5 เหตุผลที่ Honda Civic ยังขายดีเกิน 50% ของตลาด จนเกือบลืมว่าใกล้เปลี่ยนโฉมใหญ่

Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) โฉมปัจจุบันนั้น นับเป็นสินค้าที่แหวกแนวและแตกต่างที่สุดคันหนึ่งของค่าย ที่มาพร้อมกับการสร้างปรากฎการณ์มากมาย โดยเฉพาะทางด้านยอดจำหน่ายที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันให้พวกเขาเป็นแชมป์ในเซกเมนต์และตลาดรถยนต์นั่งตลอดช่วงที่ผ่านมา

หลังจากการเปิดตัวช่วงต้นปี 2559 เป็นต้นมา ซีวิครุ่นนี้นั้นเรียกเสียงฮือฮาด้วยภาพลักษณ์ที่เฉียบคม ทางเลือกของตัวถังที่แตกต่าง รวมไปถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่โดดเด่นเกินใคร จนแม้แต่ในปัจจุบ้น พวกเขาก็ยังครองแชมป์ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% อย่างต่อเนื่อง

แถมยังเป็นการครองแชมป์โดยที่คู่แข่งหลักอย่าง Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) และ Mazda3 (มาสด้า3) ต่างก็เปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่กันไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแย่งตลาดกลับมาจากซีวิคได้ และนี่คือ 5 เหตุผลที่เราคิดว่าซีวิคทำได้เป็นอย่างดีในตลาดประเทศไทย

1.การออกแบบที่ดุดันสปอร์ตสุดขั้วในคลาส

แม้จะเป็นรถยนต์นั่งซี-เซกเมนต์ ที่กลุ่มลูกค้าเดิม ๆ มักจะเป็นวัยทำงานหรือครอบครัวขนาดเล็ก แต่ฮอนด้า ซีวิคนั้นมาพร้อมรูปลักษณ์แนวสปอร์ตแบบไม่มีกั๊ก แถมยังมีตัวถังให้เลือกได้ทั้งแบบซีดานและแฮชท์แบ็ค เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้งานได้ตามความต้องการของลูกค้า

แนวทางการพัฒนารถนนั้นเน้นไปที่ความสปอร์ตดุดันอย่างเต็มพิกัด ด้วยการผสานอุปกรณ์ วัสดุและชิ้นส่วนที่ออกแบบมาอย่างลงตัว เรียกว่าแม้แต่ในรุ่นใหม่กว่าที่มีการปล่อยภาพร่างออกมา ก็ยังถูกมองว่าสวยสู้รุ่นนี้ไม่ได้ และดูสปอร์ตน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดขัดใจแฟน ๆ กันไป

2.การปรับสินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค

แม้ซีวิคจะเป็นสินค้าที่วางจำหน่ายทั่วโลก แต่การเลือกสินค้ามาจำหน่ายให้เหมาะสมกับในแต่ละประเทศ ก็ต้องยอมให้เครดิตกับทีมงานในประเทศนั้น ๆ โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่ต้องเรียกว่าซีวิครุ่นนี้นั้น เป็นรถซี-เซกเมนต์ ที่สร้างปรากฎการณ์หลายอย่างให้กับฮอนด้า

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกสีรถยนต์ ที่ในแต่ละการปรับโฉมหรือมีรุ่นพิเศษ จะมีสีสันแปลกใหม่มากมาย เช่น สีเทาน้ำนม สีแดงหรือแม้แต่สีน้ำเงิน ขณะเดียวกัน ของเล่นจุกจิกอย่างท่อไอเสียคู่ ก็ติดตั้งกันมาให้เรียบร้อยเหมือนกัน เรียกว่าเอาใจผู้บริโภคกันอย่างต่อเนื่องเต็ม ๆ

3.เครื่องยนต์นั้นไม่เป็นรองใครและมีให้เลือก

การเลือกใช้เครื่องยนต์ที่แตกต่างกันออกไปตามรุ่นและตัวถังของรถ ทำให้ฮอนด้าเองสามารถตีกินตลาดในวงกว้างได้ หากต้องการเครื่องยนต์เล็กใช้งานทั่วไป ก็มีเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาทีให้เลือก

