window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_breadcrumb_above_pc', [ 728, 90 ], 'div-gpt-ad-1685678150997-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678150997-0'); });

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก

Salin · Aug 17, 2023 10:00 AM

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 01

หลังจากที่ All-New Toyota Alphard และ Vellfire โมเดลเชนจ์ เปิดตัวในตลาดโลก ก็มาเปิดตัวในประเทศไทยแล้ว เป็นอีกครั้งที่โตโยต้า ประเทศไทย นำเข้ามาจำหน่ายด้วยตัวเอง พบว่า ครั้งนี้มีออพชั่นที่น่าสนใจยิ่งขึ้น สามารถสู้รถนำเข้าจากเกรย์ได้อย่างสูสี

มาดูกันว่า Toyota Alphard และ Vellfire โฉมปี 2024 นี้จะน่าใช้กว่าเดิมหรือไม่

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 02

window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_fourthp_under_pc', [ 728, 90 ], 'div-gpt-ad-1685678191139-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678191139-0'); });

มาพร้อม 3 รุ่นย่อย 3 สไตล์

ในการเปิดตัวครั้งนี้ Toyota Alphard และ Vellfire โมเดลเชนจ์ สเปคไทยจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • Toyota Alphard 2.5 HEV Luxury ซึ่งวางเป็นรุ่นเรือธง ให้ประสบการณ์ระดับเฟิร์สคลาส ราคา 4,499,000 บาท
  • Toyota Vellfire 2.5 HEV วางตำแหน่งเป็นห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ เน้นรูปลักษณ์ที่ดุดัน ราคา 4,279,000 บาท
  • Toyota Alphard 2.5 HEV วางตำแหน่งเป็นห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ เน้นรูปลักษณ์ที่หรูหรา ราคา 4,129,000 บาท

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 01

เครื่องยนต์ไฮบริดล้วน

Toyota Alphard และ Vellfire ใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดทุกรุ่นย่อย ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รหัส A25A-FXS  4 สูบ Dual VVT-i ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 238 นิวตันเมตร 

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 138 กิโลวัตต์ (182 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่นิกเกิลไฮไดรด์ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ E-Four ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร

ตัวรถมาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ EV Mode, Normal Mode และ ECO Mode

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 02

พื้นฐานแพลทฟอร์มใหม่

ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแพลทฟอร์ม TNGA (GA-K) ซึ่งเป็นโครงสร้างใหม่ ลดแรงสั่นสะเทือนขณะโดยสารลง 30% ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงล่างแบบใหม่และโครงสร้างเบาะนั่งแบบ Anti-Vibration

โดยช่วงล่างของรถคันนี้มาพร้อมด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรคเป็นดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 03

ดีไซน์ภายนอกใหม่หมดจรด

Alphard และ Vellfire ใหม่มีความยาว 5,005 - 5,010 มม. กว้าง 1,850 มม. และสูง 1,945 - 1,950 มม. ขึ้นกับรุ่นย่อย มีระยะฐานล้อ 3,000 มม. และระยะต่ำสุดจากพื้น 150 มม. ซึ่งทำให้รุ่นใหม่นี้มีความยาวและความสูงเพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบันโดยยังมีความกว้างและระยะฐานล้อเท่าเดิม

ภายนอกมีจุดเด่นที่ไฟหน้าแบบ LED พร้อม Adaptive High Beam System และไฟเลี้ยวแบบ Sequential ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วใน 2 รุ่นบน มีฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential หากเป็นรุ่นท็อปจะมีสัญลักษณ์ Executive Lounge 

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 04

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 05

ภายในแบบ Executive Lounge ในรุ่นท็อป และมีให้เลือก 3 สี

สำหรับภายในของทั้ง Alphard และ Vellfire ใหม่ยังมีการจัดที่นั่งแบบ 2-2-3 เช่นเคย ที่มาพร้อมวัสดุหุ้มหนังแท้ Premium Nappa และหนังสังเคราะห์ ไฟตกแต่งห้องโดยสารมีให้เลือกถึง 64 สี

ในรุ่น Alphard 2.5 HEV และ Vellfire 2.5 HEV จะมาพร้อมเบาะแถวสองแยกอิสระ ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง ควบคุมผ่าน Detachable Tablet ส่วนรุ่นท็อป Alphard 2.5 HEV Luxury จะมาพร้อมเบาะแถวสองแบบ Executive Lounge ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางและควบคุมผ่าน Detachable Tablet เช่นกัน และเพิ่มโต๊ะส่วนตัวแบบพับได้เข้ามาด้วย

