2020 Ford Ranger Wildtrak 2.0L Turbo 10AT ถูกกว่าขับสี่ 2.36 แสนบาท ของเล่นหาย แต่เทียบคู่แข่งสบาย

Ford Ranger ขับสอง ก็พอไปลุยกับเขาได้นะ

Ford (ฟอร์ด) ได้ทำการปรับโฉมรถรุ่นที่ขายดีที่สุดของพวกเขาอย่าง Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ไปในปี 2563 ที่ผ่านมา ด้วยการปรับโฉมภายในห้องโดยสารและภายนอกของรถ เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ที่มีความสดใหม่มากยิ่งขึ้น ต่อยอดการแข่งขันในตลาดปิกอัพกันต่ออีกเฮือก

การเปลี่ยนแปลงของฟอร์ด เรนเจอร์ 2020 นั้น แม้หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่าทำให้หน้าตาของรถดูขัดไปจากจริตของรถปิกอัพบ้างไม่มากก็น้อย แต่เอาจริง ๆ เรนเจอร์นั้นเป็นหนึ่งในรถปิกอัพที่ถือว่ามีความโดดเด่นที่สุดในยุคนี้ จนกระทั่งคู่แข่งเริ่มปรับตัวตามขึ้นมาเรื่อย ๆ

ระบบที่ให้มาในรถ เครื่องยนต์สมรรถนะสูงถือว่าไม่เป็นรองใครหน้าไหนในท้องตลาด แม้แต่ในรุ่นเราเอามาขับทดสอบก็คือเจ้าตัวแต่งอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทร็ค ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว เรียกว่าเปรียบมวยกับตัวท็อปของบางค่ายได้สบาย

AutoFun Thailand นำรถทดสอบรุ่นนี้ที่มีราคาจำหน่าย 1.029 ล้านบาท ย่อมเยาลงมาจากรุ่นท๊อปที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ทำราคาที่ 1.265 ล้านบาท ราคาจำหน่ายที่แตกต่างกัน 2.36 แสนบาท อาจจะทำให้คนสงสัยว่ามันมีอะไรแตกต่างกันบ้าง

แต่อย่างที่บอกไป หลาย ๆ คนอาจจะยอมจ่ายเพิ่มเพื่อไปเอาของเล่นให้ครบ ๆ แต่หากต้องการความหล่อ อารมณ์ยกสูง และความสามารถในการลุยแบบง่าย ๆ ตัวเลขนั้นก็ถือว่ามากพอที่จะเอาไปจ่ายค่าอื่น ๆ ได้เป็นปีเลยนะ ก็ลองมาดูว่าโดนใจกับความต้องการหรือเปล่าละกันนะ...

ราคาจำหน่าย Ford Ranger Wildtrak
2.0L Bi-Turbo 10AT 1.265 ล้านบาท
2.0L Turbo HR 10AT 1.029 ล้านบาท ***
2.0L Turbo HR 6MT 9.79 แสนบาท

ราคาห่างกันพอควร ออพชั่นก็หายไปบ้าง

ความแตกต่างจากงบ 2.36 แสนบาท

แน่นอนว่าสิ่งที่แตกต่างกันอย่างแน่นอนก็คือเครื่องยนต์ที่ในรุ่นท็อปจะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 213 แรงม้า 500 นิวตันเมตรและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ รุ่นล่างเป็นเทอร์โบเดี่ยว 180 แรงม้า 420 นิวตันเมตร และมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสองล้อแบบยกสูง

เมื่อระบบขับเคลื่อนเปลี่ยนไป สิ่งที่พ่วงกับระบบก็ไม่เท่ากันด้วย โดยในรุ่นท็อปจะมาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา แต่รุ่นรองมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันแบบธรรมดา และแถมพ่วงระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำมาเพิ่มความปลอดภัย

