Isuzu (อีซูซุ) ผู้ผลิตรถปิกอัพและรถบรรทุกรายใหญ่ในประเทศไทย ระบุตลาดรถยนต์ปีนี้กลับมาฟื้นตัวอย่างจริงจัง พร้อมการขยายตัวของรถเชิงพาณิชย์เหนือตลาด และอาจจะทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยสามารถทำได้ถึง 9 แสนคันได้ในปี 2565 นี้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการจำหน่ายรถยนต์ในปีนี้ ยังมีเรื่องปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์สำหรับการผลิตรถยนต์ ซึ่งหากยังขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะส่งผลต่อการผลิตรถยนต์ในภาพรวมที่ทำให้ไม่ถึงเป้า
ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า การขยายตัวของอุตสาหกรรมหลัก ๆ จะมาจากตลาดรถปิกอัพที่คาดการณ์ว่าจะมียอดจำหน่ายถึง 4.4 แสนคันในปีนี้ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดปิกอัพมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
"สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ตลาดปิกอัพมีการขยายตัวอย่างมากในปีนี้ มาจาก 2 ปัจจัยสำคัญ หนึ่ง การที่มียอดค้างส่งมอบจากปีที่ผ่านมาจำนวนมากของทุกค่าย และสอง การขยายตัวของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในช่วงโควิด-19 ทำให้ความต้องการรถปิกอัพขยายตัว"
อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์จะไปได้ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้หรือไม่ ต้องดูองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย อาทิ สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนต่าง ๆ เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตรถยนต์นั้นมาจากทางทวีปยุโรปค่อนข้างมาก
สำหรับมาตรการสนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐบาลนั้น มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อรถปิกอัพ เนื่องจากความต้องการของลูกค้านั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งอีซูซุก็กำลังพิจารณาว่าเมื่อใดจะเป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะการใช้งานของลูกค้าแต่ละประเภท ลักษณะการใช้งาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความพิเศษในการเลือกซื้อรถ ในส่วนของเทคโนโลยีนั้น อีซูซุมีเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น แต่ต้องพิจารณาองค์ประกอบในภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง
อีซูซุไม่ได้ตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายรถของตัวเองในปีนี้ เนื่องจากมองว่าตลาดมีความผันผวน ทำให้ยากที่จะคาดการณ์ตัวเลขยอดขาย แต่ได้ตั้งเป้าหมายที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ให้ได้เท่ากับปีที่ผ่านมา โดยยอดขายรวมของรถอีซูซุปีที่แล้วอยู่ที่ 184,160 คัน แบ่งเป็นรถปิกอัพ Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) 150,741 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดรถปิกอัพ 44.1% รถอเนกประสงค์ Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์) ขายได้ 16,439 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 31.6% สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ อีซูซุขายได้ 16,980 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 50.6%
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อีซูซุไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มยอดจำหน่ายมากในปีนี้่ ก็จากสถานการณ์ของตลาด ที่ลูกค้าเองต้องรอรับรถนาน 2-3 เดือนแล้วแต่รุ่น อีซูซุจึงเน้นทำตลาดไปที่การรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและการสร้างความภักดีต่อแบรนด์ มากกว่าการทำตลาดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด อีกทั้งปัจจัยอื่น ๆ ก็มีผลกระทบ เช่น ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง ทำให้ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี โอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนรถก็ลดลง ทำให้ต้องประเมินภาพรวมของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของอีซูซุได้มีการจัดทำกิจกรรมการตลาดออนไลน์กับลูกค้ามาอย่างยาวนาน เนื่องจากประเมินว่าลูกค้าจะต้องการเดินทางไปที่โชว์รูมลดลง และหันมาติดต่อกับพนักงานขายทางออนไลน์แทน ก็ประสบความสำเร็จในด้านนี้ แต่มองว่าหลังโควิด-19 ชะลอลงในปีนี้ ลูกค้าน่าจะอยากออกไปท่องเที่ยวมากขึ้น จึงจัดกิจกรรมพิเศษ MASTER OF ALL ROADS และกิจกรรมออฟไลน์เกี่ยวกับรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อมากขึ้น
ลูกค้าจะปรับไปทางไหน อีซูซุพร้อมไปด้วยทุกทางอยู่แล้ว!!!
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}