7 สิ่งที่น่าสนใจใน New 2018 Honda CR-V

New 2018 Honda CR-V (2018 ฮอนด้า ซีอาร์-วี) รถยนต์เอนกประสงค์แบบเอสยูวี มาพร้อมรูปร่างหน้าตาใหม่หมดจด การพัฒนาของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ระบบอุปกรณ์มากมายในตัวรถ และระบบความปลอดภัยแบบเหนือชั้น ถือเป็นยืนหนึ่งในช่วงของการเปิดตัว

การวางราคาจำหน่าย 1.409-1.699 ล้านบาทใน 4 รุ่นย่อย โดยมีออพชั่นทางเลือกให้เลือกระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตรและเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 1.6 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหรือ 4 ล้อ คือสิ่งที่ลูกค้าสามารถเลือกสรรได้ตามความเหมาะสม

ฮอนด้า ซีอาร์-วี เจนเนอเรชั่นที่ 5 คือสินค้าหลักในการทำตลาดรถยนต์เอนกประสงค์ เพื่อที่จะทำให้ฮอนด้าสามารถรักษาการเป็นผู้นำในตลาดนี้ต่อไป และนี่คือ 7 สิ่งที่น่าสนใจในรถรุ่นนี้ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อหารถคันนี้ได้ง่ายขึ้น

1.การออกแบบภายนอกที่ดุดัน

การพัฒนาฮอนด้า ซีอาร์-วีรุ่นใหม่ ในฐานะสินค้าที่ทำตลาดทั่วโลก ส่งผลให้ทีมงานออกแบบจากสหรัฐอเมริกาเข้ามามีบทบาทอย่างเต็มที่ เนื่องจากตลาดรถยนต์เอนกประสงค์ในสหรัฐอเมริกาใหญ่มาก และทีมงานก็เห็นว่าหน้าตาเรียบ ๆ แบบเดิมนั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว

พวกเขาเลยทำการปรับเส้นสายรอบคันของรถใหม่ เน้นความดุดันและการใช้สันโป่งของตัวรถแบบเต็มที่ นำระบบไฟแอลอีดีมาใช้งานทั่วทั้งคันเพื่อความความทันสมัย รวมถึงการออกแบบลายของล้ออัลลอยใหม่ที่ดูลงตัวกว่าล้ออัลลอยลายซี่ยอดนิยม

2.แต่ภายในยังสบายและกว้างขวาง

การออกแบบให้หลังคาลาดลงไปด้านหลัง ไม่ได้ส่งผลต่อความกว้างขวางของห้องโดยสารเลย เพราะทีมออกแบบห้องโดยสารภายในที่นำโดยทีมญี่ปุ่น ใช้วิธีการเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารอย่างชาญฉลาด ประกอบกับการปรับรูปเบาะและการวางพื้นที่ สร้างห้องโดยสารที่โดดเด่นขึ้นมา

ประกอบกับประตูบานหลังที่เปิดกว้าง 88 องศา ทำให้การก้าวขึ้นไปที่เบาะโดยสารตอน 2 และ 3 ทำได้อย่างง่ายดาย เรียกว่าแม้จะเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่งบนตัวถังซี-เอสยูวี แต่เรื่องการจัดการพื้นที่ใช้งานนั้นทำได้อย่างสวยงามและลงตัว

3.เตรียมพร้อมสำหรับผู้โดยสารทั้งคัน

ในรถยนต์เอสยูวี 7 ที่นั่งบางคัน ทำแค่การติดเบาะเข้าไปแบบตามมีตามเกิดเท่านั้น แต่ฮอนด้าเอง คำนึงถึงการใช้งานรถคันนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้พวกเขามองไปถึงการสร้างความสบายในการใช้งานให้กับผู้โดยสารในทุกตำแหน่ง

นอกเหนือไปจากการจัดวางที่นั่งให้สามารถเข้าถึงที่นั่งทุกตำแหน่งได้โดยง่ายดายระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับความสะดวกสบายนี้ พอ ๆ กับถุงลมนิรภัย 6 ลูกที่พร้อมดูแลผู้โดยสารทั้งคันรถเลยทีเดียว

4.เครื่องยนต์ดีเซลมาใหม่

ฮอนด้าตอบคำถามเรื่องความอืดและการสิ้นเปลืองน้ำมันที่มีคนถามมาตลอด ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไอ-ดีเทค ระบบเทอร์โบ และระบบส่งกำลังแบบใหม่ ที่มาพร้อมหน้าตาแบบปุ่มกดในห้องโดยสาร

เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้ ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดของแซดเอฟถูกนำมาประจำการ พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อนที่เลือกได้ระหว่าง 2 ล้อหรือ 4 ล้อ

5.ยังมีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน

ไม่ได้มุ่งเน้นแต่ตลาดระดับท็อปสุดเท่านั้น ฮอนด้ายังเอาใจลูกค้าที่ต้องการเครื่องยนต์เบนซินอยู่ ด้วยเครื่องยนต์ไอ-วีเทค 4 สูบแถวเรียง ที่มาพร้อมหัวฉีดพีจีเอ็ม-เอฟไอ ปริมาตรกระบอกสูบ 2,356 ซีซี. ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นเดิมที่คนไทยคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว

จับคู่กัลเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที เครื่องยนต์รุ่นนี้ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 224 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที มีให้เลือกทั้งเวอร์ชั่นขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีราคาจำหน่ายถูกกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลพอสมควร

6.ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นมา

เมื่อทำการปรับโฉมครั้งล่าสุด ฮอนด้าได้ทำการปรับเพิ่มฟังชั่นส์ด้านความปลอดภัยให้กับรุ่นย่อยหลายรายการ อาทิ ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตา รวมถึงเพิ่มระบบนำทาง ระบบไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติและระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติมาให้

ทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยมากมายที่ติดตั้งในรถมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน กล้องมองภาพขณะถอย ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ เรียกว่ามีความปลอดภัยครบครัน

7.ความเอนกประสงค์ที่ใช้งานได้จริง

New 2018 Honda CR-V ยังชูจุดขายเรื่องการเป็นรถยนต์เอนกประสงค์ที่ใช้งานได้จริง ห้องโดยสารที่ปรับได้หลากหลาย เบาะแถว 2 พับได้ 60:40 เลื่อนหน้า-หลังและปรับเอนได้ ขณะที่เบาะแถว 3 พับได้ 50:50 และก็สามารถปรับเอนได้เช่นเดียวกัน

พนักเท้าแขนที่ด้านหลังมาพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องเก็บของมากมายทั้งคัน พร้อมด้วยตำแหน่งวางแก้วมากมาย แผ่นกั้นสัมภาระด้านท้าย สามารถปรับระดับได้เมื่อพับเบาะ เพื่อให้สามารถวางสัมภาระชิ้นใหญ่ได้ เรียกว่าทีมงานนั้นคิดเผื่อการใช้งานที่หลากหลายอย่างแท้จริง