ภายนอกนั้นเหมือนกันไปทั้งหมด ยกเว้นขนาดความสูงของรถที่รุ่นท็อปจะสูงกว่า 33 มิลลิเมตร พร้อมทั้งมีแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถมาให้ ขณะที่ด้านข้างรถจะใช้แบดจ์ที่แตกต่างกันตามเครื่องยนต์อยู่แล้ว และมาพร้อมฝาปิดกระบะควบคุมด้วยไฟฟ้าเหมือนกันในทั้ง 2 รุ่น

แต่ยังมีระบบช่วยเหลือมาให้พอประมาณ

ระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่ก็แตกต่างกันเล็กน้อย โดยแม้จะมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเหมือนกัน แต่รุ่นท็อปจะมีระบบรักษาระยะห่างแบบอัตโนมัติมาให้ พร้อมติดตั้งระบบช่วยจอดอัจฉริยะมาให้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งไปติดตั้งเพิ่มก็ไม่ได้นะ

ในรถนั้นแตกต่างกันที่ช่องต่อยูเอสบีที่กระจกมองหลังสำหรับรุ่นบนเท่านั้น นอกจากนี้ ก็เป็นระบบด้านความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมเบรคอัตโนมัติที่จับคนเดินถนนได้ รวมถึงระบบไฟสูงอัจฉริยะก็มีมาให้

มองแบบนี้จ่ายเพิ่มก็คุ้มค่าอยู่เหมือนกันนะ...

ดูสวยงาม แต่ทอนความบึกบึนลงไป

ภายนอกปรับมาใหม่ ไฉไลกว่าที่ควร

ถ้าภาพลักษณ์ของรถกระบะที่เน้นความแข็งแกร่งบึกบึนคือภาพลักษณ์ที่ติดตาของเรนเจอร์ในความคิดของใครหลาย ๆ คน ผมมองว่าเรนเจอร์โฉมนี้ไม่ได้เน้นการออกแบบที่เล่นลวดลายความบึกบึนมากมาย แต่เหมือนจะพยายามเอาใจกลุ่มใช้งานเชิงสันทนาการมากขึ้น

การตกแต่งด้านหน้านั้นมีการเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ที่กระจังหน้าของตัวรถที่นำช่องกรอบสีส้ม ๆ มาติดไว้ด้านใน พร้อมทั้งเพิ่มชุดแต่งสีดำมันรอบคันรถในตำแหน่งต่าง ๆ พร้อมบันไดข้างแบบสีดำ ชุดแต่งกระบะตกแต่งด้วยสีส้มและแถบสีเทา ซึ่งบางทีก็แอบเยอะไปนิด

ฝาท้ายแบบผ่อนแรงและฝาปิดกระบะแบบควบคุมด้วยไฟฟ้า ที่สั่งงานอย่างง่ายดายผ่านรีโมทคอนโทรล เป็นอุปกรณ์ที่ฟอร์ดควรเอามาจำหน่ายเพิ่มอย่างเป็นทางการ กระบะนั้นมีไลน์เนอร์มาให้เรียบร้อย พร้อมด้วยช่องต่อไฟแบบ 12 โวลต์แบบครบครัน

ล้ออัลลอย 18 นิ้วยังเป็นมาตรฐานของวงการ

ไฟหน้าแบบแอลอีดีโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟวิ่งเวลากลางวันแบบแอลอีดี และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ไฟเบรกดวงที่ 3 พร้อมด้วยไฟส่องสว่างกระบะท้ายติดตั้งมาให้ พร้อมด้วยสปอร์ตบาร์และราวหลังคา ที่สามารถนำไปติดตั้งอุปกรณ์ต่อเพิ่มได้อย่างง่ายดาย

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในกลุ่มรถกระบะรุ่นท็อปลวดลายเดิม ๆ พร้อมสีดำมัน มาพร้อมยางไฮ-เทอเรนขนาด 265/60 R18 เพิ่มความแข็งแกร่งบึกบึนให้กับรถ คนอื่นอาจจะชอบก็ได้นะ แต่ผมชอบดีไซน์แบบเดิม ๆ ที่ไม่เติมอะไรเยอะขนาดนี้มากกว่านิดนึง

