ในขณะที่ผู้ผลิตรถส่วนใหญ่กำลังยกเลิกการทำตลาดรถตัวถังซีดานและคูเป้กันแล้ว แต่รถยนต์ไฟฟ้าของ Lexus (เล็กซัส) ในอนาคตจะยังมีตัวถังรูปแบบอื่น เคียงคู่กันกับตัวถังยอดนิยมของค่ายอย่าง SUV
Spiros Fotinos ผู้อำนวยการ Lexus Europe และ EV Planning กล่าวว่า พวกเขาจะไม่นำรถรุ่นใดออกสำหรับไลน์อัพของเล็กซัสในอนาคต เมื่อพูดถึงตัวถังรูปแบบต่าง ๆ
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Lexus คือ UX300e ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นไฟฟ้าของ UX ตามมาด้วยเอสยูวีที่ใช้แพลทฟอร์มอีวีโดยเฉพาะอย่าง e-TNGA ในชื่อ RZ 450e โดยเป็นพี่น้องเวอร์ชั่นหรูของ Toyota bZ4X และ Subaru Solterra แต่รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของ Lexus จะไม่จำกัดแค่ตัวถัง SUV อีกต่อไปแล้ว
อ่านเพิ่มเติม : พวงมาลัย yoke ของ Lexus RZ 450e ทำงานอย่างไร ถึงมีคนชอบมากกว่าของ Tesla?
Fotinos กล่าวกับทาง Autocar ว่าพวกเขารับทราบถึงความต้องการทั่วโลกสำหรับ SUV แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้กับรถแบบดั้งเดิมที่ไม่ได้ยกสูง
“เรากำลังดำเนินการอย่างชัดเจนเกี่ยวกับประเภทตัวถังทางเลือกอื่น ๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถนำเสนอยานพาหนะที่หลากหลายขึ้นเท่านั้น และยังรวมถึงการตอบสนองความทะเยอทะยานที่เรามีต่อค่ายรถยุโรป”
เมื่อมีคำถามเกี่ยวกับทายาทของ Lexus CT คอมแพ็คแฮทช์แบ็คซึ่งมีข่าวลือหนาหูว่าจะมาในรูปแบบครอสโอเวอร์ในอนาคต เขาจึงเสริมว่า “เราจะไม่นำรถรุ่นใดออก รถเซกเมนต์ที่เราแข่งขันและเซกเมนต์ที่สามารถขายได้ปริมาณมากในยุโรปเป็นกลุ่มที่เราจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ”
Fotinos ยังกล่าวถึงไลน์อัพในอนาคตของ Lexus ที่เปิดตัวพร้อม Toyota เมื่อธันวาคมปีที่ผ่านมาเพื่อเป็นการแสดงตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าของเล็กซัส ในไลน์อัพเหล่านั้นยังมีรถที่ไม่ได้ยกสูงอยู่หลายรุ่น เช่น ซีดาน 4 ประตู, shooting brake 5 ประตู, ครอสโอเวอร์ 5 ประตู และรถเปิดประทุน 2 ประตู ซึ่งใช้ภาษาการออกแบบที่คล้ายกัน
นอกจากนี้ยังมีซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าล้วนที่อาจเป็นทายาทของ LFA รวมถึงเอสยูวีแบบฟูลไซส์
อ่านเพิ่มเติม : ทายาท Lexus LFA ใหม่ จะใช้หัวใจไฮบริด V8 ส่วนไฟฟ้ามาทีหลัง
แพลทฟอร์ม e-TNGA ที่มาจาก Toyota ได้ถูกมาใช้เป็นพื้นฐานของรถหลายรุ่น Fotinos เรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่เขายังเผยว่า Lexus กำลังมองหา “โอกาสอื่น ๆ” อย่างตั้งใจ โดยเขาได้อธิบายว่า “เป็นไปไม่ได้ในทางเทคนิค” ที่ผู้ผลิตรถยนต์จะใช้แพลทฟอร์มอีวีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถสร้างรถได้ทุกเซกเมนต์
แม้แพลทฟอร์ม e-TNGA จะสามารถปรับตามขนาดของรถที่สร้างได้ แต่ Lexus ต้องการแพลทฟอร์มสำหรับรถสมรรถนะสูงอย่างซุปเปอร์คาร์ หรือรถพรีเมียมขนาดใหญ่ เช่น ซีดานหรือเอสยูวีเรือธงของค่ายที่สามารถต่อกรกับ BMW และ Mercedes-Benz ได้
ซึ่งอาจจะเป็นการร่วมมือกับผู้ผลิตรายอื่น (ที่ไม่ใช่ Toyota) เพื่อช่วยลดต้นทุนสำหรับการพัฒนาและยังรักษาความสามารถในการแข่งขันอยู่
Lexus ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัวในยุโรป อเมริกาเหนือ และจีนภายในปี 2030 และไปยังทั่วโลกภายในปี 2035 กว่าจะถึงวันนั้น เรายังจะได้เห็นรถที่ใช้ขุมพลังไฮบริดกันไปก่อน และรถยนต์ไฟฟ้าก็คงจะมาในไม่ช้า
อ่านเพิ่มเติม : Lexus ต้องการขายรถไฟฟ้าให้ได้ 1 ล้านคันต่อปี ภายใน 2030
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}