แต่หากต้องการความแรงแบบไม่เป็นรองใคร เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตรที่ 1,700 – 5,500 รอบต่อนาที ก็พร้อมจะกระชากตัวรถขึ้นไปเทียบเทียมมกับคู่แข่งแบบไม่ยอมใครหน้าไหนทั้งสิ้น

4.ระบบความปลอดภัยที่เยอะและง่าย

การติดตั้ง Honda Sensing ให้กับฮอนด้า ซีวิค น่าจะเป็นการยืนยันว่ารถคันนี้มีความสำคัญเพียงใดต่อฮอนด้า ก่อนที่ระบบช่วยเหลือความปลอดภัยรอบด้าน จะกลายมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่รถรุ่นใหม่ ๆ เกือบทุกรุ่นจะต้องมีติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นกลางถึงสูงทั้งหมด

ความเจ๋งอีกอย่างของฮอนด้าก็คือการทำให้เทคโนโลยีและระบบต่าง ๆ ที่ติดตั้งเข้ามามากมายนั้น ใช้งานได้อย่างง่ายดาย คือมีปุ่มหรือแป้นรองรับการทำงานเกือบทั้งหมด แม้มันจะทำให้พวงมาลัยมัลติฟังชั่นส์ดูล้น ๆ ไปบ้าง แต่หากมองเรื่องของการใช้งานแล้วถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว

5.ภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งและไม่ค่อยมีปัญหา

หากเทียบกับคู่แข่งบางแบรนด์ที่มักจะประสบปัญหาในเรื่องของตัวสินค้าหรือวิธีการทำตลาดก็ดี จะพบว่าฮอนด้านั้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเองมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน จนทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้น ไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไรนัก ออกจะเป็นแบรนด์ที่ดีในสายตาผู้บริโภค

นอกจากนี้ การให้บริการที่ตัวแทนจำหน่ายฮอนด้าเองก็ไม่รับการยอมรับว่าอยู่ในระดับสูงเอาเรื่อง ไม่ค่อยจะเป็นข่าวอะไรออกมา ต้องยอมรับว่าการผิดพลาดครั้งใหญ่ในอดีตของพวกเขาด้านงานบริการ ได้กลายเป็นกระบวนการเรียนรู้ ที่ทำให้พวกเขาเดินหน้าดูแลทุกอย่างได้เป็นอย่างดี

ส่วนผสมที่ดีของความสวย ความแรงและความมั่นใจ

ถ้าจะให้สรุปว่าทำไม Honda Civic ถึงได้มียอดจำหน่ายรวมไปเกือบ ๆ 1 หมื่นคัน มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 55% ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปีนี้ ก็น่าจะเป็นเพราะว่ารถรุ่นนี้นั้น มีความพร้อมที่ตรงใจผู้บริโภคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่สวยงาม สมรรถนะและความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม

ประกอบกับความมั่นใจในแบรนด์ของผู้บริโภคที่มีให้กับฮอนด้านั้นสูงลิ่ว ส่งผลดีต่อการทำการตลาด รวมไปถึงราคาจำหน่ายเมื่อเป็นรถยนต์มือสองโดยรวมก็ยังถือว่าเหนือกว่ารถหลาย ๆ รุ่นของคู่แข่ง เรียกว่ามีความครบครันและสมบูรณ์แบบกันตั้งแต่ก่อนซื้อไปยันขายทิ้งตอนจบ

เอาจริง ๆ ก็แอบหวาดหวั่นกับฮอนด้าเหมือนกัน เพราะเจ้าฮอนด้า ซีวิค ที่เปิดภาพร่างออกมานั้น ดูไม่สปอร์ตดุดันเท่าไหร่ ออกแนวอนุรักษ์นิยมเล็ก ๆ ซึ่งเหมือนกับการวนลูปด้านงานดีไซน์ของฮอนด้า ที่มักจะขึ้นไปจุดสูงสุด แล้วก็กลับมาเริ่มต้นใหม่ เป็นอย่างนี้มาหลายรอบ

ก็ได้แต่หวังว่าลูกค้าน่าจะชอบพอดีไซน์แบบใหม่บ้าง เมื่อเปิดตัว...