Nissan หวังว่าราคารถยนต์ไฮบริดของพวกเขา จะเท่ากับเครื่องยนต์สันดาปภายใน 2026

Nissan (นิสสัน) ได้มีการตั้งเป้าหมายไว้ว่า รถยนต์ประเภทไฮบริด e-Power ของพวกเขา จะสามารถทำราคาให้เท่ากับรถเคื่องยนต์สันดาปได้ ภายในเวลา 3 ปี

ด้วยวิธีการลดต้นทุนการผลิตแบบใหม่ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

ในระหว่างการเปลี่ยนแผนงานการพัฒนาระบบขับเคลื่อน ที่จะมีการใช้ส่วนประกอบร่วมกันระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าและ e-Power ซึ่งพวกเขากล่าวว่าจะลดต้นทุนการผลิตไปได้กว่า 30% เมื่อเทียบกับในปี 2026

วิธีการใหม่นี้สามารถทำได้ 2 แบบ คือแบบ 3-in-1 จะรวมส่วนประกอบของมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ และเฟืองลดรอบเข้าด้วยกันในระบบเดียว สำหรับใช้ใน EV

ในขณะที่ต้นแบบ 5-in-1 ที่กำลังทดลอง จะเพิ่มเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับใช้ใน e-Power ซึ่งวิธีนี้จะสามารถช่วยให้ส่วนประกอบหลักของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งหมดออกมาจากในสายการผลิตเดียวกันได้

ปัจจุบัน Nissan ขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วนอยู่ 2 รุ่นคือ Nissan Leaf และ Nissan Ariya ส่วนในขุมพลัง e-Power เช่น Nissan Sylphy, Nissan X-Trail และ Nissan Note เป็นการเอารถรุ่นปัจจุบันไปเพิ่มระบบ ส่วน Nissan Kicks จะเป็นโมเดลใหม่

ด้วยการปรับปรุงการผลิตสำหรับชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าเหล่านี้ Nissan ตั้งเป้าที่จะทำให้ราคาระหว่างรถยนต์ e-Power กับรถยนต์สันดาปภายในเท่ากัน "ประมาณ" ปี 2026

อ่านเพิ่มเติม Nissan สัญญาจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 19 รุ่นให้คนทั่วโลกได้ใช้ ภายใน 2030

นั่นอาจทำให้ช่องว่างราคาจหายไปในอีก 3 ปีข้างหน้า แม้ Nissan จะไม่ได้บอกว่าจะเป็นผลมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับรถยนต์ที่ไม่ใช่ e-Power หรือไม่

นอกจากนี้ยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าการผลิตที่ถูกกว่าจะส่งผลอย่างไรต่อราคารถยนต์ไฟฟ้า แม้ว่าบริษัทจะประกาศถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาย่อมเยาและใช้งานได้จริง โดยส่วนใหญ่จะมาจากการใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีพลังงานหนาแน่นมากขึ้น

นิสสันกล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะส่งผลให้ระบบขับเคลื่อนมีขนาดเล็กและเบาลง ส่งเสียงรบกวนน้อยลงและลดแรงสั่นสะเทือน

บริษัทเคลมว่าจะเปิดตัวมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีธาตุหายากเพียง 1% ซึ่งมีความสำคัญต่อความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 19 รุ่นภายในปี 2030

Toshihiro Hirai หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมระบบส่งกำลังและ EV ของ Nissan กล่าวว่า "เราใช้ความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนา และการผลิตเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าที่ยาวนานกว่าทศวรรษของเรา