พา Nissan Terra ตัวท็อปขึ้นห้วยคอกหมู พิสูจน์ความนุ่มและคุ้มค่าในคลาส 1.5 ล้านบาท

• ทดสอบช่วงล่างกันอีกครั้งแบบออฟโรด
• ยังมีจุดขายที่ความปลอดภัยเหนือชั้น
• ความคุ้มค่าที่สุดในพีพีวีต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท

Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) ถือเป็นการปรับเปลี่ยนด้านตัวสินค้าที่น่าสนใจที่สุดของ Nissan (นิสสัน) ในรอบปี 2564 ที่ผ่านมาในประเทศไทย ด้วยออพชั่นมากมาย การออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน กลายเป็นหนึ่งในพีพีวีที่คุ้มค่าที่สุดในคลาส 1.5 ล้านบาท

นอกเหนือไปจากบรรดาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งมาให้เต็มที่ ในการทดสอบสั้น ๆ ครั้งแรกในช่วงก่อนเปิดตัว เราเคยตั้งข้อสังเกตุในเรื่องของความนุ่มของตัวรถที่ถือว่าเหนือกว่าคู่แข่ง และเราเคยบอกว่าอยากจะยืมรถคันนี้มาทำการทดสอบกันอย่างจริงจังอีกครั้งหนึ่ง

แต่นิสสันก็ไม่ให้เรารอนาน เปิดปีใหม่มา AutoFun Thailand ได้รับเชิญไปทดสอบรถรุ่นนี้ในเส้นทางกทม.-ราชบุรี โดยมีไฮไลท์อยู่ที่การขับรถคันนี้ขึ้นห้วยคอกหมู ซึ่งเป็นเส้นทางออฟโรดแบบธรรมชาติ ที่มีลักษณะของพื้นผิวที่ขรุขระ เป็นทรายละเอียดให้ได้ลอง

และยิ่งเป็นการตอบคำถามของเราเลยว่า นี่คือพีพีวีที่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่อย่างน่าสนใจในระดับค่าตัว 1.5 ล้านบาท แน่นอนว่ามันอาจจะยังไม่สามารภไปเทียบเคียงกับพีพีวีรุ่นท็อปของบางค่าย ที่อาจจะต้องจ่ายเพิ่มอีก 3 แสนบาท เพื่อที่จะเป็นเจ้าของกับเขา

นอกเหนือจากเรื่องความนุ่มนวลแล้ว เครื่องยนต์ สมรรถนะและอุปกรณ์ออพชั่นที่ติดตั้งให้มาในรถ ก็เพียงพอที่จะให้เราต้องนำนิสสัน เทอร์ร่า มาเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ หากต้องการถยนต์กลุ่มนี้ในงบประมาณเท่านี้ ที่เรียกว่าให้มาจนคู่แข่งยังต้องมองค้อน

มีอะไรกันบ้าง เรามาย้อนกลับไปชมกันอีกครั้งหนึ่ง...

Nissan Terra โดดเด่นด้วยความนุ่มนวลในทางออฟโรด

ต้องไม่ลืมว่าเทอร์ร่านั้นถูกพัฒนาเพื่อจำหน่ายในหลายตลาดทั่วโลก รวมไปถึงตลาดตะวันออกกลาง การออกแบบช่วงล่างให้ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันนั้นเป็นของเลื่องชื่อของแบรนด์อยู่แล้ว แต่ความรู้สึกของการใช้งานในทางออฟโรดคือมีความนุ่มนวลมากอย่างเห็นได้ชัด การโยนตัวของรถมีน้อยกว่า ทำให้ผู้โดยสารมีอาการเมารถน้อยกว่าไปด้วย เหมาะสำหรับการพาครอบครัวไปเที่ยว แถมสมรรถนะของเครื่องยนต์ก็พาขึ้นและลงห้วยคอกหมูได้สบาย ๆ แบบไม่ต้องใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเสียด้วยซ้ำ

มั่นใจในการขับขี่บนท้องถนน ทั้งเครื่องยนต์และระบบเบรก

เครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ปรับให้รองรับเชื้อเพลิง B20 และมีการปรับรอบเดินเบา เพื่อให้การออกตัวนั้นเรียบกว่าเดิม ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ปรับอัตราทดของพวงมาลัยเพื่อความคล่องตัวในการใช้งานในเมือง และที่สำคัญก็คือดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่ให้มา เพิ่มความหนึบแน่นในการเบรก ทำให้สามารถใช้งานรถคันนี้ได้อย่างต่อเนื่อง สะดวกสบาย ยังไงก็ดีกว่ารถที่ใช้ดัมพ์เบรกหลังอยู่แน่นอน

อ่านเพิ่มเติม: เบื้องหลัง 2021 Nissan Terra มีของดีที่ค่ายรถไม่เคยโฆษณา แม้แต่เจ้าของรถก็ไม่เคยรู้มาก่อน