ฝาท้ายไฟฟ้าที่เอาใจเจ้าของรถรุ่นเก่าไปเลย
มิติ Ford Ranger WT 2.0L Turbo HR 10AT
กว้าง 1,867 มิลลิเมตร
ยาว 5,376 มิลลิเมตร
สูง 1,815 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ 3,220 มิลลิเมตร
ความสูงใต้ท้องรถ 230 มิลลิเมตร
ดำน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร
วงเลี้ยว 12.7 เมตร

ภายในปรับแบบคอสเมติค ระบบครบครันอยู่แล้ว

เปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสารจะพบบรรยากาศอันคุ้นเคยแบบเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 8 นิ้วตรงกลางแบบสัมผัส ที่ใช้ในการออกคำสั่งระบบต่าง ๆ ได้ทั้งคันรถ รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย และการเชื่อมต่อแอปเปิลและแอนดรอยด์

แน่นอนว่าคนที่ยังฟังแผ่นเอ็มพี3 อยู่ สามารถนำแผ่นเพลงขึ้นมาเล่นได้นอกเหนือจากการเชื่อมต่อสารพัดรูปแบบ ระบบนำทางติดตั้งมาบนหน้าจอเรียบร้อย มีการขยับช่องยูเอสบีมาไว้ด้านนอกตรงตำแหน่งของช่องเสียบไฟ 12 โวลต์แทน ทำให้เสียช่องเสียบไฟไป 1 จุด

แต่ก็มากมายพออยู่ดี เพราะรถคันนี้มาพร้อมช่องเสียบไฟแบบ 230 โวลต์ที่ด้านหลังที่วางแขนกลางรถ พร้อมด้วยช่องแช่เย็นแบบใช้งานได้จริงที่ใต้ที่วางแขน พวงมาลัยมัลติฟังชั่นส์ที่ใช้งานเหมือนรุ่นเก่า ๆ และตัดปุ่มควบคุมระบบต่าง ๆ ที่ไม่มีออกไปเป็นที่เรียบร้อย

มาพร้อม SYNC3 ที่สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย

ระบบปรับอากาศของรถแยกอิสระซ้าย-ขวา แต่ยังไม่ติดตั้งช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังมาให้เสียที หน้าปัดอันคุ้นเคย ตรงกลางกลมโตแบบอนาล็อก ด้านข้างเป็นจอสีทีเอฟทีขนาด 4.2 นิ้วบอกข้อมูลละเอียดยิบ เอาเป็นว่าเจ้าของขึ้นมาเรียนรู้หน้าจอนี้ก็เสียเวลาเอาเรื่อง

การตกแต่งในรถทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเบาะที่นั่ง แผงข้างประตู พวงมาลัยและหัวเกียร์ ล้วนแล้วแต่เป็นเฉพาะรุ่นไวล์ดแทร็คทั้งหมด กุญแจรีโมทพร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์มีมาพร้อม แต่สตาร์ทรถก่อนเข้าเครื่องเพื่อเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำยังทำไม่ได้นะ

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว เฟี้ยวไม่เบา

เครื่องยนต์ไหลลื่นและระบบที่มากพอตัว

แม้จะเป็นรุ่นรองท็อปที่โดนตัดทอนอะไรไปมากมายแล้วก็ตาม แต่ด้วยศักดิ์ศรีของผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมระปิกอัพมานาน ฟอร์ด เรนเจอร์เองก็มีหลายอย่างที่คู่แข่งยังไม่สามารถพัฒนาตามมาได้ และเป็นจุดขายที่น่าสนใจอยู่หลายประการในรถคันนี้

เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ที่เลือกเพิ่มกำลังด้วยการเลือกใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์ ส่งผลให้มีกำลังสูงสุด 180 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 10 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์

รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดไบโอดีเซล บี20 พร้อมผ่านมาตรฐานไอเสียยูโรระดับ 4 ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแหนบซ้อน พวงมาลัยพาวเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า

เกียร์ 10 สปีดในรถปิกอัพรุ่นแรก

ระบบดิสก์เบรกด้านหน้า พร้อมด้วบครีบระบายความร้อน ด้านหลังยังคงใช้ดรัมเบรกอยู่ มาพร้อมเฟืองท้ายแบบ Locking Rear Differentail ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ได้ ตัวรถมาพร้อมคานเหล็กนิรภัยด้านข้าง พร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุด ที่คู่หน้า ด้านข้างและม่านถุงลม

ระบบช่วยเหลือด้านการขับขี่มีมาให้ทั้งระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันและระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ที่ทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

มาตรวัดลูกผสมยังใช้งานได้ดีอยู่

เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกที่นั่ง ด้านหน้าจะมาพร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกล้องมองหลัง และสัญญาณเตือนกะระยะถอยจอดรอบคัน จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก พร้อมระบบช่วยโทรฉุกเฉิน

เอาจริง ๆ ทั้งเรื่องของสมรรถนะเครื่องยนต์ การส่งกำลัง รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีมาให้อย่างครบครัน ก็น่าจะพอพูดได้ว่าฟอร์ดเองมีมาตรฐานสำหรับตลาดปิกอัพระดับพรีเมียมที่ดีมาก เพราะว่าคู่แข่งบางรายที่เปิดตัวมาทีหลัง ยังให้ของมาไม่ได้ขนาดนี้เลยนะ

รายละเอียดทางเทคนิค
เครื่องยนต์ ดีเซล เทอร์โบ
ความจุ 1,996 ซีซี.
กำลังสูงสุด 180 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 10 สปีด
ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
ระบบควบคุม พาวเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
กันสะเทือนหน้า อิสระ ปีกนก 2 ชั้น
กันสะเทือนหลัง แหนบซ้อน
ระบบเบรกหน้า ดิสก์เบรก 
ระบบเบรกหลัง ดรัมเบรก
รองรับเชื้อเพลิง ไบโอดีเซล บี20
มาตรฐานไอเสีย ยูโร 4

ลองขับแล้วเป็นอย่างไรกันบ้างนะ

เอาจริง ๆ ฟอร์ด เรนเจอร์นั้นเป็นรถที่ผมค่อนข้างคุ้นมือมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นรถที่ตัวเองใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่เป็นรุ่น 3.2 ลิตร ไวล์ดแทร็ค ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนที่ฟอร์ดจะเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์เล็กลงแล้วใส่เทอร์โบเสริมพลังแทน

ต้องบอกว่าก่อนที่ค่ายรถต่าง ๆ จะทำการปรับพลังของเครื่องยนต์ หรือการตกแต่งด้วยชุดแต่งมาตรฐานจากโรงงาน ฟอร์ดนั้นยืนหนึ่งกับไวล์ดแทร็คมาโดยตลอด และอาจจะบอกว่าเป็นรถที่ได้รับการยอมรับจากมหาชนชาวผู้ใช้ฟอร์ดกันอย่างมาก จนเราเห็นวิ่งเต็มถนนไปหมด

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เรียกได้ว่าฟอร์ดแทบจะไม่ได้เปลี่ยนในเรื่องของการขับขี่ หรือฟีลลิ่งในการใช้งานรถไปแม้แต่น้อย พวงเขายังเซตช่วงล่างแนวนุ่มนวลชวนหลับมาเหมือนเดิม จนเมื่อเข้าทางป่าเขาแล้ว จะมีอาการโยกโยนของช่วงล่างออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน

ให้ปุ่มสตาร์ทมา แต่ถ้าได้รีโมตสตาร์ทจะดีมาก

แต่อาการโยนตัวนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความมั่นใจในการขับขี่รถคันนี้ลดลงแต่อย่างใด เอาเป็นว่า ถ้าความต้องการของคุณอยู่ที่การใช้งานในเมืองเป็นหลัก ออกไปต่างจังหวัดแค่เจอทางฝุ่นทางหิน ลุยน้ำบ้างเล็กน้อยพอขำขำ ไม่ได้บุกป่าฝ่าภูเขาเผากระท่อม ก็เอาอยู่แน่นอน

เครื่องยนต์ที่ให้มานั้นเป็นการผสานการทำงานของดีเซลและเทอร์โบอย่างแยบยล คือมีการส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่องไหลลื่น เรียกว่าเทียบกับเครื่องเล็กของคู่แข่งไม่มีทางแพ้ใครอย่างแน่นอน เผลอ ๆ ไปวัดกับรุ่นใหญ่ ก็ยังให้ฟีลการตอบสนองที่ดีกว่าในช่วงออกตัวด้วยซ้ำ

แอร์แบ้ก 6 ใบ เพิ่มความอุ่นใจรอบด้าน

ในด้านของอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้นั้น ถ้าจะมองว่าการไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ ฟอร์ดไม่ได้ใส่อะไรมาเพิ่มเติมมากนัก มันก็น่าจะเป็นเพราะว่า พวกเขานั้นได้ให้มาอย่างเต็มที่แล้วตั้งแต่โฉมก่อนหน้า แล้วก็ทำได้แค่นั่งรอคู่แข่งค่อย ๆ ไหลมาเพิ่มอุปกรณ์เรื่อย ๆ จนเรียกว่าเกยกันพอดีแล้ว

ยิ่งในยุคหลัง ๆ นี้ ค่ายรถทุกค่ายที่ทำตลาดรถปิกอัพ ต่างก็ออกกระบะตัวแต่งของตัวเอง พร้อมเวอร์ชั่นแต่งหล่อ ยกสูงขับสองออกมากันหมดครบทุกค่าย เหลือแค่ Mazda (มาสด้า) ที่เพิ่งเปิดตัว Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) แต่ก็มีข่าวลือนะว่าอาจจะทำในไม่ช้าเหมือนกัน

ช่องชาร์ตไฟ 230 โวลต์ก็ให้มาก่อนใครเขา

โดยรวมความแล้ว ส่วนตัวผมคิดว่าฟอร์ดนั้นรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้ค่อนข้างดีในการพัฒนารถปิกอัพแบบปรับนิดหน่อย แม้ส่วนตัวจะไม่ชอบหน้าตาที่ดูจิ้มลิ้มไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็เชื่อว่าทีมดีไซเนอร์เองก็คงคิดมาแล้วว่าอยากให้ออกมาเพื่อจับกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ บ้าง

ในส่วนอื่น ๆ นั้น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ ความสะดวกสบายในการใช้งาน ความมั่นใจในการเป็นเจ้าของที่มีการขยายเวลาการรับประกันออกไป ก็น่าจะทำให้คำถามด้านคุณภาพของตัวรถที่หลาย ๆ คนกลัว ๆ กันนั้น พอจะบรรเทาลงไปได้ เพราะฟอร์ดก็เทหมดหน้าตักแล้วเหมือนกันนะ

เอาเป็นว่าใครสนใจกระบะแนวนี้ ก็อย่าลืมรับฟอร์ด เรนเจอร์ ไว้พิจารณานะ...

RIVALS

Toyota Hilux REVO Double Cab Prerunner 2x4 2.4 Rocco AT - 1.079 ล้านบาท

Toyota นั้นมี Toyota Hilux REVO Rocco รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.4 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมายอย่างน่าใช้งาน ไว้เอาใจกลุ่มลูกค้าที่ชอบรถปิกอัพแต่งสวย

Isuzu X-Series Hi-Lander 4-Door A/T - 9.74 แสนบาท

Isuzu ก็มีตัวแต่งสุดโหดแบบยกสูงขับเคลื่อน 2 ล้อ ในรุ่น Isuzu X-Series Hi-Lander ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ เทอร์โบอันลือชื่อ ให้สมรรถนะสูงสุด 150 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ชุดแต่งรอบคันตกแต่งมาอย่างสปอร์ตเหนือชั้น ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย

Nissan Navara Pro2X - 9.99 แสนบาท

Nissan มาพร้อมตัวแต่งขับเคลื่อนสองล้อที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Nissan Navara Pro2X โดดเด่นด้วยการออกแบบด้านหน้าของรถ รวมถึงชุดแต่งรอบคัน เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ 190 แรงม้า 450 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ซึ่งถือว่าดีไซน์ใหม่นั้น โดดเด่นอย่างเอาเรื่อง

Mitsubishi Triton Athlete GT - 9.85 แสนบาท

Mitsubishi Triton Athlete GT คือรถกระบะตกแต่งรุ่นพิเศษที่ค่าย Mitsubishi เปิดตัวเอาใจลูกค้า ด้วยการเลือกใช้พื้นฐานขับสองยกสูง จับคู่กับเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร กำลัง 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 430 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ดูเหมือนออพชั่นจะน้อยกว่าคู่แข่งเหมือนกัน

Mazda BT-50 ล่ะ จะมาไหม... 

Mazda เองเคยระบุว่าพวกเขาอยากจะขยายไลน์อัพสินค้าให้กับ Mazda BT-50 เหมือนกัน ซึ่งเมื่อเป็นฝาแฝดกับผู้นำตลาด หากมีการทำจริงก็น่าจะไม่แตกต่างกันมาก ด้วยเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า 350 นิวตันเมตร ว่าแต่ว่า เจ้าตลาดเขาจะยอมให้ทำออกมาไหมล่ะนั่น...

 

    Channel:
ติดตามพวกเราได้ที่:
Pisan

หัวหน้าทีมบรรณาธิการ

Head of Content ของ AutoFun Thailand ผู้ใช้ชีวิตกับรถมาตั้งแต่สมัยใส่ขาสั้นไปโรงเรียน ทุกวันนี้รถติดบนถนนมากกว่าวันละ 2-3 ชั่...

ซื้อรถถูกกว่า ขายรถเร็วขึ้น

ผู้ใช้ แลกรถในฝันแล้ว
เพิ่มรถของคุณ

แลก

Ford Ranger

ขายรถมือสอง

ตรวจสภาพรถ 175 จุด

รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

การรับประกัน 1 ปี

ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ดูเพิ่มเติม

วีดีโอสั้นที่เกี่ยวข้อง

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

ลองขับ 2023 Ford Ranger Stormtrak 4x4 ค่าตัว 1.399 ล้านบาท มีทุกอย่างให้ครบ จบในคันเดียว | AutoFun

ไปลอง Next Gen Ford หลากหลายรุ่น บนออฟโรดเต็มพิกัดที่ซาปา ลุยครบ สนุกทุกแทร็ค ดุดันเต็มที่ | AutoFun

รีวิว 2023 Ford Ranger XLS สี่ประตู ขับสองยกสูง ราคาไม่ถึง 9 แสน ตัดออพชั่นแต่ยังน่าใช้นะ | AutoFun

พรีวิว 3 รุ่นใหม่จาก Ford เน้นแต่งดุขึ้น เพิ่มออพชั่น เอาใจลูกค้าหลากหลาย ราคาเจอกันในงาน | AutoFun

รีวิว 2022 Ford Ranger Wildtrak ตัวท็อปเพิ่มออพชั่นเต็ม ยืนหนึ่งเรื่องการขับและความปลอดภัย | AutoFun

ข่าวล่าสุด

Mitsubishi ลงทุนผลิตเครื่อง 4N16 Hyper Power ใหม่ ให้ใช้งานได้เกิน 400,000 กม.ขึ้นไป

การผลิตเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ รุ่นใหม่ ถึงขั้นต้องปรับปรุงโรงงานขนานใหญ่ ให้เป็นไปตามมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้การประกอบเครื่องยนต์มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด พร้อมเผยเคล็ดลับความทนทานของเครื่อง 4n16 ใหม่ในรถ 2023 Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมล่าสุด เปลี่ยนสายพานการผลิตเครื่องยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยกระดับสายการผลิตให้ all-new Triton ต้อนรับการมาของรถรุ่นใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ 2.4 ลิตร ไฮเปอร์ พาวเวอร์ โดยใช้หุ่นยนต์อันทันสมัยมากกว่า 250 ตัว ทำหน้าที่ในการ

