนจริงๆ การนั่งนานๆอาจจะเมื่อยได้และไม่มีระบบดันหลังมาให้ในเวอร์ชั่นเมืองไทย เป็นที่น่าเสียดาย เครื่องเสียงดีมาก ให้มิติที่ดี การเก็บเสียงค่อนข้างทำได้ดีแต่ก็ยังมีเสียงลมและยางเข้ามาบ้าง
Land Rover Discovery ยังคงเป็นรถ SUV ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับครอบครัวต่อไป แถมด้วยการออกแบบภายนอกที่โค้งมนมากขึ้นทำให้รถดูเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับคนอายุน้อยลง โดยที่ยังคงประสิทธิภาพในการลุยทางออฟโรด และใส่ใจความสบายและการใช้งานสำหรับผู้โดยสารในทุกตำแหน่งเป็นอย่างดี อุปกรณ์ที่มีมาให้เรียกได้ว่าครบครันทั้งการใช้ในเมืองและนอกเมือง เครื่องยนต์ให้กำลังที่ดี ช่วงล่างฉลาด นุ่มนวล ระบบขับเคลื่อนไว้ใจได้ขั้นสุด ไม่ผิดหวังที่จะเป็นเจ้าของมัน
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2025 Land Rover Discovery รุ่นใหม่ในไทยอยู่ที่ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร,และ ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Land Rover Discovery S อยู่ที่ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ 2020 Land Rover Discovery 3.0 SE อยู่ที่ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร, และ ตามที่ผู้ผลิตทางการระบุไว้ว่า ตัวเลขอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Land Rover Discovery HSE อยู่ที่ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร.
ประเภทเชื้อเพลิง | รูปแบบเกียร์ | ผู้ผลิตเรียกร้อง |
---|---|---|
Diesel(2993cc) | AT | 7.9 L/100km |
Land Rover Discovery แข่งขันกับ Mercedes-Benz GLC-Class Coupe, Mercedes-Benz GLS-Class, Mercedes-Benz AMG GLE, Mercedes-Benz GLE-Class, Mercedes-Benz AMG GLC.
1 รุ่นย่อย
1 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
5 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
9 รุ่นย่อย
9 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
2 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
9 รุ่นย่อย
1 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
7 รุ่นย่อย
6 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
3 รุ่นย่อย
10 รุ่นย่อย
1 รุ่นย่อย
4 รุ่นย่อย
5 รุ่นย่อย
มีไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้ายและรุ่นย่อยของLand Rover Discovery ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 3.0 Land Rover Discovery SE | Land Rover Discovery HSE | Land Rover Discovery S |
ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย | ใช่ | ใช่ | ใช่ |
มีระบบไล่ฝ้ากระจกหลังและรุ่นย่อยของLand Rover Discovery ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 3.0 Land Rover Discovery SE | Land Rover Discovery HSE | Land Rover Discovery S |
ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง | ใช่ | ใช่ | ใช่ |
มีระบบป้องกันล้อล็อกและรุ่นย่อยของLand Rover Discovery ได้แก่
รุ่นย่อย | 2020 3.0 Land Rover Discovery SE | Land Rover Discovery HSE | Land Rover Discovery S |
ระบบป้องกันล้อล็อก | ใช่ | ใช่ | ใช่ |