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 06

เบาะนั่งของรุ่นท็อป Alphard 2.5 HEV Luxury

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 07

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 08

เบาะแถวสองของทุกรุ่นย่อยจะมาพร้อมเบาะรองน่อง Ottoman Seat ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, ระบบเบาะนวด, มี Seat Ventilator และฮีทเตอร์เบาะนั่งในส่วนของพนักพิงและเบาะรองนั่ง แต่ในรุ่นท็อปจะมีฮีทเตอร์ในส่วนที่วางแขนและเบาะรองน่องมาให้ด้วย

ส่วนเบาะแถวสามจะเหมือนกันทุกรุ่นย่อย คือ สามารถนั่งได้ 3 คน และสามารถพับเก็บแยกซ้าย-ขวาแขวนขึ้นไปได้

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 09

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 10

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่โดดเด่นภายในรถคันนี้ ได้แก่ หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย พร้อมระบบครื่อง JBL ลำโพง 15 ตำแหน่ง มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระ 4 โซน พร้อม nanoe X

และยังมีหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังขนาด 14 นิ้ว, หลังคา Twin Moonroof, Smart Comfort Program และม่านบังแดดปรับไฟฟ้า 

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 11

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 12

สำหรับสีภายในจะขึ้นอยู่กับสีภายนอกและรุ่นย่อย โดยสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว Platinum White Pearl MC, สีเทา Precious Metal และสีดำ Black ให้เลือกทุกรุ่น

ในรุ่นท็อป Alphard 2.5 HEV Luxury จะมีภายในสี Sunset Brown และ Black ให้เลือก ในรุ่น Vellfire 2.5 HEV จะมีภายในสีดำให้เลือกเท่านั้น และรุ่น Alphard 2.5 HEV จะมีภายในสี Natural Beige และ Black ให้เลือก 

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 13

ระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้นจากเดิม

ระบบความปลอดภัยจาก Toyota Safety Sense ก็มีมาให้อย่างครบครันทุกรุ่นย่อย แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ได้แก่ การตรวจจับของเซนเซอร์กล้องและเรดาร์ถูกขยายระยะการตรวจจับให้มากขึ้น, ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (DRCC) สามารถทำงานขณะเข้าโค้งได้แล้วพร้อมทำงานแบบ All speed และระบบความคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) ได้เพิ่มระบบการควบคุมแบบ adaptive เข้ามา 

ส่วนระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS), ระบบเตือนเมื่ออยู่นอกเลนและดึงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ (LDA) รวมถึงระบบช่วยให้อยู่กลางเลน (LTA) ก็ยังมีมาให้

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 14

อุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานอื่น ๆ ก็มีมาให้อย่างครบครัน ได้แก่ กล้องมองรอบคัน ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยาง, ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง BSM และ RCTA รวมถึงระบบ Safe Exit Assist, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, กล้องบันทึกหน้า-หลัง, เซนเซอร์กะระยะ 8 ตำแหน่งรอบคัน, สัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน, ระบบเบรก ABS, BA และ EBD รวมถึงระบบ VSC, TRC และ HAC

6 สิ่งใหม่ใน All-New 2024 Toyota Alphard และ Vellfire น่าใช้กว่าเดิมมาก 15

แม้ 5 สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับ Toyota Alphard และ Vellfire ใหม่สเปคไทยจะไม่มากเท่าที่คิดเอาไว้ แต่ก็ถือว่ามีอะไรที่น่าสนใจมากขึ้น เราคงต้องดูกันว่าสเปคที่โตโยต้า ประเทศไทยนำเข้ามาเองนั้นจะต่อกรกับผู้นำเข้าอิสระได้มากน้อยแค่ไหน

อ่านเพิ่มเติม: 5 สิ่งใหม่ที่เราหวังว่าจะได้เห็นในเมืองไทย กับ 2024 Toyota Alphard และ Vellfire เมื่อเปิดตัว...

window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; googletag.cmd = googletag.cmd || []; googletag.cmd.push(function() { googletag.defineSlot('/22557728108/th_article_relatedmodel_above_pc', [ 728, 90 ], 'div-gpt-ad-1685678175456-0').addService(googletag.pubads()); googletag.pubads().enableSingleRequest(); googletag.pubads().collapseEmptyDivs(); googletag.enableServices(); });
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('div-gpt-ad-1685678175456-0'); });
window._taboola = window._taboola || []; _taboola.push({ mode: 'thumbnails-a-2x2-stream', container: 'taboola-below-article-thumbnails', placement: 'Below Article Thumbnails', target_type: 'mix' });

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

Toyota Alphard 2.5 HEV E-FOUR 2023

แลก

เพิ่มรถของคุณ

ไม่อยากรอแลกรถ?   ขายรถ