Hyundai นำไปก่อนแล้ว จดสิทธิบัตรแบต solid-state ที่แก้ปัญหาเสื่อมสภาพ ด้วยวิธีคุมแรงดันสำเร็จ

 Hyundai Motor คิดค้นแบตเตอรี่แบบ solid-state ที่รักษาแรงดันแต่ละเซลล์ได้แล้ว ช่วยยืดอายุการใช้งาน และจดสิทธิบัตรเรียบร้อย นับเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโลก

ชื่อของสิทธิบัตรใหม่

Hyundai กำลังจดสิทธิบัตรในอเมริกา ให้กับแบต EV แบบใหม่ในชื่อว่า "All-Solid-State Battery System Provided with Pressurizing Device" ใจความสำคัญก็ตรงตามชื่ออยู่ที่การเป็นแบตประเภท solid-state ทั้งแท่ง พร้อมตัวให้ความเสถียรและกระจายแรงดันในแบตอย่างสมดุลย์ ส่งผลให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ปรับความดันเท่ากัน

แบต EV แบบปัจจุบันที่นิยมใช้คือ lithium-ion เป็นการใช้งานแผ่นธาตุให้แลกเปลี่ยนประจุในของเหลวจนเกิดไฟฟ้า แต่ระบบใหม่นี้มีการลดแรงดันอากาศลง ให้มีความดันภายในแบตแต่ละเซลล์เท่าเทียมกัน โดยไม่ส่งผลต่อการชาร์จเข้าและคายประจุออก เมื่อรวมกับเทคโนโลยี Solid-State ทำให้มันมีความทนทาน แม้ว่าจะมีความเสียหายทางกายภาพเกิดขึ้นก็ตาม

ควบคุมปริมาณของเหลว

เทคโนโลยีการจัดความดันภายในแบตอย่างเทียม ทำได้ด้วยการให้เซลล์แบตอยู่ในห้องปิดตาย รักษาความดันด้วยของเหลว คำอธิบายค่อนข้างคลุมเครือเมื่อลงรายละเอียด แต่สรุกคร่าวๆได้ว่า มันควบคุมแรงดันด้วยการกำหนดปริมาณของเหลว จากนั้นให้ตัวจับแรงดันไฟฟ้าทำหน้าที่วัดโวลต์ในแต่ละเซลล์ ทำงานคู่กับเทอร์โมสตัท ทำให้แบตอยู่ในระดับอุณหภูมิใช้งาน จากนั้นตัวควบคุมจะเริ่มการชาร์จเข้าและการคายประจุภายในอุณหภูมิและความดันที่กำหนดไว้แล้ว

มุ่งเป็น 1 ใน 3 บริษัท EV

วงการยานยนต์เต็มไปด้วยการพัฒนาที่คล้ายกัน ซึ่งก็มี Toyota, GM, Volkswagen, Ford, Nissan, Honda, Mercedes-Benz และบริษัทอื่นๆ ต่างพากันสำรวจเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State อย่างขยันขันแข็ง อย่างไรก็ตาม ฮุนไดยังคงยืนหยัดในการแสวงหาการเป็น 1 ใน 3 ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ภายในปี 2030

CEO Jae Hoon Chang ยืนยันความมุ่งมั่นของ Hyundai ในการพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตตแบบ LFP และ NCM โดยมุ่งลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่น โดยมีสิทธิบัตรของ Hyundai มาแล้วหลายตัว เช่น สารละลายอิเล็กโทรไลต์ สารยึดเกาะ และวิธีการผลิตอิเล็กโทรดในแบตเตอรี่ Solid-State แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความทุ่มเทในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม EV

อ่านเพิ่มเติม : ทำไม 2022 Hyundai IONIQ 5 คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีระดับโลก?