2021 Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC เคาะค่าตัวในไทยที่ 3.19 ล้านบาท

Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ตอบรับกระแสรถแรงในกลุ่ม Mercedes-AMG (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี) เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่ง 2021 Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีแอลเอ 35 4เมติก) เข้าสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยค่าตัวระดับ 3.19 ล้านบาท

โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทต้องการสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดรถยนต์หรูหราอย่างต่อเรื่อง โดยเฉพาะกลุ่มแบรนด์รถสปอร์ตสมรรถนะสูง ที่เติบโตขึ้นถึง 14.9% ในปี 2563 และเติบโต 33.9% เฉพาะไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา

"เอเอ็มจี จีแอลเอ เจเนอเรชันที่ 2 มาพร้อมคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขึ้น และระบบความปลอดภัยที่มากขึ้น รถยนต์คันนี้ยังเป็นรถยนต์คอมแพ็คเอสยูวีเวอร์ชันใหม่ ที่โดดเด่นตั้งแต่กำลังของเครื่องยนต์ ความอเนกประสงค์ รวมไปถึงดีไซน์ภายนอกและภายในแบบสปอร์ต"

รูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดัน

การออกแบบภายนอกของรถคันนี้ โดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีตลอดทั้งคัน กระจังหน้าแบบ AMG specific radiator grille โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าใหม่แบบ LED high-performance พร้อมไฟแบบ Day time running light ที่ให้ความสว่างร่วมกันในทุกมิติ

ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่จาก AMG แบบ 5-twin spoke ขนาด 19 นิ้ว ระบบท่อไอเสียแบบ AMG exhaust system ดีไซน์สปอร์ต การตกแต่งช่องระบายอากาศ AMG front apron อันเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มความปราดเปรียวด้วยสปอยเลอร์หลังแบบ AMG rear apron และ AMG Spoiler lip 

ระบบใบปัดน้ำฝนทำงานแบบอัตโนมัติ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว พับและปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมฝาท้ายที่สามารถเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ โดดเด่นกว่าใครบนท้องถนนด้วยคาลิปเปอร์เบรกที่ตกแต่งด้วยสีเทา พร้อมสัญลักษณ์ AMG บนคาลิปเปอร์อย่างชัดเจน

ห้องโดยสารภายในตกแต่งอย่างเร้าใจ

เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีแอลเอ 35 4เมติก ตกแต่งห้องโดยสารภายในเพื่อมอบความเร้าใจอย่างไร้ที่ติ ด้วยพวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตแบบ 3 ก้านท้ายตัด ตกแต่งด้วยหนัง nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch control  ที่สามารถให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบต่าง ๆ ในรถได้อย่างง่ายดาย

เบาะนั่ง AMG Sport seat แบบสปอร์ต พร้อมเพิ่มความกระชับในทุกรูปแบบการขับขี่ด้วยหนังชนิด ARTICO สลับกับ DINAMICA micro-fibre ตัดเย็บด้วยด้ายสีแดงและเข็มขัดนิรภัยสีแดงตลอดทั้งคัน มาพร้อมไฟล้อมรอบห้องโดยสารแบบ Ambient light ที่เลือกปรับได้ 64 เฉดสี 

ระบบปรับอากาศแบบ THERMATIC แบบ 2 โซน ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยทริมอลูมิเนียม มาพร้อมชุดคันเร่งและแป้นแบบสปอร์ต ระบบแสดงผลข้อมูลที่กระจกบังลมหน้า มาตรวัดความเร็วขนาด 12.5 นิ้ววางต่อกับหน้าจอสัมผัสของ MBUX ขนาด 12.5 นิ้วอย่างสวยงามลงตัว

เครื่องยนต์และโหมดการขับขี่ที่เลือกได้

Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC เลือกใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1,991 ซีซี พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 306 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 3,000-4,000 รอบต่อนาที ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5.1 วินาที 

จับคู่กับระบบส่งกำลัง 8 จังหวะแบบคลัทช์คู่ AMG SPEEDSHIFT DCT 8G transmission รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีในรถยนต์รุ่นนี้เป็นครั้งแรก มาพร้อมระบบช่วยการออกตัวแบบ RACE START function เพื่อให้ออกตัวได้อย่างทรงพลังและเต็มประสิทธิภาพ พร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC 

ช่วงล่างแบบ AMG RIDE CONTROL sports suspension ที่ปรับเข้ากับโหมดการขับขี่ทันทีที่เลือกทั้งโหมด Comfort, Sport และ Sport+ ให้ความมั่นใจในทุกการเข้าโค้ง พร้อมระบบเบรกสมรรถนะสูงแบบ High-performance AMG braking system ที่จะช่วยให้คุณขับขี่ได้ทุกการเดินทาง

ระบบความปลอดภัยล้นคัน

ในรถยนต์คันนี้ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำหน้าอย่างครบครัน เช่น ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist ที่ช่วยค้นหาที่ว่างเพื่อเข้าจอด พร้อมกล้องมองหลัง และระบบเซนเซอร์ PARKTRONIC ที่ช่วยให้จอดได้อย่างง่ายดาย

ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ Active Brake Assist มาพร้อมระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST และโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ Electronic Stability Program มาพร้อมระบบแสดงสถานะของลมยาง และอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัย

ตัวรถมาพร้อมถุงลมนิรภัยรอบคัน ประกอบไปด้วย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัยป้องกันด้านข้าง 4 ตำแหน่ง พร้อมถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่ รวมไปถึงยังติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดทั้ง 5 ตำแหน่งที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร

ระบบ MBUX รุ่นล่าสุด ควบคุมได้อย่างง่ายดาย

Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC ผสานทุกการควบคุมผ่านระบบ MBUX รุ่นล่าสุด ที่แสดงผลผ่านหน้าจอแบบ Digital Widescreen cockpit ขนาด 10.25 นิ้วจำนวน 2 หน้าจอ พร้อมโหมดการแสดงผลพิเศษแบบ AMG-specific display รวมถึงระบบสัมผัส AMG centre console 

ติดตั้งระบบสัมผัสหน้าจอ แป้นควบคุมแบบ Touchpad และระบบสั่งการด้วยเสียงรูปแบบใหม่ที่สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้ง่ายเพียงพูดว่า “Hey Mercedes” ระบบเชื่อมต่อ Smartphone integration ที่ใช้งานได้ทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto และระบบแผนที่นำทางแบบ 3 มิติ

เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ด้วยระบบสัญญาณ 4G-LTE แบบ E-SIM สามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เช่น เส้นทาง จุดหมายสำคัญ รายงานสภาพจราจรแบบ Live traffic ฟังวิทยุแบบ Online Radio รวมถึงสามารถติดต่อสื่อสารกับศูนย์บริการได้โดยตรง ด้วยการติดต่อหลากหลายรูปแบบในรถยนต์คันนี้