Mercedes-Benz เตรียมใช้แบตเตอรี่ Blade ของ BYD ในรถอีวี

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตกเป็นข่าวว่าเตรียมหยิบยืมเทคโนโลยี Blade Battery ของ BYD มาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง สำนักข่าว CBEA ของจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า รถยนต์รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่จะใช้แบตเตอรี่ของ BYD คือ All-New CLA รุ่นใหม่ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V MMA แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในจีนเท่านั้นหรือในต่างประเทศด้วย ข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CBEA รายงานด้วยว่าค่ายรถยักษ์เยอรมันจะเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ใ

ส่อง MG ZS 7 คัน มือสองดาวน์น้อย ผ่อนสบาย จากทาง CARSOME

วันนี้ เราเอาใจคนรักครอบครัวที่กำลังหาซื้อรถมือสอง ด้วย MG ZS มือสอง คุณภาพเยี่ยมถึง 7 คันพร้อมโปรโมชันสุดปังอย่าง CARSOME Easy Sale ดาวน์น้อย ผ่อนง่าย จ่ายไหว ที่ให้ทุกคนผ่อนรถมือสองได้ง่ายๆ เริ่มต้นเพียง 4,xxx บาทต่อเดือน แถมยังมียอดดาวน์น้อย จ่ายได้สบายกระเป๋า แถมมีสิทธิ์เป็นผู้โชคดี ได้เงินคืนรวม 5 แสนบาท*** พร้อมความคุ้มค่าแบบจุกๆ อีกเพียบ ที่สำคัญ ยังมั่นใจได้ว่า รถมือสองทุกคันจาก แพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง CARSOME ยัง ผ่านการตรวจเช็กอย่

Honda ยืนยันร่วมใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla

Honda (ฮอนด้า) เป็นบริษัทรถยนต์รายล่าสุดต่อจาก Ford และ General Motors ที่จะใช้เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla สำนักข่าว Asahi ของประเทศญี่ปุ่นรายงานว่า Honda ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะใช้พอร์ทชาร์จไฟเร็วของ Tesla ในรถยนต์ไฟฟ้าที่จะออกจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ Ford และ General Motors ประกาศนโยบายคล้ายคลึงกันหลังบรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ Rivian อีกหนึ่งบริษัทรถยนต์สัญชาติอเมริกันก็จะเดินตามรอยด้วยเช่นกัน นักวิเคราะห์เ

วิศวกร Honda พัฒนาระบบป้องกันเมาหัวในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งทันใจ

ทีมงานฝ่ายวิศวกรรมของ Honda (ฮอนด้า) พัฒนาระบบควบคุมอัตราเร่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวหรือเมารถ เป็นที่ทราบกันดีว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้แบบทันทีทันใดนั้นตอบสนองต่อเท้าขวาของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหน้าข้างคนขับหรือเบาะหลังเท่าใดนัก ธรรมชาติของรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำงานด้วยความเงียบสงบ ราบรื่น ปราศจากเสียงเครื่องยนต์รบกวน แต่อัตราเร่งที่เกิดขึ้นแบบกระทันหันอาจส่งผลต่อประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในที่ทำงานไม่ประส

รถแนะนำสำหรับคุณ

ยอดนิยมล่าสุดอัพเดท
ฮิต
MG

MG ZS

THB 689,000 - 799,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG Maxus 9

THB 2,499,000 - 2,699,000

ชมรุ่นรถ
MG

MG ES

THB 959,000

ชมรุ่นรถ
Honda

Honda WR-V

THB 799,000 - 869,000

ชมรุ่นรถ
รุ่นใหม่
BMW

BMW X7

THB 5,999,000 - 8,959,000

ชมรุ่นรถ
BMW

BMW XM

THB 14,899,000

ชมรุ่นรถ
GAC

GAC Aion Y Plus

THB 1,069,900 - 1,299,900

ชมรุ่นรถ
Toyota

Toyota Vellfire

THB 4,129,000

ชมรุ่นรถ
Subaru

Subaru Levorg

THB 1,890,000

ชมรุ่นรถ
Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Sprinter

THB 3,790,000

ชมรุ่นรถ

เปรียบเทียบรถที่เกี่ยวข้อง

Ford Ranger
เช็คทันที