ของเล่นภายในนิสสัน เทอร์ร่า มีมาให้อย่างครบครันที่สุด

อะไรที่คุณคิดว่ามีในรถของคู่แข่งที่สนนราคาระดับเดียวกัน คุณก็จะพบว่าหามันได้ในนิสสัน เทอร์ร่าเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอกลางสำหรับผู้โดยสารหลัง ที่มีแถม Mi Stick มาให้ ระบบเครื่องเสียงแบบดอลบี้ของ BOSE เรียกว่าหายห่วง หน้าจอด้านหน้าเชื่อมต่อได้ทั้งแอปเปิล คาร์เพลย์แบบไร้สายและแอนดรอยด์ ออโต้ ยูเอสบีสำหรับชาร์จไฟทั้งแบบเอและซี และที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายก็มีมาให้เรียบร้อย ส่วนกระจกมองหลังแบบกล้องดิติจอล ที่เอาไว้ใช้เวลาขนของเยอะ ๆ บังกระจกหลัง ก็ยังไม่มีใครทำตามนะ

อ่านเพิ่มเติม: 2021 Nissan Terra มีความลับใต้เบาะนั่ง ที่โบรชัวร์ไม่เคยบอก เจ้าของรถนั่งอยู่ยังไม่รู้ว่าเบาะอุ่นได้

ถ้าพูดเรื่องหน้าตา Nissan Terra ก็ถือว่าเท่ไม่หยอก

ทีมงานของนิสสันเคยบอกว่ารถคันนี้มีการออกแบบแทบจะเปลี่ยนทั้งคัน ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าไดนามิกชิลด์ พร้อมโครเมียมขนาดใหญ่ เพิ่มเซนเซอร์ด้านข้างตอนหน้ามาให้ ชุดโคมไฟหน้าแบบควอตแอลอีดี กระจกหน้าแบบช่วยเก็บเสียง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วลาย 6 ก้านคู่ในรุ่นท็อป กาบบันไดข้าง แร็คหลังคาออกแบบมาใหม่ เสาอากาศแบบครีบฉลาม ประตูบานท้ายเปิดด้วยไฟฟ้า เรียกว่าหากนำไปเทียบกับเทอร์ร่ารุ่นเดิมแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมเลยแม้แต่น้อย ใครที่ชอบสายบึกบึนเอาไปใช้งานได้ไม่อายคนอื่น

อ่านเพิ่มเติม: จากภาพสเก็ตช์สู่คันจริง 10 ไฮไลต์ของการออกแบบ Nissan Terra ใหม่ โดย Ken Lee นักออกแบบอาวุโสระดับโลกของ Nissan

ระบบก็มีมาให้เยอะ แต่ถ้าจะเพิ่มให้อีกก็ดีนะ

มีการยืนยันว่านิสสันจำเป็นต้องตัดระบบหลาย ๆ อย่างออกจากรถคันนี้ไปจากเหตุผลการขาดแคลนชิปเซต ทำให้ไม่สามารถให้ระบบมาได้อย่างที่ต้องการ แต่รถก็ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ครบครัน เบรกมือไฟฟ้า ระบบนิสสัน เซฟตี้ ชิลด์ 360 มาพร้อมกล้องรอบทิศทาง ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวด้านท้าย ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา ระบบเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาขณะถอยหลัง ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อรถออกจากช่องการขับขี่ ที่เรียกว่าให้กันมาครบ ๆ แล้ว

คุ้มค่ากับค่าตัว แว่วว่าขายดีอยู่ ใครรอดัมพ์ราคาอาจจะไม่ได้ซื้อ

หลาย ๆ คนเห็นด้วยที่ว่านี่คือรถที่คุ้มค่าที่สุดในคลาสราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท และหากไม่ต้องการรุ่นท็อปก็ยังสามารถเลือกรุ่นรองลงไปที่มีอุปกรณ์ลดหลั่นไปตามราคาได้อีกต่างหาก ทีมงานของนิสสันบอกว่ารถรุ่นนี้มียอดจำหน่ายนที่น่าพึงพอใจ และมีแบ็กออเดอร์อยู่จำนวนหนึ่ง โดยที่ลูกค้าหลายคนบอกว่าจะรอให้นิสสันทำการลดราคาจำหน่ายลง เหมือนกับที่เคยทำกับรถรุ่นอื่น ๆ ในอดีต ก็ต้องบอกว่า นิสสันในยุคนี้อาจจะไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นให้เห็น โดยเฉพาะกับรถที่ทำยอดจำหน่ายได้ดีแบบนี้อาจจะไม่มีความจำเป็น

แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ที่แน่ ๆ ไม่น่าจะเห็นการดัมพ์ราคาในปีนี้อย่างแน่นอน!!!

อ่านเพิ่มเติม: ลองสั้น ๆ 2021 Nissan Terra VL 4x4 เพิ่มของเล่น อัพราคา 1.499 ล้านบาท คุ้มขึ้น ขับเนียน ท้าชนตลาดพีพีวี