2021 Honda HR-V (2021 ฮอนด้า เอชอาร์-วี) ใหม่ได้เสียงตอบรับอย่างท่วมท้นในประเทศญี่ปุ่น ด้วยยอดจองทะลุหลัก 32,000 คันในช่วง 2 เดือนหลังจากเปิดตัวจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านี้ Honda ประกาศตั้งเป้าหมายยอดขาย 2021 HR-V ใหม่ (หรือทำตลาดญี่ปุ่นในชื่อ Vezel) ในช่วงเปิดตัวไว้ที่เพียง 5,000 คันต่อเดือนเท่านั้น แต่หลังจากผ่านไป 2 เดือนคือเมษายน-พฤษภาคม ปรากฎว่า ยอดจองพุ่งทะลุเกินเป้าไปกว่าเท่าตัว ถือว่าประสบความสำเร็จเหนือกว่ารถซับคอมแพ็กต์ที่มีค่าตัวถูกกว่าอย่าง Honda Jazz (Fit) ใหม่ในตลาดบ้านเกิดอีกด้วย
ลูกค้าในเมืองไทยจะได้ใช้ 2021 HR-V ใหม่กันอย่างแน่นอนภายในปลายปีนี้ ตามมาด้วย 2022 Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ใหม่ที่จ่อคิวเปิดตัวในบ้านเราเช่นเดียวกัน
ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัยระบุว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อ 2022 HR-V ใหม่คือกลุ่มลูกค้าที่เคยเป็นเจ้าของ HR-V รุ่นเดิมเนื่องจากชื่นชอบในสมรรถนะ ความอเนกประสงค์ และอ็อปชั่นที่เพิ่มเติมเข้ามา นอกจากนี้ ลูกค้าที่เคยครอบครองรถมินิแวน รถแฮทช์แบ็ก และรถซีดานก็เปลี่ยนใจมาหารถเอสยูวี-บีรุ่นใหม่นี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับจุดขายที่ลูกค้ามีความประทับใจใน HR-V ใหม่มากที่สุด ได้แก่ 1. ขุมพลังไฮบริด e:HEV ที่ประหยัดและมีสมรรถนะดีเยี่ยม 2. รูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งผสานห้องโดยสารที่กว้างขวาง และ 3. ระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่อัพเกรดจากรุ่นเดิม
เครื่องยนต์ที่ลูกค้าในญี่ปุ่นเลือกซื้อมากที่สุดเป็นระบบไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่มีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 93% ส่วนที่เหลืออีก 7% เป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปปกติ บล็อกเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร
ทั้งนี้ Honda นำเสนอ HR-V ใหม่ในญี่ปุ่นทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่รุ่น G ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปรุ่นเดียว ส่วนอีก 3 รุ่นเป็นไฮบริด ได้แก่ e:HEV X มีสัดส่วนยอดขาย 5% รุ่นรองท็อป e:HEV Z มีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 76% และรุ่นท็อป e:HEV Play มีสัดส่วน 12%
มีรายงานว่ารุ่นท็อปซึ่งเป็นรุ่นเดียวที่มาพร้อมสีทูโทนทั้งตัวถังภายนอกและภายในห้องโดยสารนั้นต้องรอคิวรับรถนานกว่า 1 ปี นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ลูกค้าในญี่ปุ่นมองข้ามและหันไปเลือกรุ่นรองท็อปแทน
ทางด้านสัดส่วนยอดขายระหว่างรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้ออยู่ที่ 81% และ 19% ตามลำดับ
ปิดท้ายด้วยสีตัวถังที่ลูกค้าแดนซามูไรชื่นชอบมากที่สุด อันดับหนึ่งคือสีขาว Platinum White Pearl มีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 33% อันดับสองคือสีดำ Crystal Black Pearl ทำยอดขาย 18% และสีขาว Premium Sunlight White Pearl มียอดขาย 17%
ส่วนสีทูโทนในรุ่นท็อปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือสีขาว Premium Sunlight White Pearl ตัดกับหลังคาสีดำ รองลงมาคือสีน้ำตาล Sand Khaki Pearl กับสีดำ และสีน้ำเงิน Midnight Blue Beam Metallic กับสีเงินในอันดับสองและสามตามลำดับ
ตรวจสภาพรถ 175 จุด
รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน
การรับประกัน 1 ปี
ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
{{variantName}}
{{carMileage}} กม.
{{registrationYear}} ปี
{{storeCity}}