Mitsubishi จับมือ EGAT พัฒนาเทคโนโลยีแปลงพลังงานไฟฟ้า

Mitsubishi Motors Thailand (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย) ประกาศลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้านการแปลงพลังงานระหว่างยานยนต์ไฟฟ้ากับระบบไฟฟ้า ด้วยการนำ Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) มาใช้ในการทดสอบ

โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาศึกษาแนวทาง ทดสอบและเก็บข้อมูลการแปลงพลังงานระหว่างยานยนต์ไฟฟ้ากับโครงข่ายไฟฟ้า (V2G)

การทดลองดังกล่าวจะใช้รถยนต์มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ทำการทดสอบร่วมกันที่ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้าแห่งชาติ และยังรวมถึงแผนการจัดแสดงเทคโนโลยี DENDO Drive House (เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์) ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ศูนย์การเรียนรู้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานกลาง อีกด้วย

อะไรคือเดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์

เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ คือระบบสำหรับที่พักอาศัยซึ่งประกอบด้วย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี  เครื่องอัดและจ่ายประจุไฟฟ้าแบบ Vehicle-to-Home (V2H) ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการจ่ายและรับกระแสไฟฟ้าระหว่างยานพาหนะและที่พักอาศัย แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่สำหรับที่พักอาศัย เพื่อการใช้งานอย่างครบวงจร

ระบบดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าจากที่พักอาศัย เพื่อนำไปใช้ในการชาร์จ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี  และในทางกลับกันยังสามารถดึงพลังงานไฟฟ้ากลับจากตัวรถ เพื่อนำไปใช้ในที่พักอาศัย จึงมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยลดการบริโภคพลังงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นแหล่งไฟฟ้าสำรองในกรณีฉุกเฉิน

“มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ไม่เพียงแต่สามารถขับเคลื่อนได้แต่ยังนำกระแสไฟฟ้ากลับคืนสู่ที่พักอาศัย และแม้กระทั่งโครงข่ายไฟฟ้า ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและพัฒนาระบบนิเวศพลังงานแห่งอนาคต" 

ความสามารถในการดึงพลังงานไฟฟ้าจากรถพีเอชอีวีของมิตซูบิชิกลับเข้าสู่โครงข่ายไฟฟ้า จะช่วยรักษาเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการสำรองไฟฟ้าเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการระบบไฟฟ้าของประเทศไทย

ชกกิกล่าวอีกว่าบริษัทฯ จะทำงานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในการพัฒนานวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของบริษัทที่เตรียมตัวจะเปิดตัวรถพีเอชอีวีรุ่นแรกในประเทศไทยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าที่จะถึงนี้

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย

หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า ค่ายรถอย่างมิตซูบิชินั้นมีการบริหารในประเทศไทยที่ใหญ่โตเพียงใด และพวกเขานั้นจริงจังกับการทำตลาดในประเทศไทยหรือไม่ เอาจริง ๆ แล้ว บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด คือศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยการลงทุนเม็ดเงินมหาศาลเข้ามาในประเทศ

นอกจากนี้ ศูนย์การผลิตในประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก และยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยี

ในปี พ.ศ. 2561 ได้ฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน และได้เปิดทำการสถาบันการศึกษาและฝึกอบรมอย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี รวมถึงมีการใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบ ไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย

เมื่อไหร่มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จะมาเสียที

แม้จะมีการคาดการณ์ว่า Mitsubishi Outlander PHEV น่าจะเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้ เพราะคู่แข่งอย่าง MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) ก็จ่อที่จะเปิดตัวอย่างเต็มแก่ แต่หากย้อนกลับไปที่บทสัมภาษณ์ของชกกิเอง ก็มีความเป็นไปได้ ที่การเปิดตัวจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2564 ที่เหมาะสมกับสถานการณ์มากกว่า

เพราะชกกิระบุว่าการเปิดตัวรถรุ่นนี้จะเกิดขึ้นในปีธุรกิจ 2563 ซึ่งก็หมายถึงสามารถลากยาวไปจนถึงเดือนมีนาคม 2564 ได้ แต่หากไม่มีอะไรผิดพลาด รถคันจริงก็น่าจะมีให้เห็นกันอย่างแน่นอนในงาน Thailand International Motor Expo ที่จะจัดขึ้นต้นเดือนธันวาคม เพราะไม่เห็นเหตุผลที่พวกเขาจะไม่จัดแสดงรถคันจริงเสียที

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี คือหนึ่งในรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าจับตามองในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพราะจะเป็นสินค้าใหม่เอี่ยมรุ่นแรกของค่ายทรีไดมอนต์ในรอบหลายปี อีกทั้งเมื่อเทียบกับคู่แข่งก็ถือว่ามีความโดดเด่นกันไปคนละด้าน ที่เหลือก็คือ ค่ายรถแห่งนี้จะพร้อมเปิดหน้าชนกับคู่แข่งทุกรายกันเมื่อใดกันแน่ ต้องติดตาม!!!