เปิดตัว 2021 Mazda BT-50 เผยราคา 553,000 - 1,153,000 บาท กระบะทนทาน ผสานความสวยหรู

2021 Mazda BT-50 (2021 มาสด้า บีที-50) เปิดตัวแล้ววันนี้ 21 มกราคม 2021 เป็นการเปลี่ยนโฉมใหม่หมดจด สานตำนานรถกระบะที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน จุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1961

2021 All New Mazda BT-50 ผสานความสวยงามของการออกแบบที่ใช้แนวคิด Kodo – Soul of Emotion กับความทนทานแข็งแกร่งของพื้นฐานจากรถกระบะ Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมกซ์) ทำให้ All New Mazda BT-50 ใหม่นี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

Mazda มีเป้าหมายที่จะนำพา 2021 Mazda BT-50 ไปสู่ส่วนแบ่งตลาดถึง 6% ซึ่งมากกว่าที่ Mazda เคยทำเอาไว้ได้สูงสุดในอดีต น่าสนใจว่า รถยนต์กระบะรุ่นนี้มีเอกลักษณ์ ความโดดเด่นมากขนาดไหน ที่จะสามารถทำให้ Mazda มั่นใจว่าจะดึงฐานลูกค้ามาจากรถกระบะค่ายอื่น ๆ ได้?

2021 Mazda BT-50 มีตัวเลือกรุ่นย่อยถึง 14 แบบ ตามความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งแบ่งออกแบบ 3 ชนิดตัวถัง ตั้งแต่แบบ Standard Cab ตอนเดียว แบบ Freestyle Cab และแบบ Double Cab 4 ประตู มีสองความสูง แบบปกติ และแบบยกสูง Hi-Racer รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ใช้เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร พร้อมกับระบบเกียร์ 6 จังหวะ ทั้งแบบอัตโนมัติและแบบธรรมดา

ราคาจำหน่าย เผยออกมาที่ 553,000 ในรุ่นพื้นฐานตอนเดียว ถึง 1,153,000 บาท ในรุ่น 3.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ

รูปลักษณ์ภายนอก กับการผสานความแกร่งและความหรูอย่างลงตัว

2021 Mazda BT-50 เป็นรถกระบะที่มีแนวคิดการออกแบบในการเป็นรถกระบะสำหรับทุกโอกาส (Built for Dress and Jeans)

แม้ว่าความหรูหราสง่างาม และความแข็งแกร่งจะเป็นสิ่งที่เหมือนอยู่ตรงข้ามกัน แต่ Mazda BT-50 มีการออกแบบภายนอกที่สามารถผสานสองสิ่งนี้ให้อยู่ร่วมกันได้ ด้วยแนวคิด Kodo – Soul of Emotion

ด้านหน้าของตัวรถ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่แบบตั้งตรงบึกบึน ก่อนที่จะแผ่ขยายด้านข้างไปยันไฟหน้า LED กรอบไฟทรงปีก “Signature Wing” และโคม Projectors ด้านในทรงกระบอก พร้อม Daytime Running Light แบบวงแหวน ในรุ่น 1.9 S ขึ้นไปมีระบบเซนเซอร์ไฟหน้าอัตโนมัติ ทั้งจับความมืด และปรับสูงต่ำ

ในส่วนของด้านท้ายนั้น ก็คงรักษาธีมในการออกแบบเอาไว้ ฝาถังน้ำมันทรงสีเหลี่ยมคางหมู ทอดเส้นต่อไปยังซุ้มล้อและไฟท้าย ซึ่งใช้แผงด้านในทรงกระบอกเช่นเดียวกับไฟหน้า กันชนหลังนั้นเป็นแบบแยกกับตัวถัง พ่นสีเดียวกับตัวรถ สร้างความรู้สึกแน่นหนาและแข็งแกร่ง

