Mazda (มาสด้า) มีภาพลับซ่อนอยู่ในคลิปนำเสนอกลยุทธ์การตลาดสำหรับปี 2030 โดยเนื้อหาในคลิปประกาศการให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานไฟฟ้าอีกครั้ง โดยเพิ่มการลงทุนและปรับปรุงอัตราส่วนการขาย EV ทั่วโลกเป็น 40% ภายในปี 2030 นอกจากนี้ยังแสดงภาพรถต้นแบบสไตล์เดียวกับ Mazda MX-5 (มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5) พร้อมตัวถังคูเป้สองประตู

ปรากฎในคลิปต่อจาก MX-5

Mazda ยังไม่ลงในรายละเอียด และไม่มีการกล่าวถึงแนวคิดนี้ในข่าวประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม เป้นที่น่าสังเกตว่า ภาพเรนเดอร์ดังกล่าวปรากฏขึ้นต่อจากภาพของ Mazda MX-5 ที่อยู่ในเฟรมก่อนหน้า ทำให้เราเชื่อว่ามันอาจเป็นภาพตัวอย่างของรถเจนเนอเรชั่นที่ 5 ที่กำลังจะมาถึง

มีความคล้าย MX-5 เดิม

รถต้นแบบนี้ที่ยังไม่มีชื่อ แต่เราสันนิษฐานว่าเป็น MX-5 EV เพราะมีโครงร่างแบบรถเปิดประทุนโรสเตอร์ สัดส่วนทรงเตี้ยที่มีสันนูนบังโคลนเด่นชัด ส่วนรุ่นคูเป้มีหลังคาแข็งแบบตายตัว และประตูปีกนกขนาดใหญ่สองบาน พื้นผิวและสัดส่วนโดยรวมคล้ายกับ MX-5 ND รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเน้นความเรียบและแหลม

ด้านหน้าติดโลโก้ Mazda เรืองแสงบนกระจังหน้า ขณะที่ไฟหน้า LED ดูเหมือนจะมีกลไกแบบป๊อปอัพ นูนขึ้นจากผิวตัวถัง กระจกบังลมหลังขนาดใหญ่ ไล่แนวไปยังผิวข้างตัวถังอันล่ำสัน ชวนให้นึกถึงลำตัว Mazda RX-7 ในขณะที่ด้านท้าย มีความโค้งมน ประกอบกับไฟท้าย LED ที่เป็นทรงแคปซูลคล้ายกับ MX-5 ในอดีต

มีโอกาสใช้ไฟฟ้าล้วน

ในขณะที่มีข่าวลือว่า MX-5 เจเนอเรชันถัดไปจะคงเครื่องยนต์สันดาปไว้ใต้ฝากระโปรง แต่แนวคิดดูเหมือนจะมีระบบส่งกำลัง EV เพราะเห็นได้ชัดจากแชสซีอะลูมิเนียมของรถ โดยมีกล่องด้านหลังห้องโดยสารแบบ 2 ที่นั่งที่สามารถสำรองพื้นที่ไว้สำหรับแบตเตอรี่ได้ เค้าโครงดูเหมือนจะเน้นที่ความเบาและไดนามิกในการขับขี่ ซึ่งตรงกับมาตรฐานเดิมของรถสปอร์ตญี่ปุ่นรุ่นนี้

อ่านเพิ่มเติม : 2024 Mazda MX-5 ยืนยันใช้เครื่องยนต์เหมือนเดิม คาดมาพร้อม Skyactiv-X ที่แรงและรักษ์โลก

แผนการเปิดตัว EV ของมาสด้า

ไม่เพียงภาพรถใหม่เท่านั้น Mazda ยังได้พูดถึงกลยุทธ์การตลาดระยะกลางสำหรับปี 2030 ผู้ผลิตรถยนต์เชื่อว่าอัตราส่วนการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะอยู่ที่ 40% ภายในปี 2573 เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 25%

กลยุทธ์การผลิตไฟฟ้าแบบ 3 เฟสของ Mazda จะเหมาะสมกับแต่ละภูมิภาคและความต้องการด้านสิ่งแวดล้อม" และจะได้รับการลงทุนมูลค่า 1.5 ล้านล้านเยน ตลอดจนสานสัมพันธ์กับพันธมิตรใหม่ตั้งแต่แบตเตอรี่ไปจนถึงมอเตอร์และชิป โดยระยะแรกระหว่างปี 2022 - 2024 จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา ระยะที่สองระหว่างปี 2025 - 2027 จะเป็น “ช่วงเปลี่ยนผ่าน” ด้วยการแนะนำระบบไฮบริดใหม่และรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่สำหรับจีน และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก สุดท้าย เฟสที่ 3 ระหว่างปี 2028 ถึง 2030 จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไปทั่วโลก

นอกจากนี้ Mazda ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างโรงงานที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2035 ด้วยการอนุรักษ์พลังงาน พลังงานหมุนเวียน และการใช้เชื้อเพลิงที่เป็นกลางทางคาร์บอน ท้ายที่สุด แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นก็ประกาศเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการทำให้อุบัติเหตุร้ายแรงเป็นศูนย์ภายในปี 2040

อ่านเพิ่มเติม : Mazda ยืนยัน MX-5 โฉมใหม่จะใช้สูตรเดิมคือต้องขับสนุก, น้ำหนักเบา และอาจมีไฟฟ้าในอนาคต