Volkswagen Group (โฟล์กสวาเกน กรุ๊ป) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ออกมาประกาศท้าทายในการแข่งกันการขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลกกับ Tesla (เทสล่า) ด้วยเป้าหมายการผลิตที่มากกว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวใน 4 ปี
กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ประกอบไปด้วยแบรนด์รถยนต์ชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโฟล์กสวาเกนเอง Audi (อาวดี้) Porsche (ปอร์เช่) รวมไปถึงรถจักรยานยนต์อย่าง Ducati (ดูคาติ) ตั้งเป้าหมายที่จะเปิดตัวรถไฟฟ้า 100% มากกว่า 70 รุ่นทั่วโลกภายในปี 2573 นี้
ทำให้พวกเขามั่นใจว่าด้วยตัวสินค้าที่มีอยู่และการผลักดันตลาดหลัก ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป จะทำให้พวกเขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าได้สำเร็จในปี 2568 ด้วยความหลากหลายของสินค้าที่เทียบกับคู่แข่งหลัก
แน่นอนว่าการทำรถยนต์เพียงแบรนด์เดียวอาจจะไม่สามารถแข่งขันกับเทสล่าได้ แต่หากนับถึงทุกแบรนด์ที่มีอยู่ในเครือของโฟล์กสวาเกนนั้น ต้องบอกว่าพวกเขาได้เปรียบมาก เมื่อมองว่ารถยนต์ทั้งหมดสามารถรองรับความต้องการได้หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นโฟล์กสวาเกนเองที่มีให้เลือกทั้งรถยนต์นั่ง รถตู้ ไปจนถึงรถรูปแบบอื่น ๆ มากมาย เพื่อนร่วมค่ายอย่างอาวดี้นั้น ก็เดินหน้าทำตลาดภายใต้แบรนด์ e-tron (อี-ตรอน) มาโดยตลอด หรือแม้แต่ปอร์เช่ก็มี Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคันน์) อยู่
ความหลากหลายของสินค้านี้จะทำให้โฟล์กสวาเกน กรุ๊ป สามารถขยายตลาดได้หลากหลายกว่าเทสล่า ที่มีรถทำตลาดอยู่ 4 รุ่นในปัจจุบัน ไม่รวม Tesla Cybertruck (เทสล่า ไซเบอร์ทรัค) และรถยนต์รุ่นใหม่ราคาย่อมเยา ที่มีกำหนดการจะเปิดตัวไวไวนี้
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าดูเหมือนจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เพราะทุกค่ายต่างมองว่าเป็นแนวทางที่จะต้องมุ่งหน้าไปให้สุดทาง และการบลัฟกันเองของผู้บริหารก็เริ่มมีมากขึ้่นเรื่อย ๆ เห็นได้จากทวีตของ Herbert Diess นายใหญ่ของค่ายโฟล์กสวาเกน
"สวัสดี ทวิตเตอร์! ผมมาที่นี่เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโฟล์กสวาเกนกรุ๊ป โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง และแน่อน เพื่อที่จะแย่งตลาดจากคุณนะ อีลอน มัสก์ ตอนนี้ ไอดี.3 และ อี-ตรอน ได้เริ่มชนะในยุโรปแล้ว รออภิปรายเรื่องนี้อยู่นะ"
แน่นอนว่าการแข่งขันในตลาดโลกนั้นเป็นเรื่องที่ดีและสนุกสนาน โดยเฉพาะเมื่อโฟล์กสวาเกนที่มีดีกรีหนึ่งในผู้นำตลาดยานยนต์โลกตัดสินใจจะลงมาแข่งอย่างเป็นทางการกับผู้นำโลกยานยนต์ยุคใหม่ น่าจะทำให้ตลาดมีการเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม หากไม่ระมัดระวังก็อาจจะมีโอกาสที่จะโดนยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนเข้ามาแย่งชิงตลาดได้เช่นกัน ท่ามกลางกระแสข่าวที่รัฐบาลจีนเริ่มขยับเพื่อกดดันผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีทั่วประเทศกว่า 300 ยี่ห้อ ให้จับมือกันเพื่อแข่งในตลาดโลก
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนจะปรับตัวไปในทิศทางใด แต่หากสามารถรวมตัวกันได้ ก็ต้องบอกว่าทั้งโฟล์กสวาเกนและเทสล่าก็คงรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กันบ้าง แถมยังมีกระแสต่อต้านแบรนด์นอกเยอะขึ้นในปัจจุบันอีกด้วย
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}