ด้านข้างมีมือจับประตูโครเมี่ยม และบันไดข้างโลหะปัดเงา อยู่ใต้กับประตูของรุ่น Freestyle Cab แบบเปิดได้ ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยลายเฉพาะที่ออกแบบมาเข้ากับดีไซน์ของตัวรถ ขนาดตั้งแต่ 16 ถึง 18 นิ้ว ในขณะที่รุ่น Standard Cab ใช้ล้อ Steel Wheel ขนาด 15 นิ้ว

2021 Mazda BT-50 มีสีให้เลือก 6 สีด้วยกัน 

• สีน้ำเงิน Gunblue
• สีเทา Concrete Grey
• สีแดง Red Volcano
• สีดำ True Black
• สีเงิน Ingot Silver
• สีขาว Ice White

ภายในที่รองรับผู้โดยสารที่ต้องการความสะดวกสบายได้ดี

ในด้านของภายใน 2021 Mazda BT-50 ก็ถูกออกแบบมาให้รับการภายนอกได้เป็นอย่างดี แม้ว่าชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งจะใช้ร่วมกับ Isuzu D-Max แต่ก็มีชิ้นส่วนเฉพาะที่ได้รับการออกแบบปรับปรุงให้เข้ากับตัวรถที่มากขึ้น เช่น แผงคอนโซลสไตล์เรียบหรู และแป้นแตรพวงมาลัยทรงกลม สไตล์ Mazda

ภายในซึ่งถูกออกแบบมาให้มีความเงียบ สงบ รองรับสรีระของผู้โดยสาร ลดความตึงเครียดและความเหนื่อยล้าในการเดินทาง เป็นการใช้จุดเด่นของ Mazda ให้เป็นประโยชน์ แม้ว่าจะเป็นรถกระบะ แต่ก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายเหมือนรถเก๋ง มีการใช้แผ่นกันเสียง และบุฉนวนเข้ากับพรมของรถเพื่อลดทั้งเสียงรบกวนที่จะเข้าสู่ห้องโดยสาร

อุปกรณ์ที่โดดเด่นในรุ่นท๊อป SP อาทิเช่นแผงหน้าจอกลางแสดงข้อมูลขนาด 9 นิ้ว มาพร้อมกับการสั่งการด้วยเสียง ระบบ Android Auto/Apple Car Play เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า และปุ่มสตาร์ทเครื่องบนรีโมท รวมไปถึงเครื่องเสียง พร้อมลำโพง 8 ตัว

ในรุ่น Double Cab มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และที่วางแก้วน้ำ ซึ่งสามารถใส่ขวดขนาด 1.5 ลิตรอีกด้วย

ถ้าหากท่านเลือกรุ่น SP ภายในเบาะหนัง จะได้วัสดุสีน้ำตาล ในขณะที่รุ่นอื่น ๆ ใช้เบาะผ้าวัสดุสีดำ

ขุมพลังอันคุ้นเคย พิสูจน์แล้วถึงความแรงและทนทาน

เครื่องยนต์ของ 2021 Mazda BT-50 นั้นมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ เป็นชนิดเชื้อเพลิงดีเซล

เครื่องแบบแรก ขนาดเล็ก สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มีขนาด 1.9 ลิตร อันเป็นเครื่องยนต์ซึ่งพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ แม้จะมีขนาดเพียง 1.9 ลิตร แต่สร้างพละกำลังสูงสุดถึง 150 แรงม้า

ในขณะที่เครื่องขนาดใหญ่ 3.0 ลิตร ซึ่งมาพร้อมกับรุ่น 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็เป็นเครื่องยนต์ที่เลื่องชื่อ พิสูจน์ความทนทานกันมาแล้วเป็นเวลาหลายปี ใช้ระบบเทอร์โบแบบแปรผันซึ่งสร้างพละกำลังได้ในทุกช่วงย่านความเร็ว กำลังสูงสุด 190 แรงม้า

ทั้งสองรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซล ชนิด B20 และใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Rev-tronic และแบบธรรมดา 6 จังหวะ ของ Aisin ซึ่งมีความทนทานสูง และส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ ซึ่งมาพร้อมกับเกียร์ Low Range สำหรับเพิ่มพละกำลังในการขับออฟโรด อีกทั้งยังมีระบบล็อกเฟืองท้ายแบบ Electronic Actuator สั่งการด้วยลูกบิดหมุนและปุ่มกด

ช่วงล่าง ระบบบังคับเลี้ยว และระบบเบรก อัพเกรดใหม่

2021 Mazda BT-50 ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone และช่วงล่างหลังแบบแหนบ Leaf-Spring คานแข็ง ซึ่งถูกออกแบบมาให้นอกจากจะสามารถบรรทุกสิ่งของหนักได้แล้ว ก็ยังคงความนุ่มนวลแก่การโดยสาร ทำให้ Mazda BT-50 ไม่ได้เป็นเพียงแต่รถเพื่อการพาณิชย์ แต่ยังสามารถใช้งานเป็นรถประจำวันได้ดี

ระบบเบรกนั้น มีการขยายขนาดของดิสก์หน้าในรุ่น 4X4 เป็น 17 นิ้ว จากเดิม 16 นิ้ว ซึ่งทำให้แรงเบรกมีมากขึ้น ควบคุมความเร็วได้ดีขึ้น และยังมีการอัพเกรดความสามารถของหม้อลมเบรกอีกด้วย และมาพร้อมกับระบบป้องกันล้อล็อก ABS กับระบบกระจายแรกเบรก EBD สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่สูงสุด ในทุกรุ่นย่อยตั้งแต่ Standard Cab จนถึงรุ่นท๊อป

ระบบความปลอดภัย ทั้งแบบ Active และ Passive ช่วยสร้างความอุ่นใจแก่ผู้ขับขี่

2021 Mazda BT-50 มีโครงสร้างของตัวรถที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน นอกจากนี้ ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ใบ ในรุ่นท๊อป SP และยังมีการใช้ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS และระบบควบคุมการทรงตัว ESC ให้เลือกในรุ่นย่อยเกียร์อัตโนมัติทุกรุ่น และรุ่น 1.9 S

ที่สำคัญ คือการเพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่าง ๆ ตั้งแต่รุ่น 1.9 S ขึ้นไป อาทิเช่น

• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
• ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน หรือ HLA

นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบความปลอดภัยเมื่อชนคนเดินถนน ได้รับคะแนนที่ดีอีกด้วย ปลอดภัยต่อทั้งผู้โดยสารในรถ และนอกรถ

ตั้งเป้า สร้างความคุ้มค่า ทั้งค่าตัวและค่าบำรุงรักษา

2021 Mazda BT-50 มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นในรุ่น Standard Cab ตอนเดียว เกียร์ธรรมดา 553,000 บาท รุ่น Freestyle Cab ราคาตั้งแต่ 679,000 บาท ถึง 832,000 บาท ในขณะที่รุ่น 4 ประตู ราคาตั้งแต่ 771,000 บาท ถึงรุ่นท๊อปสุด ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,153,000 บาท ราคาดังกล่าวนี้ใกล้เคียงกับเพื่อนร่วมแพลตฟอร์ม Isuzu D-Max นั้น แตกต่างกันในระดับหลักพันในรุ่นที่ใกล้เคียงกัน

นอกจากนี้ Mazda ยังตั้งเป้าหมายให้ Mazda BT-50 เป็นรถกระบะที่ค่าบำรุงรักษาถูกที่สุดอีกด้วย โดยที่ในปีแรกจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเพียง 1,000 บาท และในระยะ 5 ปี จะมีค่าบำรุงรักษารวมทั้งสิ้นเพียง 20,000 บาท 

ราคาจำหน่ายของ Mazda BT-50 มีดังนี้