2023 Toyota Yaris Cross (2023 โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) ได้รับการเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมสิ่งที่น่าสนใจเพียบ
ตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กคึกคักขึ้นมาอีกรอบ มีผู้เล่นอยู่ในตลาดมากมาย แต่การเปิดตัวของ Yaris Cross ย่อมส่งผลสะเทือนเลือนลั่นแน่นอน ไม่เพียงต่อกลุ่มรถเครื่องยนต์สันดาป แต่รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าด้วย
2023 Toyota Yaris Cross มีราคาจำหน่าย 3 รุ่นย่อย ได้แก่ HEV Smart ราคา 789,9000 บาท HEV Premium ราคา 849,000 บาท และ HEV Premium Luxury ราคา 899,000 บาท
หากดูจากความสำเร็จของ Toyota Corolla Cross รุ่นน้องอย่าง Yaris Cross น่าจะกวาดยอดขายได้อย่างไม่ยากเย็น เราไปดูกันว่ารถเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
ขุมพลังไฮบริดเน้นประหยัด
2023 Toyota Yaris Cross มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด รหัส 2NR-VEX บล็อก 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร มีพละกำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตรที่ 4,000 – 4,800 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน และมอเตอร์ไฟฟ้า 80 แรงม้า ทำให้มีกำลังรวมทั้งหมดอยู่ที่ 111 แรงม้า
ระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า มีอัตราบริโภคน้ำมันระดับ 26.3 กม.ต่อลิตร ซึ่งถือว่าจิบแบบสุดประหยัดเลยทีเดียว
อ็อปชั่นค่อนข้างครบ
สิ่งที่ควรจะมีอยู่ในรถอเนกประสงค์ยุคใหม่ถูกใส่มาไว้ใน Yaris Cross เริ่มจากระบบไฟส่องสว่าง LED รอบคัน มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อม Follow Me Home ล้ออัลลอยเริ่มต้นจาก 17 นิ้วไปสู่รุ่นท็อปที่ 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารมีเบาะนั่งปรับไฟฟ้าในรุ่นท็อป การตกแต่งเน้นสีเคร่งขรึมด้วยโทนสีดำและสีเทา เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ พร้อมการระบายความร้อน การตกแต่งภายในใช้วัสดุบุนุ่มพร้อมเปียโนแบล็ก นอกจากนี้ยังมีเบรกมือไฟฟ้า ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์และระบบครูสคอนโทรล ตลอดจนระบบปรับอากาศพร้อมการกรองฝุ่น PM 2.5 และช่องแอร์ตอนหลัง
จุดที่น่าสนใจอีกอย่างคือการติดตั้งระบบประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบ kick activate และระบบป้องกันการหนีบ แต่มีเฉพาะในรุ่นสูงสุดเท่านั้น
อินโฟเทนเมนท์น่าใช้งาน
บนแผงแดชบอร์ดหน้าของ Yaris Cross มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง โดยรุ่นท็อปเป็นของแบรนด์ Pioneer ส่วนชุดมาตรวัดผสมผสานแบบดิจิทัลด้วยจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
การเชื่อมต่อใช้ได้แบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ USB ที่มีทั้ง Type A และ Type C อีกทั้งยังมีแท่นชาร์จอุปกรณ์แบบไร้สาย
ความปลอดภัยเพียบ
ระบบความปลอดภัยที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ประกอบด้วยระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านด้านข้าง
สำหรับรุ่นกลางและรุ่นท็อป มีแพ็คเกจช่วยเหลือผู้ขับขี่เพิ่มเติม อย่างระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว และระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี
สำหรับระบบแจ้งเตือนลมยางและกล้องมองภาพรอบคันจะมีเฉพาะรุ่นท็อป ส่วนรุ่นกลางและรุ่นเริ่มต้นจะมาพร้อมกล้องมองภาพขณะถอยหลัง
แบรนด์แข็งแกร่ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Toyota เป็นเจ้าตลาดที่มีแบรนด์อันแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทำให้ลูกค้าอุ่นใจได้ตั้งแต่ระหว่างการใช้งานที่มีศูนย์บริการมาตรฐานให้เลือกใช้เพียบ ไปจนถึงเมื่อต้องการขายต่อก็ไม่ต้องกังวลว่าราคาจะตกฮวบฮาบ
อีกทั้งในช่วงหลัง Toyota อัดอ็อปชั่นมาล้นคันยิ่งกว่าเดิมเพื่อแข่งขันกับผู้ท้าชิงหน้าใหม่จากเมืองจีน ยิ่งทำให้ยอดขายวิ่งปรู๊ดปร๊าดมากขึ้น
หลังจากนี้ ต้องติดตามกันต่อไปว่า 2023 Toyota Yaris Cross จะประสบความสำเร็จมากเพียงใดในตลาดรถเอสยูวีที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง