Nissan เผยเหตุผลต้องใช้ชิ้นส่วน 370Z รุ่นเดิมในรถสปอร์ต Z รุ่นใหม่

2022 Nissan Z (Nissan Z) ทยอยเปิดตัวทำตลาดในหลายประเทศ ถึงแม้ในเมืองไทยจะยังไม่มีวี่แวว แต่ก็ยังน่าติดตามเส้นทางการพัฒนารถสปอร์ตขนาดกำลังดีรุ่นนี้

เว็บไซต์ยานยนต์ CarExpert จากออสเตรเลียรายงานว่าโปรเจคต์การพัฒนา Z เจนเนอเรชั่นใหม่จะไม่เกิดขึ้นได้เลยหากผู้บริหารและทีมวิศวกรของ Nissan ไม่ตัดสินใจถ่ายทอดการวิจัยและพัฒนาของ 370Z รุ่นเดิมมาใช้กับรถสปอร์ตรุ่นใหม่

พูดง่าย ๆ ก็คือทีมนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Nissan มีแนวคิดที่จะสร้างรถสปอร์ตที่มีราคาและต้นทุนที่เอื้อมถึงได้ ดังนั้นจึงต้องนำชิ้นส่วนของรุ่นเดิมมาใช้กับรุ่นใหม่ให้ได้มากที่สุด

ใช้เวลาพัฒนา 5 ปี

โปรเจคต์การพัฒนา Nissan Z เริ่มต้นในเดือนมีนาคม 2017 โดยฮิโรชิ ทามูระ บิดาแห่ง GT-R และ Z ว่ากันว่าเขาเริ่มต้นด้วยการสเก็ตช์ไอเดียคร่าว ๆ ไว้บนกระดาษ ก่อนที่จะถูกต่อยอดไปเป็นรถสปอร์ตทั้งคันอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน

สเก็ตช์บนกระดาษดังกล่าวเป็นภาษาญี่ปุ่น ทามูระซังเริ่มต้นด้วยการค้นหาเหตุผลว่าทำไม 370Z ขายไม่ค่อยดีนักตามที่บริษัทต้องการ พร้อมกับตั้งเป้าหมายว่ารถสปอร์ต Z รุ่นใหม่จะต้องแก้ไขปัญหาด้านยอดขายให้ดีขึ้นจงได้

ช่วงปี 2017 ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนักของ Nissan เพราะผลประกอบการชะลอตัวอย่างหนัก ทำให้โปรเจคต์การพัฒนารถสปอร์ตไม่ได้มีความสำคัญเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ทำยอดขายได้มากกว่า

เหตุผลที่ 370Z ทำยอดขายไม่โสภาในความคิดของทามูระซังก็คือการออกแบบภายนอก สมรรถนะการขับขี่ และการขาดการปรับไมเนอร์เชนจ์อย่างเหมาะสม ดังนั้น รถสปอร์ต Z รุ่นใหม่จึงต้องมีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดและมีพละกำลังที่เร้าใจยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายอย่างน้อย 400 แรงม้าซึ่งนั่นหมายถึงจะต้องใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเท่านั้น

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ Z รุ่นใหม่จะต้องมีต้นทุนไม่สูงมากนัก ทางออกสำคัญคือการใช้แพลตฟอร์มและชิ้นส่วนของรุ่นเดิมทำให้ได้รับไฟเขียวจากทีมผู้บริหารให้เดินหน้าโปรเจคต์นี้ต่อไปได้

“พูดตามตรง ชิ้นส่วนเกือบ 80% ของ Z ใหม่นั้นมาจาก 370Z” ทามูระซัง กล่าว “อย่างไรก็ตาม การถ่ายทอดชิ้นส่วนจากรุ่นเดิมมาสู่รุ่นใหม่มีความสำคัญสำหรับเรามาก เพราะจะทำให้ตัวรถเอื้อมถึงได้ และคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการขับขี่ได้ด้วย”

Nissan Z ใช้ทั้งแพลตฟอร์ม ระบบส่งกำลัง และโครงสร้างแบบเดียวกับ 370Z พร้อมกับใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดแบบที่ใช้ใน Nissan Frontier

ขณะที่ขุมพลังขับเคลื่อนก็ยกมาจาก Infiniti Q60 Red Sport ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อกวี6 ขนาด 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน

ทามูระซังยอมรับว่าหากเขานำเสนอโปรเจคต์นี้ต่อทีมผู้บริหารด้วยการบอกว่าจะสร้างทุกอย่างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดก็จะถูกปฏิเสธอย่างแน่นอน

“ผมใช้เวลาในอุตสาหกรรมยานยนต์มานาน 40 ปี ซึ่งนั่นทำให้ผมมีประสบการณ์ที่จะเดาได้ไม่ยากว่าจะเผชิญกับปฏิกิริยาอย่างไรหากนำเสนอแพลตฟอร์มใหม่เอี่ยมต่อคณะผู้บริหาร เราจำเป็นต้องสร้างสิ่งใหม่แต่ต้องไม่ฝันไกลมากนัก” ทามูระซังกล่าวเพิ่มเติม

ทามูระซังยอมรับว่า Nissan Z ได้รับอนุมัติให้ผลิตออกจำหน่ายจริงเพราะมีต้นทุนและราคาที่เอื้อมถึงได้ ซึ่งดีต่อทั้งบริษัทและลูกค้า ขณะเดียวกัน ยังมีสมรรถนะที่น่าตื่นเต้นและมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยอีกด้วย