Nissan (นิสสัน) จัดทำผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้า พบผลลัพธ์ที่น่าสนใจที่สามารถนำไปส่งเสริมการใช้งานรถพลังงานทางเลือก
ผลวิจัยดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่าง Nissan และฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน (Frost & Sullivan) องค์กรที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และงานวิจัยทางธุรกิจชื่อดังระดับโลก โดยจัดทำขึ้น 2 ครั้งในปี 2561 และ 2563 เพื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของความคิดเห็นของผู้บริโภค
การวิจัยครั้งนี้ยังศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบผู้บริโภคทั้งในประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ก่อนจะเผยแพร่ครั้งแรกที่งานสัมมนาออนไลน์ “นิสสัน ฟิวเจอร์ส – เดินหน้าสู่สังคมแห่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และอนาคตแห่งวงการรถยนต์ (Nissan FUTURES – Electrification and Beyond)” ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สำหรับในประเทศไทย จากการสำรวจพบว่า มีจำนวนร้อยละ 43 ของผู้ใช้รถยนต์ที่ไม่ใช่พลังงานไฟฟ้า จะเลือกพิจารณารถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอนหากจะต้องซื้อรถยนต์คันต่อไปในอีก 3 ปีข้างหน้า ผลสำรวจยังระบุอีกว่า ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยมีความกระตือรือร้นในการพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน รองลงมาคืออินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ผลวิจัยพบด้วยว่า ประเทศไทยมีจำนวนผู้ที่เข้าใจเรื่องเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงวิธีการใช้งานเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 53 โดยวัดจากผู้ที่ร่วมตอบแบบสำรวจ นอกจากนี้ ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า จำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยถึงร้อยละ 33 ของผู้ร่วมตอบแบบสำรวจจะเลือกพิจารณาซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ผู้ใช้รถยนต์ชาวไทยจะเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็คือ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และบรรเทาปัญหามลพิษฝุ่นละอองทางอากาศ โดยร้อยละ 90 ของผู้ใช้รถตระหนักว่า ‘รถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับสิ่งแวดล้อม’ ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งภูมิภาคอาเซียน (ร้อยละ 88) เล็กน้อย
ในขณะที่ผู้ร่วมตอบแบบสำรวจคนไทยมากถึงร้อยละ 91 กล่าวว่า ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้นมีผลต่อการพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ 3 ใน 4 ของผู้ใช้รถในประเทศไทยกล่าวว่า แหล่งพลังงานหมุนเวียนจะช่วยส่งเสริมให้มีการซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
ผลวิจัยระบุว่าความกังวลของผู้บริโภคต่อการเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญระหว่างปี 2561 ถึง 2563 โดยความกังวลอันดับแรกคือพลังไฟฟ้าจะหมดระหว่างทางก่อนไปถึงสถานีชาร์จ ลดลงจากร้อยละ 58 ในปี 2561 เหลือร้อยละ 53 ในปี 2563 เช่นเดียวกับข้อสงสัยต่อเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่ลดลงมาจากร้อยละ 48 ในปี 2561 เหลือร้อยละ 40 ในปี 2563
อย่างไรก็ตาม การวิจัยพบว่า ผู้ใช้รถในไทยเห็นว่า สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และเป็นปัจจัยหลักสำคัญเพียงเรื่องเดียวที่ยังคงเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2561 นั่นก็คือ “ความกังวลต่อระบบแท่นชาร์จไฟฟ้าสาธารณะที่มีอยู่อย่างจำกัด”
ในทางกลับกัน ข้อกังวลด้านจุดชาร์จไฟกลับลดลงในทุกประเทศที่มีการสำรวจโดยเฉลี่ยร้อยละ 9
ขณะเดียวกัน ร้อยละ 76 ของผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทยระบุว่า อุปสรรคต่อการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า คือ สถานีชาร์จไฟฟ้าที่จำเป็นต้องมีมากขึ้นในเขตบริเวณที่พักอาศัย และความกังวลเกี่ยวกับระบบแท่นชาร์จไฟฟ้าตามแหล่งสาธารณะ (ร้อยละ 47) อีกด้วย
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}