Honda เรียกคืนรถ 1.79 ล้านคันทั่วโลก พบความเสี่ยงไฟไหม้ คนไทยควรกังวลหรือเปล่า?

Honda Motor (ฮอนด้า) ประกาศเรียกคืนรถยนต์ทั่วโลกกว่า 1.79 ล้านคันหลังพบข้อบกพร่องหลายกรณี หนึ่งในนั้นเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดไฟลุกไหม้

การเรียกคืนส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาโดยมีจำนวนทั้งหมด 1.4 ล้านคัน เริ่มจาก Honda CR-V  (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) ที่ผลิตระหว่างปี 2002 – 2006 จำนวนประมาณ 268,000 คัน ตรวจสอบพบปัญหาสวิทช์กระจกไฟฟ้ารอบคันที่ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ และมีรายงานไฟลุกไหม้ 16 ครั้ง

ก่อนหน้านี้ Honda เคยประกาศเรียกคืนรถยนต์ด้วยปัญหาสวิทช์กระจกไฟฟ้ามาแล้วในปี 2012 สำนักข่าว Reuters รายงานว่าการเรียกคืนครั้งล่าสุดนี้เป็นการแก้ไขซ้ำซ้อนเนื่องจากสวิทช์จะไม่ทำงานหรือเกิดข้อบกพร่องเมื่อสัมผัสความชื้นสูง

ปัญหาระบบอิเลคโทรนิคและซอฟต์แวร์

นอกจากนี้ Honda ยังทำการเรียกคืน Accord และ Accord Hybrid (ฮอนด้า แอคคอร์ด) ปี 2018 – 2020 และรถไฮบริด Insight (ฮอนด้า อินไซต์) เพื่อแก้ไขและอัพเดทซอฟต์แวร์ Body Control Module หลังพบว่ามีสัญญาณไฟแจ้งเตือนขึ้นบนหน้าปัดและทำให้ระบบอิเลคโทรนิคบางส่วนทำงานบกพร่อง

“ระบบอิเลคโทรนิคที่มีปัญหาส่งผลต่อการทำงานบางฟังก์ชั่น อาทิ กล้องมองภาพด้านหลัง ไฟเลี้ยว และใบปัดน้ำฝน” Honda ระบุ

ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นยังเรียกคืนรถยนต์อีก 430,000 คันใน 22 มลรัฐทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาที่มีการใช้เกลือโรยบนถนนเพื่อละลายหิมะอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เพลาขับสึกกร่อน แต่ไม่มีรายงานอุบัติเหตุ การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากกรณีนี้แต่อย่างใด

รถยนต์ที่ถูกเรียกคืนเพื่อตรวจสอบเพลาขับได้แก่ Honda Civic Hybrid (ฮอนด้า ซีวิค) ปี 2012 Honda Fit หรือ Jazz (ฮอนด้า แจ๊ส) ปี 2007 – 2014 Honda Accord ปี 2013 – 2015 และ Acura ILX ปี 2013 – 2015

คนไทยต้องกังวลหรือไม่

การเรียกคืนรถยนต์ครั้งล่าสุดของ Honda ส่วนใหญ่ (หรือ 1.4 ล้านคัน) เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยที่เหลืออีกเกือบ 4 แสนคันอยู่ในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกแต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่ามีประเทศใดบ้าง 

อย่างไรก็ตาม รถยนต์ที่อาจเข้าข่ายถูกเรียกคืนในประเทศไทยประกอบด้วย CR-V และ  Accord แต่ยังไม่มีการประกาศแจ้งจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย และผู้แทนจำหน่าย Honda ทั่วประเทศว่าจะมีการเรียกคืนเพื่อแก้ไขรถยนต์ในบ้านเรา

ดังนั้น ผู้ใช้รถยนต์ Honda ยังสามารถใช้งานรถได้ตามปกติจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งซึ่งเราจะนำมารายงานให้ทราบต่อไป